รถมือสองน่าน

MODEL ปี 2020 แท้ๆ ไม่ลากจดทะเบียน TOYOTA MAJESTY 2.8 GRANDE ตัวท๊อปสุด สเปคเทพๆ สีขาวภายในสีดำ รถครอบครัว การันตีสภาพ รถสวย+เลขไมล์แท้ๆ หากมีชน-พลิกตว่ำ ยินดีคืนเงิน ดูรถไม่เป็นก็ซื้อได้เลขไมล์แท้ 5 หมื่นกว่าโล เช็คศูนย์ตลอด

เครื่องยนต์ ดีเซล 2.8 TURBO ออโต้ แรงและประหยัดมากๆ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก

ออปชั่นเพียบๆ

ประตูสไลด์ไฟฟ้า ประตูดูด เบาะหนังปรับไฟฟ้า หน้า-หลัง แอร์ 2 ตอน เนวิเกเตอร์ จอถอย กล้องรอบคัน ฝาท้ายไฟฟ้า Start/Stop Engine พวงมาลัย multifunction Cruise Control - จอภาพ Touch Screen (7"), USB, ช่องต่อ ipod, Bluetooth, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ (สั่งงานด้วยเสียง)ลำโพง JBL Daytime Running Lights ไฟท้าย LED ไฟหน้า LED/ปรับสูงต่ำอัตโนมัติ

รถสวย ภายในสะอาดเรียบร้อยไม่มีรอยเลย กุญแจสำรองครบ สามารถเช็คประวัติย้อนหลังได้ครับ การันตีหารุ่นนี้อยู่ไม่ผิดหวังแน่นอนกับรถสภาพเหมือนใหม่แบบนี้และราคาที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ คุ้มมากๆ แฟนพันธุ์แท้ รถครอบครัว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ดูรถไม่เป็นก็ซื้อได้ เพราะเรารับประกันว่า รถสวย+เลขไมล์แท้ เราขายความจริง ไม่มีการกลับไมล์ เพื่อให้ท่านดูแลต่อได้อย่างสบายใจ เช็คศูนย์ ทุกระยะ ไม่เคยขาด      

Toyota Majesty 2.8 Grande (ปี 2020)

Toyota Majesty คือการพลิกโฉมรถตู้ของโตโยต้า โดยเปลี่ยนจากภาพลักษณ์รถตู้โดยสาร (Commuter) มาเป็นรถ Luxury Van / MPV ระดับผู้บริหารอย่างเต็มตัว โดยนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน (CBU) จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้คุณภาพและการประกอบอยู่ในระดับสูงสุด

1. สเปคเด่นๆ ของรถยนต์ (Key Specifications)

• เครื่องยนต์: ดีเซล 1GD-FTV 2.8 ลิตร VN-Turbo (163 แรงม้า, 420 นิวตัน-เมตร)
• ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift
• โครงสร้างตัวถัง: Semi-Bonnet (เครื่องยนต์วางด้านหน้า)
• ระบบช่วงล่างหลัง: โฟร์ลิงค์คอยล์สปริง (4-Link Coil Spring)
• เบาะนั่ง (รุ่น Grande):
  • แถวที่ 2: Captain Seats 2 ที่นั่ง ปรับไฟฟ้า พร้อมที่รองน่องและ ระบบนวดหลังไฟฟ้า
  • แถวที่ 3: Captain Seats 2 ที่นั่ง
  • แถวที่ 4: Bench Seat 3 ที่นั่ง (พับเก็บได้)
• ระบบความปลอดภัย (เฉพาะรุ่น Grande): Toyota Safety Sense เต็มรูปแบบ (DRCC, PCS, LDA, AHB)

2. จุดเด่นและข้อดี (Highlights & Advantages)

• ความสบายในการโดยสารระดับสูงสุด: คือหัวใจของ Majesty ด้วยช่วงล่างหลังแบบคอยล์สปริงและเบาะ Captain Seat พร้อมระบบนวด ทำให้เป็นรถที่นั่งสบายที่สุดในกลุ่มรถตู้จากโตโยต้า
• ห้องโดยสารที่เงียบและหรูหรา: การออกแบบเครื่องยนต์ไว้ด้านหน้าช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมหาศาล
• ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด (ในรุ่น Grande): การให้ Toyota Safety Sense มาครบชุด ทำให้เป็นหนึ่งในรถตู้ที่ปลอดภัยที่สุดในตลาด
• ประตูสไลด์ไฟฟ้า 2 ข้าง: เพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหราในการเข้า-ออก
• คุณภาพนำเข้าจากญี่ปุ่น: ในฐานะรถ CBU ทำให้มั่นใจได้ในมาตรฐานการประกอบและคุณภาพของวัสดุ

3. เปรียบเทียบความแตกต่างของรุ่นย่อย (ณ ปี 2020)

สรุป: รุ่น Grande คือรุ่นท็อปสุดที่ให้ทุกอย่างมาครบถ้วน โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และระบบนวดหลังไฟฟ้า ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน

4. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

• ขับขี่ในเมือง: ประมาณ 8 - 10 กม./ลิตร
• ขับขี่นอกเมือง/ทางไกล: สามารถทำได้ 11 - 13.5 กม./ลิตร

