Samsung SDI เตรียมสร้างแบตอตอรี่ทรงกระบอกสำหรับรถไฟฟ้าในอนาคต

Samsung SDI เร่งกำลังการผลิตแบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ Cheonan เพื่อส่งให้กับ Tesla และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆต่อไป

Samsung SDI ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของประเทศเกาหลี กำลังขยายโรงงานเพื่อผลิตแบตเตอรี่โดยตั้งเป้าให้โรงงาน Cheonan เป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายเป็น Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ โดยททางโรงงานแห่งนี้ สามารถผลิตแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนจะส่งให้กับผู้ผลิตรถยนต์์ไฟฟ้าหลายๆแบรนด์

ทาง Samsung SDI กำลังทดสอบแบตเตอรี่ทรงกระบอกที่มีขนาดใหญ่ ภายใต้รหัส 4680 ซึ่งจะมีขนาดศูนย์กลาง 46 มม. และยาว 80 มม. เป็นแบตเตอรี่แบบเดียวกับทาง Tesla ใช้ที่ผลิตภายในโรงงาน Giga Texas ซึ่งเป็นแบบเดียวกับทาง Samsung SDI กำลังทดสอบและพัฒนาอยู่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของขนาดที่เท่ากันแต่ มีขนาดที่ยาวกว่า โดยการผลิตแบตเตอรี่ทั้ง 2 รูปแบบนี้จะมีการปรับสายการผลิตเล็กน้อย ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้

แบตเตอรี่ รหัส 4680 คืออะไร?

แบตเตอรี่ 4680 คือแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 46 มม. และยาวที่ 80 มม.เมื่อเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ 2170 แบบเดิม พบว่าแบตเตอรี่ 4680 มีความหนาแน่นอนพลังงานมากกว่าถึง 5 เท่า และสามารถส่งงพลังงานได้มากถึง 6 เท่าช่วยเพิ่มระยะการใช้งานได้ไกลขึ้นถึง 16%

Tesla 4680 เป็นแบตเตอรี่อันดับ 1 ของโลกที่นิยมและดีที่สุด ผลิตขึ้นภายในโรงงานของเทสลา เพื่อใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าหลายๆรุ่นโดย ตอนนี้ทาง เทสลาเองก็กำลังมองหาผู้ผลิตแบตเตอรี่เจ้าอื่นๆ โดยปัจจบันนี้ซัมซุงผลิตแบตเตอรี่ทรงกระบอกประเภท 2170 และ 1865 สำหรับสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กต่างๆ

BMW ก็อาจจะใช้แบตเตอรี่รหัส 4680 ด้วย

และไม่เพียงแต่ เทสลาเท่านั้น ทางซัมซุงเองก็มีแผนที่จะเสนอ แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง BMW ให้มาใช้แบตเตอรี่รหัส 4680 นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง BMW เอง ก็เคยมีการใช้งานแบตเตอรี่จากทาง Samsunng SDI กับรถยนต์ไฟฟ้า BMW i3 มาก่อนหน้านี้ด้วย

ตลาดผู้ผลิตแบตเตอรี่ร้อนแรง
ในปัจจุบัน ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลกนั้นมีอยู่หลากหลายบริษัท โดยไม่ได้มีเพียงแค่ SAMSUNG SDI และ Tasla เท่านั้น แต่รวมไปถึง LG, Panasonic ,Samsung และ CATL โดยทุกบริษัทต่างมุ่งตรงไปหา Tesla เนื่องจากครองไปทั้งหมด 33.7% ตามมาด้วย LG Energy ที่ 14.9% และ และ BYD ที่ 12.1% ส่วน Samsung ครอวส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่เพียง 4% ลดลงจากปีที่แล้ว ถึง 5.8%

ข่าวสารรถยนต์

ความลับของกุญแจรีโมทที่คุณอาจจะยังรู้ไม่หมด

แน่นอนว่า การพัฒนาของเทคโนโลยีต่างๆ ก็ต้องพัฒนาตามกาลเวลา รวมไปถึงกลไกตลาดและความต้องการของกลุ่มลูกค้า รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก็ต้องพัฒนาทั้งระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งานไปด้วย

1. กุญแจรีโมทจะ มีกุญแจสำรอง

เชื่อว่ามือใหม่อาจจะยังไม่ทราบว่า กุญแจรีโมทที่คุณใช้อยู่นั้นทางผู้ผลิตได้มีการออกแบบซ่อนกุญแจแบบไขมือเอาไว้ภายในกุญแจรีโมท เพื่อเป็นกุญแจสำรอง โดยประโยชน์ของมันก็คือ สามารถใช้เป็นกุญแจสำรองเมื่อเวลารถแบตเตอรี่รถยนต์หรือถ่านรีโมทหมดก็สามารถใช้กุญแจสำรองนี้ ไขประตูเพื่อเปิดประตู และยังสามารถใช้เพื่อปลดเกียร์ว่างได้อีกด้วย

