VOLT City EV FOR-TWO รถยนต์ไฟฟ้า 100% ขนาดเล็ก ตัวถังแบบ 3 ประตูพร้อมห้องโดยสารแบบแบบ 2 ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 40 แรงม้า และแบตเตอรี่ที่สามารถทำระยะได้ไกลสุดถึง 165 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
VOLT City EV FOR – TWO ได้เปิดตลาดควบคู่กับรุ่น FOR-FOUR สามารถขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุดถึง 40 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 105 กม./ชั่วโมง พร้อมแบตเตอรี่แบบ ลิเธี่ยม-ไอออน ฟอสเฟต ความจุ 11.8 กิโลวัตต์์ชั่วโมง สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 165 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง หรือราวๆ 115 กิโลเมตรเมื่อขับขี่ในโหมด Sport รองรับการชาร์จ แบบเสียบปลั๊กไฟบ้านโดยไม่ต้องติดตั้งWallbox และไม่ต้องชาร์จด่วนแบบ DC
VOLT City EV FOR – TWO ที่ปรากฎในภาพเป็นตัวถังสีแดง หลังคาสีดำมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED ไฟท้ายแบบ Ruby Style กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว ล้อขนาด 13 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Plum Blossom เบาะนั่งเป็นแบบวัสดุผ้า หน้าจอแสดงผลแบบ Double Screens ขนาด 7 นิ้ว รองรับทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay โดยมีกล้องมองภาพขณะถอยเซ็นเซอร์ขณะถอย และเรือนไมล์เป็นแบบ ดิจิทัล
ระบบความปลอดภัยของ VOLT City EV FOR-TWO ประกอบไปด้วยระบบเตือนการชน ในกรณีที่ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ระบบเบรค ABS/EBD ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง TPMS เข็มขัดนิรภัย 3 จุดแถวหลัง และ 2ที่นั่งด้านหน้า และถุงลมนิรภัยผู้ขับขี่เป็นต้น
โดยลูกค้าสามารถจอง VOLT City EV ผ่านระบบออนไลน์จำนวน 1,000 คันแรกจะได้รับการอัพเกรดอุปกรณ์มาตรฐานเป็นรุ่น Top ในราคารุ่นเริ่มต้น ประกอบด้วยหน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว แบบ Double Screen พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
VOLT City EV-TWO 2022 เตรียมเปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 325,000 บาท
จุดเด่นของ Sienta คือความเป็นรถครอบครัวขนาดเล็กที่มีความอเนคประสงค์ครบครันเรื่องของการใช้งาน และประตูสไลด์ที่โดดเด่นและรูปลักษณ์ของไฟ้ท้ายที่เปลี่ยนจากเส้นสายแนวนอนกลายมาเป็นแนวตั้งดูทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับแถมตกแต่งตามเส้นสายแบบ Piano Black คาดกลางเหนือป้ายทะเบียนเรียกว่าออกมาสำหรับปะทะคู่แข่งจ้าวตลาดอย่าง Honda Freed
เตรียมนับถอยหลังไปอีก 10 วัน จะได้เห็นโฉมหน้า All New Toyota Yaris Ativ 2023 ตัวใหม่ล่าสุดที่กำลังจะออกมาให้ยลโฉม โดยทาง Toyota มีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 9 สิงหาคม 2022 นี้ โดยในช่วงนี้ มีการปล่อยออกมาผ่านสื่อช่องทางต่างๆแล้วบ้าง โดยมีความยาว 15 วินาที สามารถไปหาชมได้ใน Youtube : Toyota Motor Thailand ซึ่งเรารู้จักกันดีในนาม All New Toyota Yaris Ativ 2023 ที่กำลังจะยกโฉมใหม่ให้ดูหล่อเหลาขึ้น
ทีเซอร์ All New Toyota Yaris Ativ 2023 ได้เผยดีไซน์ให้เห็นสัดส่วนต่างๆบางส่วน ที่มีการปรับโฉม ทั้งภายนอกและภายใน ทั้งไฟหน้าที่เป็นแบบ LED พร้อม LED Light เพิ่มเส้นสาย รูปตัว L และไฟเลี้ยวแบบ Sequenntial ดูมีมิติมากขึ้น