5. ราคาเปิดตัว และความคุ้มค่า

• ราคาเปิดตัว (ป้ายแดง ปี 2020): 2,199,000 บาท

รถตู้ทำความเย็น ตู้รุ่นใหม่ MPC COOL ความสูงพิเศษในตู้ 1.90 เมตร พัดลม 3 ตัว หายากมากๆ ภายในใหม่มากๆ จดทะเบียนปี 2022 คศ 2021 รุ่นใหม่สุด TOYOTA REVO 2.4 ENTRY เครื่อง 2400 ดีเซล เกียร์ธรรมดา กำลังเครื่องดีมากๆ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก เพาเวอร์ กระจกไฟฟ้า มือเดียว ไม่เคยเฉี่ยวชน ไม่เคยบรรทุกหนัก จดทะเบียนเป็นตู้บรรทุกถูกต้องทุกอย่าง พร้อมใช้

ออกรถง่าย สบายใจหายห่วง ประหยัดกว่าเป็นแสน จะจ่ายแพงกว่าทำไม ซื้อคันนี้เหมือนได้รถสภาพสวยๆ แต่ราคามือสอง สุดคุ้ม

Toyota Hilux Revo 2.4 Single Cab (ปี 2022) พร้อมตู้ทำความเย็น

นี่คือรถที่เปรียบเสมือน "หุ้นส่วนทางธุรกิจ" ที่พร้อมสร้างรายได้ทันที เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง

1. สเปคเด่นๆ ของรถยนต์ (Key Specifications)

สเปคตัวรถพื้นฐาน:

• เครื่องยนต์: 2GD-FTV ดีเซล 2.4 ลิตร (150 แรงม้า, 343 นิวตัน-เมตร)
• ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดา 5 สปีด (ทนทาน, ไว้ใจได้ที่สุดสำหรับงานหนัก)
• ช่วงล่าง: แหนบซ้อนสำหรับงานหนัก ปรับตั้งและเสริมมาโดยเฉพาะ
• น้ำหนักบรรทุก: ประมาณ 2 - 2.5 ตัน

สเปคระบบทำความเย็นและตู้ห้องเย็น:

• ชุดทำความเย็น: MPC COOL (ระบบไดเร็คไดร์ฟ)
• อุณหภูมิ: ทำได้ทั้งแบบแช่เย็น (Chilled) และแช่แข็ง (Frozen, ประมาณ -18°C)
• ตู้ห้องเย็น:
  • ความสูงพิเศษ: ภายในสูง 1.90 เมตร
  • คอยล์เย็น (Evaporator): แบบ 3 พัดลม กระจายความเย็นได้รวดเร็วและสม่ำเสมอ
  • พื้นตู้: พื้นลอนสแตนเลส ช่วยให้อากาศเย็นไหลเวียนใต้สินค้า
• การจดทะเบียน: "ตู้บรรทุก" ถูกต้องตามกฎหมาย

*** หมายเหตุ: อุณหภูมิตามข้อความเป็นข้อมูลที่อ้างอิงมาจากเว็บไซต์ทั่วไป ในการใช้งานจริงอาจจะมีการคลาดเคลื่อนตามอายุของตู้, คอมเพรสเซอร์, สภาพแวดล้อม และสภาพอากาศด้วย ***

2. จุดเด่นและข้อดี (Highlights & Advantages)

• เครื่องมือทำเงินที่ครบวงจร: พร้อมสำหรับการขนส่งสินค้ามูลค่าสูงที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ สามารถเริ่มธุรกิจได้ทันที
• ระบบทำความเย็นเกรดมืออาชีพ: การใช้คอยล์เย็น 3 พัดลม แสดงว่ารถถูกสร้างมาเพื่องานหนักและเน้นประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิเป็นหลัก
• ความทนทานและเชื่อถือได้: การจับคู่ระหว่างแชสซีส์และเครื่องยนต์เกียร์ธรรมดาของ Hilux Revo กับระบบทำความเย็นที่ได้มาตรฐาน ทำให้ได้รถที่เป็นม้างาน ทนทาน
• บรรทุกได้เยอะและถูกกฎหมาย: ด้วยความสูงตู้ 1.90 เมตร และการจดทะเบียนที่ถูกต้อง ทำให้สามารถบรรทุกสินค้าได้เต็มประสิทธิภาพ

3. เปรียบเทียบความแตกต่าง (รถห้องเย็น vs. รถตู้ทึบ)

4. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

ข้อควรทราบ: รถห้องเย็นจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงกว่ารถตู้ทึบธรรมดาอย่างชัดเจน เพราะเครื่องยนต์ต้องรับภาระขับเคลื่อนรถและปั่นคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น

• การใช้งานจริง: คาดการณ์ว่าอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 7 - 10 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขปกติสำหรับรถประเภทนี้

5. ราคาเปิดตัว และความคุ้มค่า

ประมาณการต้นทุนหากทำใหม่ (ณ ปี 2022):

• ตัวรถ Chassis: ~ 554,000 บาท
• ตู้เย็น MPC COOL สเปคนี้: ~ 180,000 - 250,000 บาท
• รวมต้นทุนหากทำใหม่: ประมาณ 734,000 - 804,000 บาท

รถตู้ทำความเย็น ตู้รุ่นใหม่ MPC COOL ความสูงพิเศษในตู้ 1.90 เมตร พัดลม 3 ตัว หายากมากๆ ภายในใหม่มากๆ จดทะเบียนปี 2022 คศ 2021 รุ่นใหม่สุด TOYOTA REVO 2.4 ENTRY เครื่อง 2400 ดีเซล เกียร์ธรรมดา กำลังเครื่องดีมากๆ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก เพาเวอร์ กระจกไฟฟ้า มือเดียว ไม่เคยเฉี่ยวชน ไม่เคยบรรทุกหนัก จดทะเบียนเป็นตู้บรรทุกถูกต้องทุกอย่าง พร้อมใช้ เลขไมล์ 14X,XXX Km.