2. กุญแจถ่านหมดก็ยังสามารถสตาร์ทได้

กุญแจรีโมทที่ถ่ายหมด ยังสามารถสตาร์ทรถได้อยู่โดยผู้ออกแบบรถยนต์จะมีการฝังชิปที่มี Code เฉพาะที่ไม่สามารถใช้ร่วมกับรถคันอื่นๆได้ โดยกุญแจแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีวิธีการที่ต่างกัน

  • กุญแจรีโมทแบบเสียบ ในบางรุ่นจะมีช่องกุญแจสำหรับเสียบเพื่อปลดล๊อค Code ยืนยันการสตาร์ทโดยเสียบไปที่ช่องกุญแจที่ผู้ออกแบบซ่อนไว้ อาจจะพบเห็นในยี่ห้อต่างๆ ตัวอย่างเช่น Mitsubishi , Nissan , Mini Cooper
  • กุญแจรีโมท Immobilizer จะเป็นกุญแจแบบฝังชิพที่ใช้การส่งคลื่นสัญญาณในการปลดล๊อคอุปกรณ์ต่างๆภายในรถยนต์ และ ยังมีความสะดวกสบายในการใช้งานหากถ่านรีโมทประเภทนี้หมดหรือถ่านอ่อน เพียงแค่ เหยียบเบรค และนำรีโมทไปกดกับปุ่มสตาร์ทก็สามารถสตาร์ทรถได้เลย

3.สามารถเปิด-ปิดกระจกหน้าต่างหรือซันรูฟ

ในรถขนาดกลางหรือ Sedan บางรุ่นจะมีฟังค์ชั่นพิเศษอย่าง เปิด – ปิดกระจกหน้าต่าง และซันรูฟ อยู่โดยการกดปุ่มปลดล๊อคค้าง เป็นเวลา 5 วินาทีก็จะทำงาน หรือ กดปุ่ม ล๊อคค้าง 5 วินาทีก็จะเป็นคำสั่งปิดกระจกและซันรูฟ แล้วหละครับ

4.มีคำสังพับกระจกข้างได้

ในรถยนต์เก๋งซีดานรุ่นใหม่ๆจะมีคำสั่งพับกระจกข้างใส่มาให้แล้ว เพียงแค่ หลังจากที่กดล๊อค 1 ครั้ง ให้กดล๊อคค้างประมาณ 3 วินาที อีก 1 ครั้งก็จะเป็นการพับกระจกข้างแล้วหละครับ

5.มีคำสั่งตาร์ทรถ

คำสั่งสตาร์ทรถจะอยู่ในรถระดับพรีเมี่ยมแต่เดี๋ยวรถยนต์ระดับท๊อปๆรุ่นใหม่ๆบางรุ่นก็ได้นำระบบนี้เข้ามาไว้แล้ว จะเห็นได้ใน Honda Civic FD และรุ่น FK ,Honda Accord ปี 2016 ขึ้นไป และในรถพรีเมี่ยมหลายๆรุ่น โดยจะมีปุ่มสตาร์ทที่เป็นสัญลักษณ์ลูกศรวน (ตามภาพ) เพียงแค่ กดค้าง 5 วินาทีก็สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ผ่านรีโมทได้แล้ว

ข้อมูลทั้งหมดนนี้จะขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนะครับ โดยสามารถศึกษาอ่านควบคู่กับคู่มือการใช้ร่วมด้วย หรือสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านสื่อโซเชี่ยลต่างๆ ได้อีกด้วย

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม

ติดตั้งระบบแก๊ส NGV/CNG และ LPG ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

ทุกวันนี้ต้องบอกว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มมากยิ่งขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัวจากที่เคยเป็นอยู่เพราะเนื่องจากเชื้อเพลิงต่างๆมีราคาที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ฉะนั้นพลังงานทางเลือกนั้นเริ่มมีความจำเป็น ถึงรถๆพลังงานไฟฟ้าจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตแต่ก็ถือว่ายังมีราคาที่สูงเกินไป ฉะนั้นบางงคนเริ่มหันจะมาใช้ระบบแก๊สเพื่อลดต้นทุนในการเดินทางครับ

บางคนอาจจะไปติดตั้งระบบแก๊สมาแล้ว แต่ยัง งง และไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ
สำหรับบทความนี้ เราลองมาดูกันนะครับว่า “หลังจากที่ติดตั้งระบบแก๊สจะต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง”

ก่อนอื่นเราต้องเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการแจ้งการติดตั้ง ทั้งระบบ NGV และ LPG

  • สำเนาทะเบียนรถ
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • หนังสือรับรองจากอู่ติดตั้ง