ทั้งนี้ All New Toyota Yaris Ativ 2023 จะถูกเปิดตัวอย่าง อย่างเป็นทางการ โดยจะพัฒนาแพล็ตฟอร์ม DNGA(Daihatsu New Global Platform) ซึ่งแน่นอนว่าร่วมกับไดฮัทสุ โดยคาดว่าจะติดตั้งขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร บล็อคเดียวกับรุ่นปัจจุบัน แต่อาจจะปรับปรุงพละกำลังให้ดีขึ้นและแรงขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะทยอยเปิดตัวรุ่นไฮบริดตามมาในราวๆปีหน้า เพื่อเป็นหมัดฮุกกับคู่แข่งอย่าง Honda City e:HEV
เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับการเปิดตัวของ Civic Type R 2023 Generation ทีเคลมเอาไว้ว่า มาคราวนี้พกเอาขุมพลังมาถึง 320 แรงม้า ภายใต้เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร
สิ้นสุดการรอคอยกันซักทีแล้วนะครับ สำหรับสาวกแบรนด์ H ที่รอการมาของรถระดับ Performance ของทางค่าย Honda Civic type R Hatchback ตัวแรงโดยมาคราวนี้เป็น Gen 6 ของทางค่าย นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1997
สำหรับ Civic Type R 2023 รุ่นใหม่ ที่เคลมว่าทรงพลังที่สุดที่เคยสร้างมา ซึ่งเป็นรถโรตคาร์ แบรนด์ R ของ Honda โดย Civic Type R 2023 ถูกพัฒนาขึ้นมากจาก Civic Hatchback Generation ที่ 11 และได้วางจำหน่ายในปัจจุบัน
Honda Civic Type R 2023 ได้มาพร้อมกับรูปลักษณ์การออกแบบที่มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้านอกออกแบบตรงตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ตัวรถดูยาวขึ้น และมีการปรับตัวรถให้ดูต่ำลง อีกทั้งยังเพิ่มความกว้างของตัวรถให้มากยิ่งขึ้นตามฉบับรถทรงสปอร์ต ขณะที่โครงสร้างตัวถังได้พัฒนาเรื่องของวัสดุที่ใช้ให้มีน้ำหนักที่เบาลงและแข็งแรง ส่งผลทำให้ Civic Type R ตัวรุ่นใหม่นี้มีรูปลักษณ์ที่ล่ำสัน และมีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น
ตัวรถด้านหน้าเพิ่มความดุดันมากยิ่งขึ้น กับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น มาพร้อมช่องรับลมขนาดใหญ่ที่เป็นตะแกรงสีดำ พร้อมกระจังหน้า สไตล์สปอร์ต ปรับให้มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นที่ผ่านมา พร้อมกับ Logo H พื้นสีแดงและท้ายติดเพจด้วย Type R ที่ด้านท้ายฝั่งขวา และกระจังหน้าด้านขวา ไฟชุดหน้า LED เรียวยาว และในส่วนฝากกระโปรงหน้ามีช่องผ่านลมเพื่อระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์
ด้้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์หลังสีดำ ที่ได้ออกแบบมาใหม่เพื่อสรีระเฉพาะของ Civic Type R พร้อมกับกันชนหลังใหม่เผยให้เห็นปลายท่อทรงกลมตรงกลางแบบ 3 ท่อ อันเป็นเอกลักษณ์ ของทาง Type R เสริมความดุดดันตามสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้นและดิฟฟิวเซอร์ ด้านท้ายแบบใหม่เพื่อรีดอากาศ ใต้ท้องให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ล้ออัลลอยปรับขนาดให้เล็กลงกว่ารุ่นนก่อน 1 นิ้ว จาก 20 นิ้ว กลายมาเป็น 19 นิ้ว และใช้ยาง Michelin Pilot Sport 4S ขนาด 265/30/R19 มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง Brembo
ด้านห้องโดยสารดีไซน์ออกแบบให้มีความสปอร์ตด้วยสีอันร้อนแรงตามสไตล์ตั้งแต่ Gen ก่อนได้ด้วยเบาะสีแดงตัดสลับกับสีดำ เบาะนั่งแบบ บัคเก็ตซีททรงสปอร์ตกระชับกับสรีระ ดีไซน์ด้วยหนังตัดด้วยพลาสติกสีดำ และพื้นลวดลาย และหัวเกียร์ วัสดุสีเงิน