ออกรถง่าย สบายใจหายห่วง ประหยัดกว่าเป็นแสน จะจ่ายแพงกว่าทำไม ซื้อคันนี้เหมือนได้รถสภาพสวยๆ แต่ราคามือสอง สุดคุ้ม

Toyota Hilux Revo 2.4 (ปี 2022) พร้อมตู้ทำความเย็น MPC COOL

นี่ไม่ใช่แค่รถกระบะบรรทุก แต่เป็น "เครื่องมือทำธุรกิจ" ที่สมบูรณ์แบบสำหรับโลจิสติกส์ควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) การวิเคราะห์จะเน้นที่ศักยภาพในการใช้งานและทำกำไรเป็นหลัก

1. สเปคเด่นๆ ของรถยนต์ (Key Specifications)

สเปคตัวรถพื้นฐาน:

• เครื่องยนต์: 2GD-FTV ดีเซล 2.4 ลิตร (150 แรงม้า, 343 นิวตัน-เมตร)
• ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดา 5 สปีด (ทนทาน, ซ่อมง่าย)
• น้ำหนักบรรทุก: ประมาณ 2 - 2.5 ตัน
• ระบบช่วงล่าง: เสริมแหนบสองชั้น (Two-Stage) สำหรับงานบรรทุกหนัก

สเปคระบบทำความเย็นและตู้ห้องเย็น (หัวใจสำคัญ):

• ชุดทำความเย็น: MPC COOL (ระบบไดเร็คไดร์ฟ)
• อุณหภูมิ: สามารถทำได้ทั้งแบบแช่เย็น (Chilled, 0 ถึง +8°C) และแช่แข็ง (Frozen, สูงสุด -20°C)
• ตู้ห้องเย็น:
  • ความสูงพิเศษ: ภายในสูงถึง 1.90 เมตร
  • คอยล์เย็น (Evaporator): แบบ 3 พัดลม สเปคสำหรับงานหนัก กระจายความเย็นได้รวดเร็ว
  • พื้นและผนัง: เป็นลอนอลูมิเนียม ช่วยในการไหลเวียนอากาศและทนทาน

2. จุดเด่นและข้อดี (Highlights & Advantages)

• โซลูชันธุรกิจที่พร้อมใช้งาน: เป็น "โอกาส" ในการทำธุรกิจขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิได้ทันที ซึ่งเป็นตลาดที่มีค่าขนส่งสูงกว่าสินค้าทั่วไป
• ระบบทำความเย็นประสิทธิภาพสูง: การใช้คอยล์เย็น 3 พัดลม ยืนยันว่ารถถูกสร้างมาเพื่องานหนักโดยเฉพาะ สามารถทำอุณหภูมิได้เร็วและคงที่ ช่วยรักษาคุณภาพสินค้าได้ดีเยี่ยม
• สร้างมาเพื่อการบรรทุกอย่างแท้จริง: การเสริมแหนบและการเลือกใช้พื้นลอนภายในตู้ แสดงถึงความเข้าใจในการใช้งานจริง ทำให้รถพร้อมรองรับน้ำหนักเต็มพิกัด
• เพิ่มปริมาณขนส่งด้วยตู้ทรงสูง: ความสูง 1.90 เมตร ช่วยเพิ่มปริมาตรการขนส่งต่อเที่ยวได้อย่างชัดเจน หมายถึง "รายได้ที่มากขึ้น"
• ความคุ้มค่าในการลงทุน: การซื้อรถที่ประกอบมาพร้อมใช้งาน ช่วยประหยัดต้นทุนและเวลาในการนำรถใหม่ไปติดตั้งระบบเอง

3. เปรียบเทียบความแตกต่าง (รถห้องเย็น vs. รถตู้ทึบ)

4. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

ข้อควรทราบ: รถห้องเย็นจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงกว่ารถตู้ทึบธรรมดาอย่างชัดเจน เพราะเครื่องยนต์ต้องรับภาระขับเคลื่อนรถและปั่นคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็นตลอดเวลา

• การใช้งานจริง: คาดการณ์ว่าอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 7 - 10 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขปกติสำหรับรถประเภทนี้

5. ราคาเปิดตัว และความคุ้มค่า

ประมาณการต้นทุนหากทำใหม่ (ณ ปี 2022):

• ตัวรถ: ~ 554,000 บาท
• ตู้เย็น MPC COOL สเปคนี้: ~ 180,000 - 250,000 บาท
• รวมต้นทุนหากทำใหม่: ประมาณ 734,000 - 804,000 บาท

ไมล์น้อย 4 หมื่นกว่าโล ตู้ทึบบรรทุกตู้บรรทุกจากศูนย์ สั่งทำพิเศษ สูง 1.85 เมตร ภายในตู้ใหม่มากๆ จดทะเบียนปี 2022 แท้ๆ ตัวท๊อปสุด มีกระจกไฟฟ้า โฉม TOYOTA REVO 2.4 ENTRY รุ่นใหม่ เครื่อง 2400 ดีเซล เกียร์ธรรมดา กำลังเครื่องดีมากๆ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก เพาเวอร์ ไม่เคยเฉี่ยวชน ไม่เคยบรรทุกหนัก จดทะเบียนเป็นตู้บรรทุก ถูกต้องทุกอย่าง พร้อมใช้ ประวัติดีมากๆ