เมื่อเราได้ทำการติดตั้งระบบ ก๊าซ NGV และ LPG เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องดำเนินการให้ดถูกต้องและ ถูกกฎหมายด้วย โดยทางอู่ที่ติดตั้งระบบก๊าซจะออกหนังสือ ตต-09 และใบรับรองวิศผู้ตรวจสอบเพื่อนำไปจดทะเบียนรถติดตั้งแก๊สที่กรมขนส่งทางบก

จากนั้นเรามาสำรวจว่าสภาพรถยนต์และระบบต่างๆ ว่าเราสามารถติดตั้งระบบแก๊สได้ไหม สำหรับรถไหมหรือรถป้ายแดงก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากเป็นรถที่เกิน 7 ปีขึ้นไปจะต้องตรวจสภาพกันก่อน อุปกรณ์หลักคือคอยล์จุดระเบิด หัวเทียน และสายหัวเทียน กรองอากาศ ระบบหม้อน้ำและ ท่อน้ำต่างๆ

  • หัวเทียน ตามปกติหัวเทียนจะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 40,000-60,000 กิโลเมตร และหัวเทียนแบบอิริเดียมจะมีอายุการใช้งานถึง 100,000 กิโลเมตร แนะนำว่าให้เปลี่ยนก่อนที่จะิตดตั้งระบบแก๊สนะครับ แต่ถ้าหากเพิ่งเปลี่ยนไม่นานก็ยังสามารถใช้งานได้ปกติครับ
  • คอล์ยจุดระเบิด (ignition coil) จำเป็นอย่างมากสำหรับรถยนต์ที่ใช้แก๊ส ทำหน้าที่สร้างแรงดันมรการจุดระเบิด โดยอายุและการใช้งานทั่วไไปจะอยู่ราวๆ 150,000 กิโลเมตร ครับ
  • สายหัวเทียน ทำหน้าที่ส่งกำลังไฟฟ้าเพื่อมาใช้จุดระเบิดหาเสื่อมสภาพ เช่น ชำรุด ฉนวนหุ้ม กรอบแตก อาจจะเกิดไฟรั่วได้ หรืออาจจะเข้าระบบกราวทำให้หัวเทียนจุดระเบิดด้ไม่เต็มที่ อาจจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานสะดุด โดยเฉพาะในช่วงเดินเบา เร่งไม่ขึ้น หรือมีอาการดับกลางทางด้ โดยเฉพาะหัวเทียนไม่จุดระเบิด จะทำให้กิินน้ำมัน หรือเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ
  • ระบบหม้อน้ำ ท่อน้ำหรือ ระบบหล่อเย็น เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ทั้งระบบจ ข้อต่อ วาล์วน้ำ พัดลมหม้อน้ำ และ ระดับน้ำจะต้องพร้อมเพราะจะต้องใช้ความร้อนจากหม้อต้มเพื่อทำละลายระบบแก๊สก่อนเข้าเครื่อง

สำหรับคนที่ต้องการจดทะเบียน ระบบพลังงานทางเลือกอย่าง ก๊าซ NGV/CNG หรือ LPG ก็ไม่ได้ยากอย่างทที่คิดนะครับนอกจากจะได้ทั้งความปลอดภัยในการใช้งานแล้วยังได้ความอุ่นใจอีกด้วย เพียงแค่เราพยายามทำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจแล้วครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม

5 อาการของแอร์รถที่มักจะเสียตามระยะ มักจะพบได้บ่อย มีอะไรบ้าง

แน่นอนว่าเมื่อใช้งานรถยนต์ไปนานๆก็ต้องเพิ่มการดูแลและเอาใจใส่ให้มากยิ่งขึ้น แอร์ของรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญภายในรถที่จะช่วยให้คุณใช้รถได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถยนต์หละก็ อาจจะต้องทำการบ้านเพื่อทราบถึงรายละเอียดต่างๆ ว่าการถึงอาการเสียที่เกิดจากการใช้งานซึ่งแน่นอนว่าทุกคนที่ใช้รถเก่าๆ ต้องเจออย่างงแน่นอน

  1. น้ำยาขาดรั่ว ซึม
  2. ระบบระบายความร้อนไม่ทำงาน
  3. ลูกสูบคอมเพลสเซอร์หลวม
  4. สายพานคอมเพลสเซอร์หย่อน
  5. หน้าคลัทช์คอมเพลสเซอร์เสื่อม