ออกรถง่าย สบายใจหายห่วง ประหยัดกว่าเป็นแสน จะจ่ายแพงกว่าทำไม ซื้อคันนี้ได้รถสภาพดีมากๆ แต่ราคามือสอง แต่รับประกัน สภาพดีที่สุดแน่นอน

Toyota Hilux Revo 2.4 Single Cab Entry (ปี 2022) เกียร์ธรรมดา

นี่คือ "ม้างาน" ที่สมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจขนส่งที่ต้องการความทนทาน, ประหยัด, และต้นทุนต่ำ เป็นรถที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้งานหนักและทำกำไรโดยเฉพาะ

1. สเปคเด่นๆ ของรถยนต์ (Key Specifications)

• เครื่องยนต์: ดีเซล 2GD-FTV 2.4 ลิตร VN-Turbo
• กำลังสูงสุด: 150 แรงม้า (PS)
• แรงบิดสูงสุด: 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 - 2,800 รอบ/นาที
• ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดา 5 สปีด (เน้นความทนทาน)
• น้ำหนักบรรทุก: ประมาณ 700 - 800 กิโลกรัม
• ช่วงล่างหลัง: แหนบซ้อน (Heavy-Duty Leaf Spring)
• ตู้บรรทุก:
  • ยี่ห้อ: Carryboy (ตู้ทึบแบบแห้ง)
  • ความสูง: 1.85 เมตร (จากพื้นกระบะ)
  • ลักษณะประตู: ประตูท้ายแบบตู้คอนเทนเนอร์ 2 บาน เปิดกว้าง 180 องศา
• การจดทะเบียน: "ตู้บรรทุก" ถูกต้องตามกฎหมาย

2. จุดเด่นและข้อดี (Highlights & Advantages)

• ความทนทานระดับตำนาน: การจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์ 2GD-FTV และเกียร์ธรรมดา คือสูตรสำเร็จของความทนทานสูงสุด ไม่จุกจิก ค่าบำรุงรักษาต่ำ
• ต้นทุนการเป็นเจ้าของต่ำ: ด้วยราคาขายและค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง ทำให้เป็นรถที่มีต้นทุนในการเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจต่ำ คืนทุนได้เร็ว
• ตู้บรรทุกมาตรฐาน Carryboy: มั่นใจได้ในคุณภาพของโครงสร้าง, ความแข็งแรง, และการป้องกันน้ำรั่วซึมที่ดีกว่าตู้ที่ประกอบจากอู่ทั่วไป
• ความสมดุลระหว่างการบรรทุกและความคล่องตัว: ตู้สูง 1.85 เมตร ให้ปริมาตรการบรรทุกที่เพียงพอ แต่ยังไม่สูงเกินไปจนเป็นอุปสรรคในการเข้าพื้นที่ที่มีความสูงจำกัด
• แชสซีส์แข็งแกร่งพร้อมลุย: โครงสร้างแชสซีส์ของ Hilux Revo ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง สามารถรองรับการบรรทุกหนักได้อย่างสบาย

3. เปรียบเทียบความแตกต่างของรุ่นย่อย (ณ ปี 2022)

4. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

• ตาม ECO Sticker (ไม่มีตู้): ประมาณ 15.6 กม./ลิตร
• ใช้งานจริง (พร้อมตู้สูง 1.85 ม.): คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 - 13 กม./ลิตร (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุกและความเร็ว)

5. ราคาเปิดตัว และความคุ้มค่า

• ตัวรถ (ปี 2022): ราคาเปิดตัว 554,000 บาท
• ค่าตู้ Carryboy: ประมาณ 40,000 - 50,000 บาท
• รวมต้นทุนหากทำใหม่: ประมาณ 594,000 - 604,000 บาท

สี : ขาว

✅ รถนำเข้า CBU (ประกอบเยอรมัน)

BMW 330e M Sport (F30) ปี 2017

BMW 330e F30 คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ 3 เข้ากับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่ช่วยให้ประหยัดและขับขี่ในเมืองได้ด้วยไฟฟ้าล้วน ทำให้รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย

1. สเปคเด่นๆ ของรถยนต์ (Key Specifications)

• ระบบขับเคลื่อน: Plug-in Hybrid
• เครื่องยนต์: เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo
• กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ: 252 แรงม้า
• แรงบิดรวมสูงสุดทั้งระบบ: 420 นิวตัน-เมตร
• ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic
• แบตเตอรี่: ลิเธียมไอออน 7.6 kWh
• ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน: ใช้งานจริงเฉลี่ย 20-30 กม.
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 6.1 วินาที
• ชุดแต่ง: M Sport รอบคัน, ล้อ M 18 นิ้ว, พวงมาลัย M, ช่วงล่าง M Sport

2. จุดเด่นและข้อดี (Highlights & Advantages)

• "สองบุคลิกในคันเดียว": เป็นรถที่ขับสนุกเร้าใจในโหมด Sport และในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นรถที่เงียบและประหยัดสูงสุดเมื่อขับขี่ในเมืองด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน
• สมรรถนะที่แรงเกินคาด: ด้วยแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่พร้อมใช้งานทันที ทำให้การออกตัวและอัตราเร่งทำได้อย่างน่าประทับใจมาก
• ความประหยัดเมื่อใช้งานถูกวิธี: หากมีที่ชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน และเดินทางในชีวิตประจำวันไม่ไกล คุณแทบจะไม่ต้องใช้น้ำมันเลย
• ชุดแต่ง M Sport ครบเครื่อง: ได้ทั้งความสวยงามดุดันและสมรรถนะการเข้าโค้งที่มั่นใจขึ้นจากช่วงล่าง M Sport
• ราคาที่คุ้มค่ามาก: การได้เป็นเจ้าของ BMW ที่มีเทคโนโลยี PHEV และชุดแต่ง M Sport ในราคาที่เข้าถึงง่าย ถือเป็นราคาที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

3. เปรียบเทียบความแตกต่างของรุ่นย่อย (ณ ปี 2017)

สรุป: รุ่น M Sport ให้ภาพลักษณ์และอารมณ์การขับขี่ที่สปอร์ตกว่าชัดเจน พร้อมออปชันสำคัญอย่างล้อ 18 นิ้วและหลังคาซันรูฟ ทำให้เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด

4. อัตราสิ้นเปลืองและระยะทางไฟฟ้า

• ตาม ECO Sticker: 47.6 กม./ลิตร (เป็นตัวเลขตามมาตรฐานทดสอบ PHEV)
• การใช้งานจริง:
  • ถ้าชาร์จไฟทุกวันและวิ่งไม่ไกล: สามารถทำได้ใกล้เคียง 25-35 กม./ลิตร
  • ถ้าไม่ชาร์จไฟเลย (วิ่ง Hybrid): จะได้ประมาณ 12-15 กม./ลิตร
• ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า: คาดหวังได้ที่ 20-30 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง

5. ราคาเปิดตัว และความคุ้มค่า

• ราคาเปิดตัว (ป้ายแดง ปี 2017): 2,799,000 บาท

รถมือเดียวออกห้าง ของหายาก รุ่นใหญ่สุดของลายการผลิต AUDI A8 L 2.0 HYBRID ออกห้าง 5.99 ล้านกว่า คุ้มมากๆ ตัวบอดี้ยาว นั่งสบาย ออปชั่นล้นๆ จดทะเบียนปี 2015 เครื่อง 2.0 เบนซิน+ไฮบริด ประหยัดมากๆ ออโต้ ขับสนุกมากๆ แรงและประหยัด รถออกศูนย์ยนตรกิจ ไม่ใช่จดประกอบ เช็คศูนย์ AUDI ตลอด ออปชั่นเต็ม ซันรูฟ ประตูดูด 4 บาน เบาะไฟฟ้า เนวิเกเตอร์ ฝาท้ายไฟฟ้า ตัวท๊อปสุด เช็คศูนย์ตลอด รับประกัน เลขไมล์แท้ 102,XXX Km. สภาพสวยมากๆ ประหยัดไปหลายล้าน รถบ้านแท้ๆ มือเดียว สีเดิมจากโรงงานภายในสะอาดเรียบร้อย เอกสารติดรถคู่มือการใช้งาน BOOK SERVICE ครบ สามารถเช็คประวัติย้อนหลังได้ครับ การันตีหารุ่นนี้อยู่ไม่ผิดหวังแน่นอนกับรถสภาพเหมือนใหม่แบบนี้และราคาที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ คุ้มมากๆ แฟนพันธุ์แท้ AUDI ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ฟรีดาวน์ ออกรถง่ายที่สุด คุ้มมากๆ กับรถสภาพแบบนี้ หาไม่ได้แล้ว ประหยัดไปเกินครึ่งนึง รถบ้านแท้ๆ เจ้าของออกป้ายแดงมา ดูแลดีมากๆ

Audi A8 2.0 Hybrid (2015): ความหรูระดับประธานบริษัท ในราคาที่เอื้อมถึง

Audi A8 คือยนตรกรรมที่อยู่ในจุดสูงสุดของแบรนด์ เป็นคู่แข่งโดยตรงของ S-Class และ 7 Series การมาถึงของรุ่น A8 L Hybrid คือความพยายามที่จะนำเสนอความหรูหราขั้นสุดควบคู่ไปกับเทคโนโลยีและอัตราสิ้นเปลืองที่ดีเยี่ยม การที่วันนี้ราคามือสองลดลงมาเหลือเพียงแปดแสนกว่าบาท จากราคาเปิดตัวเกือบ 6 ล้านบาท ถือเป็นปรากฏการณ์ "ค่าตัวตก แต่ศักดิ์ศรีไม่ตก" อย่างแท้จริง

สเปคเด่น (Key Specifications)

• ระบบขับเคลื่อน: Hybrid
• เครื่องยนต์: เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TFSI (Turbo)
• กำลังรวมทั้งระบบ: 245 แรงม้า
• แรงบิดรวมทั้งระบบ: 480 นิวตัน-เมตร
• ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Tiptronic
• ระบบขับเคลื่อน: ล้อหน้า (Front-Wheel Drive)
• แบตเตอรี่: ลิเธียม-ไอออน (Li-Ion) สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Mode) ได้ระยะทางสั้นๆ (~3 กม.)
• โครงสร้างตัวถัง: Audi Space Frame (ASF) ทำจากอลูมิเนียม น้ำหนักเบา