1.น้ำยาแอร์ขาดรั่วซึม

เป็นปัญหาที่พบบ่อยสำหรับผู้ที่ใช้รถเก่าปีลึก เพราะระบบปิดของน้ำแยแอร์อาจจะรั่วซึมได้ โดยเฉพาะรถที่ผ่านการจอดมาอย่างยาวนาน หรือไม่ค่อยได้ใช้งาน เพราะหัวศรของหัวเติมน้้ำยานั้นมีวัสดุที่เป็นยางประกอบอยู่ด้วย และแน่นอนว่า การใช้งานที่ผ่านมาทั้งความร้อนและอายุก็จะทำให้ยางตัวนี้เสื่อมสภาพและแข็งจึงทำให้มีการรั่วซึมของน้ำยาฉะนั้นการไล่ระบบและตรวจเช็คก็ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งก่อนให้ช่างเติมน้ำยาแอร์นะครับ

โดยน้ำยาแอร์ที่ใช้จะต้องเป็นรหัส R-134a เท่านั้น โดยจะต้องเติมตามขนาดที่เหมาะสมตามป้ายที่แต่ละยี่ห้อดไ้กำหนดไว้โดยสามารถดูได้จากป้ายที่แปะไว้ตามฝากระโปรงหรือข้างเครื่องยนต์

2.ระบบระบายความร้อนไม่ทำงาน

ระบบระบายความร้อนของระบบแอร์นั้นถือว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะถ้าหากระบายความร้อนเสียหรือไม่ทำงานขึ้นมานั้น นอกจากแอร์จะไม่มีความเย็นเพราะไม่สามารถถ่ายความร้อนออกได้แล้วจะทำให้ระบบต่างๆของแอร์นั้นเสียไปด้วยนั่นเอง
โดยคุณสามารถสังเกตได้จากพัดลมระบายเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดแอร์ เมื่อระบบแอร์ทำงานคอมเพลสเซอร์ก็จะต้องเริ่มทำงานในขณะที่จอดรถอยู่นิ่งๆ และเมื่ออุณหภูมิสูงถึงจุดที่ทางโรงงาน Set ไว้พัดลมระบายคอมเพลสเซอร์ก็ต้องทำงานตามไปด้วยนั่นเอง

3.ลูกสูบคอมเพลสเซอร์หลวม

ในระบบคอมเพลสเซอร์จะทำงานโดยอาศัยแรงหมุนของเครื่องยนต์เป็นหลัก เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนกระบอกสูบให้ทำงานสร้างแรงอัดภายในคอมเพลสเซอร์ เพื่อดันให้น้ำยาแอร์อัดและฉีดในระบบความเย็น ในกรณีที่ลูกสูบคอมเพลสเซอร์เกิดการหลวมด้วยอายุการใช้งาน จะทำให้แรงดันภายในนั้นลดลงจนทำให้ไม่สามารถได้แรงดันในการฉีดเท่าที่ควร ทำให้

4.สายพานคอมเพลสเซอร์หย่อน

สายพานคอมเพลสเซอร์ มีหน้าที่ถ่ายทอดกลังเครื่องยนต์ไปยังอุปกรณ์ต่างๆภายในเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพาวเวอร์ ไดชาร์จ ปั้มน้ำ ปั้มลมเบรค รวมไปถึง คอมเพลสเซอร์แอร์ ก็ล้วนแล้วเกิดจากการถ่ายทอดกำลังจากเครื่องงยนต์ผ่านสาพานทั้งสิ้น การที่สายพานหย่อนก็หมายความว่าอุปกรณ์ต่างๆภายในเครื่องยนต์ก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพไปด้วยนั้นเอง และเสี่ยงต่อการชำรุดของสายพานอีกด้วย

5.หน้าคลัทช์คอมเพลสเซอร์เสื่อม

หน้าคลัทช์คอมเพลสเซอร์เสื่อม เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญของระบบแอร์รถยนต์ โดยจะเป็นตัวจับระหว่างพูเลย์สายพานกับพูเลย์ของคอมเพลสเซอร์ให้หมุนไปด้วยกัน ความสำคัญของแผนหน้าคลัทช์คอมคือเป็นอุปกรณ์ที่จะทำหน้าที่ตัดหรือต่อระบบการทำงานของคอมเพลสเซอร์ตามการสั่งงานของระบบแอร์แอร์และอุณหภูมินั่นเอง

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม

6 อุปกรณ์แต่งรถซิ่ง สวยถูกใจแต่อันตรายถึงชีวิต

ในปัจจุบันอุปกรณ์แต่งรถในท้องตลาดมีหลากหลายให้ได้เลือกซื้อเลือกใช้ ทั้งเสริมประสิทธิภาพของรถยนต์ และ เสริมความสวยงามตามสไลต์อีกทั้งยังมีราคาหลายระดับตั้งแต่ของเทียมจนไปถึงของแท้ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของแต่ละคนและไม่ใช่ทุกชิ้นที่จะมีประโยชน์และสวยงามเพียงเท่านั้น แต่มันอาจจะแฝงไปด้วยโทษมหันต์ที่เราอาจจะไม่คาดคิดอาจถึงชีวิตอีกด้วย

บทความนี้ผมขอยกตัวอย่าง 6 ชิ้นที่สุดอันตรายและเคยเกิดอันตรายจาก ของแต่งเหล่านี้มาแล้วมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

1.พวงมาลัยซิ่ง

พวงมาลัยแต่งตามท้องตลาดที่ขายในปัจจุบัน เรียกว่าเป็นสิ่งที่ยอดฮิตสำหรับคนที่ชอบแต่งรถโดยเฉพาะพวงมาลัยที่สามารถถอดและใส่ได้ถือว่าเป็นรุ่นที่เทห์ดึงดูดสายตาคนที่เห็นอย่างมาก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า พวงมาลัยเหล่านี้เมื่อเปลี่ยน ก็จะต้องตัดฟังค์ชั่นที่ปกป้องชีวิตของคุณอย่าง Air Bag ออกไป และความแข็งแรงของพวงมาลัยแต่ก็ไม่สามารถเทียบกับพวงมาลัยเดิมจากศูนย์ได้

2.แป้นรองคันเร่ง

แป้นรองคันเร่งก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์แต่งรถที่สามารถทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน เพราะนอกจากความสวยแล้วอาจจะแฝงมาด้วยความอันตรายอีกด้วย เพราะถ้าหากคุณซื้อแป้นรองคันเร่งรุ่นที่ขนาดใหญ่เกินไปหรือหนาเกินไป ก็อาจจะทำให้การขับขี่ลำบากยิ่งขึ้น หรือบางครั้งน๊อตที่ยึดแป้นเบรคยาวเกินไปเพราะทางผู้ผลิตต้องการที่จะให้สามารถติดตั้งได้กับทุกรุ่น ก็จะทำให้การเบรคไม่สุดและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เบรคไม่อยู่ แป้นคันเร่งติด หรือสาเหตุอีกมากมาย อาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียวครับ

3.ฝาครอบคาลิปเปอร์เบรค

ฝาครอบคาลิปเปอร์เบรค เป็นของแต่งชุดเบรคที่ทำให้ดูสปอร์ท และยังเป็นของประดับรถยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบความสวยงาม เนื่องจากชุดเบรคยี่ห้อต่างๆตามตลาดนั้นมีราคาสูงมาก และยังเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มคนแต่งรถจึงทำให้บางคนหันไปซื้อฝาครอบที่ เพื่อมาประดับเป็นสีสันให้กับวงล้อเพราะด้วยราคาที่ถูกกว่ามาก แต่เรียกว่าเป็นอันตรายอย่างมากเพราะมันมีโอกาสที่จะหลุดและปั่นกับล้อได้เมื่อโดนกระแทกแรงๆและอาจจะเข้าไปติดกับเบรคทำให้รถเสียหลักจนเกิดอันตรายได้

4.พรมปูรถยนต์

พรมปูรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์แต่งรถที่ดูไม่มีพิษมีภัย แต่รู้หรือไม่ว่ามันสามารถสร้างปัญหาให้คุณได้เช่นกันเพราะพรมปูรถยนต์ในปัจจุบันมีหลากหลายแบบ ทั้งเป็นแบบลายหรูดูเต็มคัน หรือที่เขาเรียกว่า พรมปูรถยนต์แบบ 3D และ 6D ซึ่งมันจะมีความหนาและใหญ่เต็มพื้นที่ ทำให้คันเร่งและเบรคได้ไม่สุด ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อันตรายอาจถึงชีวิตได้เช่นกัน

5.กระจกมองข้างและกระจกมองหลังแต่ง

กระจกมองหลังแต่ง และ กระจกมองข้างแต่ง ที่มีขายตามท้องตลาด สิ่งที่อันตรายสำหรับกระจกเหล่านี้นั้นก็คือขนาดของกระจกประเภทนี้ซึ่งพวกรถแข่งสนามนั้นมักจะใช้กระจกเหล่านี้ จะมีขนาดที่เล็กเรียว และ นำหนักเบาเพื่อลดการต้านของอากาศ ซึ่งด้วยความที่มีความเล็กและเรียวนี่แหละทำให้การมองเห็นลดลงไปด้วย

6.ยางลายซิ่ง (ยางลายซิ่ง)

ยางลายซิ่ง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กลุ่มคนแต่งรถโดยเฉพาะรถกระบะ มักจะชื่นชอบในการเปลี่ยนยางให้มีขนาดที่ใหญ่เล่นออกมาจากตัวถัง และ มีลายดอกน้อยๆ สวยๆ แต่รู้หรือไม่ ว่าลายดอกสวยๆของยางบางรุ่นนั้น ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้งานบนท้องถนนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะความกว้างของหน้ายาง ลายดอกน้อย และศักยภาพในการรีดน้ำฝนก็ทำได้น้อย ทำให้เกิดอาการเหินน้ำจนไม่สามารถบังคับรถได้จนเกิดเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงในที่สุด