จุดเด่นและข้อดีของรถยนต์

ความหรูหราและเทคโนโลยีระดับเรือธง

• จุดเด่น: คุณจะได้รับทุกอย่างที่รถยนต์ราคาเกือบ 6 ล้านบาทมีให้ในยุคนั้น เช่น ไฟหน้า Matrix LED, ระบบช่วงล่างถุงลม (Adaptive Air Suspension), และภายในที่ประดับด้วยหนังแท้และลายไม้คุณภาพสูง
• ข้อดี: ได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางระดับ First Class ทั้งความเงียบของห้องโดยสาร, ความสบายจากเบาะนั่งปรับไฟฟ้า, และระบบเครื่องเสียง BOSE

ความคุ้มค่าด้านราคาที่หาตัวจับยาก

• จุดเด่น: ราคาแปดแสนกว่าบาทสำหรับรถระดับนี้ถือว่าน่าทึ่งมาก เป็นการจ่ายเงินที่ได้ "เนื้อเหล็ก" (หรืออลูมิเนียม) ที่คุ้มค่าที่สุด
• ข้อดี: ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงยนตรกรรมระดับ Flagship ได้ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

สมรรถนะที่สมดุล

• จุดเด่น: แรงบิดมหาศาล 480 นิวตัน-เมตร ทำให้รถคันใหญ่โตนี้มีอัตราเร่งที่น่าประทับใจและทันใจ
• ข้อดี: ขับขี่ได้ง่าย คล่องตัวในเมือง และยังคงทรงพลังเมื่อเดินทางไกล พร้อมทั้งให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดี

(เทียบกับรุ่นอื่นในตระกูล)

• A8 2.0 Hybrid (ขับเคลื่อนล้อหน้า):
  • เน้นความหรูหรา สะดวกสบาย และความประหยัดเชื้อเพลิง เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เป็นรถสำหรับผู้บริหารที่นั่งสบายทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง
• A8 3.0 TDI Quattro (ขับเคลื่อนสี่ล้อ):
  • เน้นสมรรถนะการขับขี่ที่มั่นคงจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro และพละกำลังมหาศาลจากเครื่องยนต์ดีเซล V6 เหมาะกับการเดินทางไกล

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

• ตามที่ผู้ผลิตเคลม: 15.9 กม./ลิตร
• ใช้งานจริงโดยเฉลี่ย: ประมาณ 10-14 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดมากสำหรับรถซาลูนขนาดใหญ่

ราคาเปิดตัว (ณ ปี 2014-2015)

• ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย: 5,990,000 บาท

✅ สภาพเดิม ไม่เคยแต่ง เช็คศูนย์ตลอด ประวัติดีมาก

ISUZU ALL NEW DMAX 1.9 หัวเดียว MODEL ปี 2020 แท้ๆ โฉมหน้าใหม่ เครื่อง 1900 ดีเซล รุ่นใหม่ เกียร์ธรรมดา 6 เกียร์ เพาเวอร์ กำลังเครื่องดีมากๆ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก รถบ้านแท้ๆ มือเดียว ไม่เคยบรรทุกหนัก พร้อมใช้ รถสวย สภาพเดิมๆ ไม่เคยแต่ง ไมล์ 13X,XXX Km. เช็คศูนย์ตลอด ประวัติดีมากๆ หลังคาสูง พร้อมใช้งาน

ฟรีดาวน์ ออกรถง่าย สบายใจหายห่วง ประหยัดกว่าเป็นแสน จะจ่ายแพงกว่าทำไม ซื้อคันนี้เหมือนได้รถสภาพดีมากๆ แต่ราคามือสอง แต่รับประกัน สภาพดีที่สุดแน่นอน

Isuzu D-MAX 1.9 SPARK (2020) พร้อมหลังคาสูง 2.05 ม.

นี่คือการจับคู่ที่ลงตัวที่สุดสำหรับผู้ประกอบการขนส่ง ด้วยชื่อชั้นของ Isuzu ที่เป็น "เจ้าตลาด" ผสานกับเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power ที่ได้รับการยอมรับเรื่องความประหยัด และต่อยอดด้วยหลังคาอลูมิเนียมทรงสูงที่พร้อมรองรับการบรรทุกทุกรูปแบบ ทำให้รถคันนี้คือ "เครื่องมือสร้างตัว" ที่สมบูรณ์แบบ

สเปคเด่น (Key Specifications)

• เครื่องยนต์: ดีเซล RZ4E-TC, 4 สูบ 1.9 ลิตร DOHC Commonrail VGS Turbo
• กำลังสูงสุด: 150 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด: 350 นิวตัน-เมตร
• ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
• ระบบความปลอดภัย: ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD/BA
• หลังคา: อลูมิเนียมสั่งทำพิเศษ ความสูง 2.05 เมตร จากพื้นกระบะ
• น้ำหนักที่สามารถบรรทุกได้ ประมาณ 1 -1.2 ตัน

จุดเด่นและข้อดีของรถยนต์

"ราชาแห่งความประหยัด" เครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power

• จุดเด่น: คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ D-MAX ครองใจผู้ประกอบการ คืออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มรถกระบะ
• ข้อดี: ในธุรกิจขนส่งที่ "ค่าน้ำมันคือต้นทุนหลัก" การใช้รถที่ประหยัดกว่าหมายถึง "กำไรที่เพิ่มขึ้น" ในทุกๆ เที่ยวที่วิ่ง

ความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ

• จุดเด่น: Isuzu ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานของเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกหนัก
• ข้อดี: ค่าอะไหล่ไม่แพง หาได้ง่าย มีอู่ซ่อมที่เชี่ยวชาญอยู่ทั่วทุกมุมของประเทศ