สำหรับคนที่ชอบอุปกรณ์แต่งรถ อาจจะต้องคิดถึงปัญหาในการใช้งานซักนิด นอกจากประโยชน์และความสวยงามแล้ว บางครั้งอาจจะทำให้เกิดโทษ จนอาจจะทำให้อันตรายถึงชีวิตอย่างคาดไม่ถึงได้ฉะนั้น อุปกรณ์บางอย่างไม่จำเป็นก็ไม่ซื้อมาใช้เพื่อความปลอดภัยของชีวิตจะดีกว่านะครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม

MG Mulan EV ไฟฟ้าแบตเล็กลงแต่อึดขึ้น 0-100 ภายใน 4 วินาที

MG Mulan ปล่อยตัวอย่างเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดยเตรียมวางขายไปทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทยด้วย และอนาคตอาจจะใช้ชื่อ MG4 EV ในฝั่งยุโรปและสหราชอนาจักร (UK) และได้มีการยืนยันแล้ว ว่า MG4 EV จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ดีไซน์ภายนอกจากภาพตัวอย่าง ล่าสุด จะเห็นว่ารุ่นนี้เป็น ครอสโอเวอร์ ไฟฟ้าขนาด คอมแพกต์ที่พัฒนาบนแพลทฟอร์มโมดูลาร์ SAIC Nevula Pure Electic ดูสปอร์ทและโฉบเฉี่ยว มีเส้นสายลวดลายที่ชัดเจนตั้งแต่ด้านหน้า ตามสไตล์ของ MG ในยุคนี้ ไฟหน้าทรงหลิมคล้ายๆกับ MG3 ในส่วนของห้องโดยสาร อ้อมล้อมไปด้วยกระจกและหลังคาแบบลอยตัว อยาก ซ้าย – ขวา ซึ่งเว้นไว้สำหรับกล้องหรือเซนเซอร์สำหรับในการช่วยขับขี่

MG Mulan เครื่องยนต์และ สมรรถนะต่างๆ สำหรับสเปคแต่จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าไว้บนเพลาหลังขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และได้ติดตั้ง แบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นโดย LBS (Lithium Battery System) ซัพพลายเออร์ สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่ง MG เคลมว่า ให้ความหนาแน่นของพลังงานสูงและมีขนาดที่เล็กลงเมื่อเทียบสัดส่วนกับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ และ MG ได้เผยว่า MG4 EV จะสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ได้ภายในระเวลาประมาณ 4 วินาที

อ่านข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม

หาซื้อรถ MG มือสอง ทุกรุ่นได้ที่ Kitsadagoodcar.com

Huawei EV เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ชาร์จแค่ 5 นาที วิ่งได้ไกลถึง 200 กิโลเมตร

Huawei EV เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ชาร์จแค่ 5 นาที วิ่งได้ไกลถึง 200 กิโลเมตร

ปัญหาหลักของรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น คือการใช้ระยะเวลาในการชาร์ตที่สถานีชาร์จแต่ละครั้ง โดยในการชาร์จก็จะมีแอพพลิเคชั่นแสดงถึงค่าต่างๆของรถยนต์อีกด้วย เรียกว่าเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นสำหรับระบบการ ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ร่นระยะเวลาให้สั้นลงและวิ่งได้ไกลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับประเทศไทย เนื่องจากช่วงก่อนๆที่รถยนต์ไฟฟ้าแรงมากๆ มักมีปัญหาเรื่องที่ชาร์จไฟฟ้าไม่เพียงพอ แต่ในปัจจุบันได้พัฒนาระบบชาร์จให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและตอบโจทย์สำหรับคนยุคปัจจุบัน

โดยปกติแล้ว การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นก่อนหน้านั้น จะอยู่ราวๆ 8 – 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้งและด้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นมาเป็น 20 – 40 นาทีต่อการชาร์ต 1 ครั้ง

Huawai บริษัทยักษ์ใหญ่ในเรื่องอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากประเทศจีน ไม่ได้พัฒนาเพียงแค่มือถือสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เทคโนโลยีอื่นๆเพียงเท่านั้น ในปัจจุบันกำลังพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วยและกำลังมีแผนที่จะปรับพัฒนาระบบการชาร์จไฟฟ้าให้มีระยะเวลาที่สั้นลง ซึ่งมีเวลาเทียบเท่ากับการเติมน้ำมันเลยทีเดียว