หลังคาสูงพิเศษ 2.05 เมตร เพื่อการบรรทุกสูงสุด

• จุดเด่น: ความสูงระดับนี้ทำให้สามารถบรรทุกสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีปริมาตรมากได้อย่างเต็มพิกัด เช่น เฟอร์นิเจอร์, กล่องพัสดุจำนวนมาก
• ข้อดี: เพิ่มความสามารถในการรับงานได้หลากหลายและเพิ่มรายได้ต่อเที่ยวได้อย่างมีนัยสำคัญ

ตลาดซื้อง่ายขายคล่อง

• จุดเด่น: Isuzu D-MAX เป็นรถที่มีความต้องการในตลาดมือสองสูงที่สุด
• ข้อดี: เมื่อถึงเวลาที่ต้องการเปลี่ยนรถ คุณสามารถขายต่อได้อย่างรวดเร็วและได้ราคาดีกว่ายี่ห้ออื่น

การเปรียบเทียบรุ่นย่อย (Spark B vs Spark S)

• ความแตกต่าง: รุ่น B ที่คุณสอบถามมา จะเป็นรุ่นที่ "โล้น" ที่สุด เพื่อทำราคาให้เข้าถึงง่าย โดยจะตัดอุปกรณ์บางอย่างออกไป เช่น กันชนหน้าอาจไม่ใช่สีเดียวกับตัวรถ, ไม่มีเซ็นทรัลล็อก หรือกระจกไฟฟ้า
• เหตุผลที่เหมาะสม: การเลือกรุ่น B มาเพื่อต่อหลังคาบรรทุก ถือเป็นการเลือกที่ตรงจุดประสงค์และชาญฉลาดที่สุด เพราะผู้ประกอบการต้องการเพียง "เครื่องยนต์และแชสซีส์" ที่ทนทานและประหยัด เป็นการลดต้นทุนเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

• อัตราสิ้นเปลืองมาตรฐาน (ไม่บรรทุก): สามารถทำได้ถึง 16-18 กม./ลิตร
• ใช้งานจริง (เมื่อติดตั้งหลังคาสูงและบรรทุก): คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 12-15 กม./ลิตร ซึ่งยังถือว่าประหยัดมาก

ราคาเปิดตัว (ปี 2020)

• ราคารถใหม่ (Isuzu D-MAX Spark 1.9 B): ประมาณ 547,000 บาท
• ค่าติดตั้งหลังคาอลูมิเนียมสูง 2.05 เมตร: ประมาณ 25,000 - 35,000 บาท
• ราคารวมเมื่อซื้อใหม่: ประมาณ 570,000 - 580,000 บาท

เครื่องดีเซล รถมือเดียวออกห้าง จดทะเบียนปี 2016 ( คศ 2015 ) BMW X5 F15 X Drive 3.0D M SPORT รุ่นใหม่ เครื่องดีเซล TWIN TURBO ออโต้ 8 สปีด ไม่ใช่ไฮบริด ไม่ใช่ไฟฟ้า หมดปัญหาเรื่องแบตไฮบริด ขับสนุกมากๆ แรงและประหยัด ดูแลง่าย ตัวพิเศษ M SPORT แท้แต่งจากศูนย์ ไมล์แท้ 14X,XXX Km. เฉลี่ยปีละ 1 หมื่นกว่าโล เช็คศูนย์ตลอดทุกระยะ เราขายความจริง ไม่มีการกลับไมล์ เพื่อให้ท่านได้ดูแลรถต่อได้อย่างสบายใจ เจ้าของดูแลดีมากๆ รถวิ่งทางไกล ไม่โทรม ขายราคาสมเหตุสมผล รถบ้านแท้ๆ ซื้อเงินสด ไม่บวกแวท

รถออกศูนย์ BMW ไม่ใช่รถเกรย์นำเข้าอิสระ ออปชั่นเต็ม รุ่นใหม่ พวงมาลัยเล็กแล้ว ชุดแต่ง+ล้อ M จากศูนย์ หลังคาแก้วI DRIVE เนวิเกเตอร์ ฝาท้ายไฟฟ้า เบาะไฟฟ้า ตัวท๊อปสุด เช็คศูนย์ตลอด รับประกัน เลขไมล์แท้ สามารถเช็คประวัติย้อนหลังได้ครับ การันตีหารุ่นนี้อยู่ไม่ผิดหวังแน่นอนกับรถสภาพเหมือนใหม่แบบนี้และราคาที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ ประหยัดเป็นล้าน คุ้มมากๆ แฟนพันธุ์แท้ BMW ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ฟรีดาวน์ ออกรถง่ายที่สุด ดูรถไม่เป็นก็ซื้อได้ เพราะเรารับประกันว่า รถสวย ไม่คยชนหนัก ไม่เคยพลิกคว่ำ ไม่เคยจมน้ำ รถคันนี้ ไม่ใชรถยึดจากไฟแนนซ์ หรือรถเช่า สบายใจหายห่วง เจ้าของดูแลดีมากๆ ทุกระยะ ไม่เคยขาด

BMW X5 xDrive30d M Sport (F15) ปี 2016

BMW X5 F15 คือรถยนต์ SAV (Sport Activity Vehicle) ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดในยุคนั้น ด้วยการขับขี่ที่เฉียบคม สมรรถนะที่ทรงพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล และความอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ครอบครัว ทำให้มันเป็นหนึ่งในรถยุโรปมือสองที่น่าสนใจที่สุดรุ่นหนึ่ง