ตั้งแต่เมื่อปี 2564 บริษัทได้เริ่มต้นพัฒนาและเปิดตัวโซโลชั่นการขับขี่อัจแรียะที่มีชื่อว่า Driveone ซึ่งรวมไปถึงฟีดเจอร์ต่างๆ เช่นการผสาน IoT อัจฉรียะกับ HarmonyOS การอัพเกรดระบบนำทางสำหรับผู้ขับขี่ เรียกว่า Huawei ได้พัฒนาระบบฟังค์์ชั่นอื่นๆควบคู่ได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย

อ่านข่าวรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม

อีลอนมักส์ ส่งอีเมลถึงพนักงาน หมดเวลา WFH ถ้าไม่กลับมาทำงานที่อ๊อฟฟิสถือว่าลาออก

เรียกว่า ตอนนี้ทำอะไรก็เป็นข่าวไปซะหมดสำหรับมหาเศรษฐี CEO บริษัท เทสล่า (Tesla) กับ SpaceX ได้ส่งถึงพนักงานระดับสูง ให้กลับเข้ามาทำงานที่อ๊อฟฟิสได้แล้วและระบุว่า หากไม่มาปรากฎตัวให้ได้เห็นจะถือว่าพนักงานคนนั้นได้ “ลาออก” จากการเป็นพนักงานบริษัทไปเป็นที่เรียบร้อย

อีลอนมักส์ได้ระบุในข้อความทางอีเมล์อย่างชัดเจนว่า “พนักงานจะต้องเข้ามาทำงงานที่อ๊อฟฟิสอย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จึงจะสามารถที่จะขอทำงานจากระยะไกล (Remote Work) ได้” ส่วนใครทที่เป็นพนักงานสัญญาจ้าง หรือมีข้อตกลงในการทำงานแบบพิเศษเขาจะเป็นคนอนุมัติโดยตรงเอง

อีลอน มักส์ ยังได้ขยายความในคำว่าอ๊อฟฟิสในอีเมลนั้นเอาไว้ว่า หมายถึงสำนักงานของเทสล่าที่ตนเองได้รับมอบหมายให้ไปทำงานเท่านั้นไม่ใช้ไปนั่งทำงานที่สาขาย่อยในรัฐอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมกำชับว่ายิ่งตำแหน่งหน้าที่การงานมีความอาวุโสมากเท่าไหร่ยิ่งจะต้องเข้ามาทำงานในอ๊อฟฟิสมากเท่านั้น หากไม่มาปรากฎตัวในที่ทำงานให้ได้เห็นจะถือว่าพนักงานคนนั้นได้ลาออกไปแล้ว

โดยก่อนหน้านี้ อีลอน มักส์ก็ได้เคยให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับในเรื่องของอุดมคติในการทำงานของคนสองประเทศที่แตกต่างกันนั้นคือจีนและสหรัฐอเมริกา โดยเปรียบเทียบว่า คนจีนพร้อมททำงานจนถึงตีสาม ขณะที่คนอเมริกันมักจะพยายามหนีงานเสมอ และพร้อมบอกว่านั้นคือเหตุผลที่บริษัทที่ประเทศจีนจะแข็งแกร่งกว่าบริษัทอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ข้อความดังกล่าวหลุดออกมาบนทวิสเตอร์ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างล้นหลาม โดยส่วนใหญ่จะพูดไปถึงเรื่องของแนวคิดดังกล่าวอาจจะทำให้ พนักงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อึดอัดและย่ำแย่

อ่านข่าวสารรถยนต์

LG Chem วิจัยพลาสติกแบบใหม่ ความสามารถพิเศษป้องกันเพลิงและความร้อนสูง

LG Chem คือบริษัทผลิตเทคโนโลยีรายใหญ่อันดับต้นๆของเกาหลีใต้ ประกาศกำลังพัฒนา ผลิตภัณฑ์พลาสติกชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันหรือลดความรุนแรงจากสภาวะความร้อนสูงแบบฉับพลัน หรือ Theraml Runaway ในแบตเตอรี่แพค ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุทที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในแบตเตอรี่แพคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธี่ยม-ไอออนนั้น ในปัจจุบันยังคงใช้ลิเธี่ยมเป็นขั้วบวก ซึ่งจะให้ค่าความหนาแน่นของพลังงานมากกว่าคาร์บอนแบบที่เคยใช้อยู่ในยุคก่อนหน้า การเกิดสภาวะ Thermal Runaway ซึ่งมีสาเหตุมาจากลิเธียมทำปฎิกิริยากับของเหลวนำไฟฟ้าในแบตเตอรี่ และทำให้เกิดความร้อนแบบฉับพลัน และยังให้ไม่สามารถคายความร้อนเพื่อลดอุณหภูมิได้ทันเท่าที่ควรทำให้เกิดการลุกไหม้หรือระเบิดได้

ทาง LG Chem อธิบายว่า แรงดันจากปัจจัยต่างๆหลายประการ ล้วนแล้วเป็นปัจจัยส่วนที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ โดยเมื่อเซลล์แบตเตอรี่ดไเ โดยเมื่อมีการไหลของประจุพลังงานจะทำให้เกิดความร้อนจนเกินเกณฑ์ สาเหตุเหล่านี้อาจจะเป็นปัจจัยต่างๆที่ทำให้เกิดภาวะไฟฟ้าลัดวงจร หรือแม้การชาร์จไฟตามปกติเองก็ตาม อาจจะเกิดการ โอเวอร์ชาร์จ ดังนั้นทางบริษัทได้หวังไวเว่า พลาสติกทนความร้อนนี้ จะช่วยยื้อเวลาให้กับผู้ขับและผู้โดยสารหนีออกมาจากรถได้ทันก่อนที่แบตเตอรี่จะเกิดสภาวะ Thermal Runaway นั่นเอง

โดยข้อมูลต่างๆเหล่านี้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดให้เราได้ทราบกัน พวกเขาเพียงแค่ระบุว่าพลาสติกชนิดนี้มีส่วนผสมหลายชนิด เช่น PPO หรือ Polyphenylene Oxide ซึ่งเป็นเทอร์โมพลาสติกที่มีประสิทธิภาพสูงโดยในปัจจุบันวัสดุนี้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ต่างๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพระดับสูง ทั้งผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ และ PA หรือ Polyamide ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัสดุสังเคราะห์ในกลุ่มเทอร์โมพลาสติก และมีคุณสมบัติเด่นกว่าความทนทานแต่แรงดึง และนำหนักเบา ทนความร้อนได้สูง

ในเบื้องต้นนี้ พวกเขาได้ใช้พลาสติกแบบใหม่นี้เป็นแบริเออร์ ป้องกันการลุกลามของเปลวเพลิงที่เกิดจากภาวะ Thermal Runaway โดยมันสามารถทนความร้อนจนถึงจุดหลอมละลายได้นานราวๆ 10 นาที ที่อุณหภูมิ 1000 องศาเซลเซียส หรือคิดเป็น 10 เท่าของพลาสติกทั่วไปในปัจจุบัน นอกจานี้พลาสติกชนิดใหม่นี้ยังสามารถคงรู้ทรงเอาไว้ได้ภายใต้อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลอย่างรุนแรงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

อ่านข่าวสารยานยนต์

โครงสร้างในน้ำมัน 1 ลิตร มีค่าอะไรบ้าง เป็นปัจจัยของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น

โครงสร้างในน้ำมัน 1 ลิตร มีค่าอะไรบ้าง เป็นปัจจัยของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น

เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันขึ้นทุกวันนี้ ว่าในน้ำมัน 1 ลิตรนั้นประกอบไปด้วยต้นทุนและโครงสร้างอะไรบ้าง วันนี้เรามาข้อข้องใจนี้กันครับ

อันดับแรกคือ

  • ต้นทุนของเนื้อน้ำมัน (40-60%) คือต้นทุนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานกลั่น อ้างอิงตามตลาดกลางของภูมิภาคเอเชีย
  • ภาษีต่างๆ (30-40%) ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาเป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และบำรุงในส่วนต่างๆของท้องถิ่นต่างๆ และในแต่ละท้องถิ่นนั้นก็ไม่เท่ากันโดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลเป็นต้น
  • ภาษีสรรพสามิตร ถูกจัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิตร เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศ
  • ภาษีเทศบาล : ถูกจัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ในอัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิตร ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิตร มาตรา 150 และจัดส่งให้กับกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำมาเพื่อใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นต่อไป
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม : โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจะจัดเก็บ 7% ของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดเก็บอีก 7% ของค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิด

กองทุนต่างๆ (5-20%) โดยกองทุนต่างๆนั้นมีดังนี้

  • กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะถูกจัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน
  • กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน : จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ (กพช.) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนพลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทน เพื่อะเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
  • ค่าการตลาด (10-18%) เป็นส่วนต้นทุนทั้งค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดการคลังน้ำมัน การขนส่งเคลื่อนย้ายน้ำมันมายังสถานีบริการเติม รวมไปถึงเป็นค่าบริการของบริกรและพนักงานที่เติมให้แก่ประชาชน
  • ส่วนประกอบเหล่านี้แหละที่เป็นปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการปรับ ขึ้น-ลง ราคาน้ำมันทั้งหมด ภายในประเทศ โดยจะสังเกตุได้ว่าราคาของน้ำมันค้าปลีกในประเทศเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลต่อสันค้าทั้งอุปโปภคและบริโภคไปด้วย เพราะการขนส่งและการเคลื่อนย้ายสินค้าต่างๆของแต่ละพื้นที่ก็ใช้ต้นทุนที่แตกต่างกันนั่นเองครับ


อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติมได้ที่นี่