1. สเปคเด่นๆ ของรถยนต์ (Key Specifications)

• เครื่องยนต์: ดีเซล 6 สูบเรียง รหัส N57 3.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo
• กำลังสูงสุด: 218 แรงม้า (HP)
• แรงบิดสูงสุด: 560 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 - 3,000 รอบ/นาที
• ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic Sport
• ระบบขับเคลื่อน: xDrive (ขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ)
• ชุดแต่ง M Sport:
  • ภายนอก: ชุดแต่ง M Aerodynamics, ขอบหน้าต่างสีดำเงา, ล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้ว
  • ภายใน: พวงมาลัย M Sport, เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต, เพดานสีดำ Anthracite
• ช่วงล่าง: Adaptive M Suspension (ปรับความหนืดอัตโนมัติ)
• เทคโนโลยีเด่น:
  • ไฟหน้า Adaptive LED ปรับตามการเลี้ยว
  • หลังคากระจก Panoramic ไฟฟ้า
  • จอ iDrive ขนาด 10.25 นิ้ว
  • ฝาท้ายไฟฟ้าแบบแบ่งเปิดบน-ล่าง

2. จุดเด่นและข้อดี (Highlights & Advantages)

• สมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศ: X5 คือมาตรฐานของ SUV ที่ขับสนุก ช่วงล่าง M Sport และระบบ xDrive ทำให้การเข้าโค้งทำได้อย่างมั่นใจและเฉียบคม มีความเสถียรสูงมากในความเร็วสูง
• เครื่องยนต์ดีเซลที่ทรงพลังและประหยัด: เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร ให้แรงบิดมหาศาล ทำให้การเร่งแซงเป็นเรื่องง่ายดาย และประหยัดเชื้อเพลิงอย่างน่าทึ่งเมื่อเดินทางไกล
• ความหรูหราและอเนกประสงค์: ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย วัสดุคุณภาพสูงตามมาตรฐาน BMW พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
• ภาพลักษณ์ที่เหนือระดับ: การออกแบบที่บึกบึนผสมผสานกับความสปอร์ตของชุดแต่ง M ทำให้ X5 F15 ยังคงดูทันสมัยและน่าเกรงขาม
• ความคุ้มค่าสูงสุดในตลาดมือสอง: จากราคาเปิดตัวเกือบ 6 ล้านบาท การได้เป็นเจ้าของรถระดับนี้ในราคาล้านต้นๆ ถือเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยม

3. เปรียบเทียบความแตกต่างของรุ่นย่อย (ณ ปี 2016)

สรุป: รุ่น xDrive30d M Sport เป็นรุ่นท็อปที่ให้ออปชันและสมรรถนะมาครบเครื่องที่สุด ทั้งความแรงจากเครื่องยนต์ 6 สูบ และการขับขี่ที่เหนือกว่าจากช่วงล่าง M Sport

4. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

• ตาม ECO Sticker: ประมาณ 16.1 กม./ลิตร
• ใช้งานจริง:
  • ในเมือง: ประมาณ 9 - 11 กม./ลิตร
  • นอกเมือง/ทางไกล: สามารถทำได้ดีถึง 13 - 16 กม./ลิตร

5. ราคาเปิดตัว และความคุ้มค่า

• ราคาเปิดตัว (ป้ายแดง ปี 2016): 5,699,000 บาท

✅ เครดิตดี ฟรีดาวน์

BMW 320d M Sport (G20) ปี 2020

BMW ซีรีส์ 3 G20 คือการยกระดับในทุกมิติ ทั้งดีไซน์, เทคโนโลยี, และการขับขี่ แต่สิ่งที่ทำให้รถคันนี้โดดเด่นและน่าสนใจที่สุดคือ "BSI และวารันตีที่ยังเหลืออยู่" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การซื้อรถยุโรปมือสองคันนี้มีความสบายใจใกล้เคียงกับการซื้อรถใหม่ป้ายแดง

1. สเปคเด่นๆ ของรถยนต์ (Key Specifications)

• เครื่องยนต์: ดีเซล 4 สูบ รหัส B47 2.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo
• กำลังสูงสุด: 190 แรงม้า (HP)
• แรงบิดสูงสุด: 400 นิวตัน-เมตร
• ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic Sport พร้อม Paddle Shift
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 6.8 วินาที
• ชุดแต่ง M Sport:
  • ภายนอก: ชุดแต่ง M Aerodynamics, ล้อ M 18 นิ้ว
  • ภายใน: พวงมาลัย M Sport, เบาะ Alcantara/Sensatec, เพดานสีดำ
• เทคโนโลยีเด่น:
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) พร้อม Reversing Assistant
  • BMW Live Cockpit Professional พร้อมจอ 10.25 นิ้ว และ 12.3 นิ้ว

2. จุดเด่นและข้อดี (Highlights & Advantages)

• BSI และวารันตีเหลือยาวถึงปี 2569: คือจุดเด่นที่สุดของรถคันนี้ BSI (บำรุงรักษาฟรี) และวารันตี (รับประกันไม่จำกัดระยะทาง) เหลือถึง 30 ก.ค. 2569 หมายความว่าผู้ซื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าซ่อมบำรุงไปอีกประมาณ 1 ปีเต็ม ซึ่งเป็นความสบายใจที่หาได้ยากมาก
• สมรรถนะจากเครื่องดีเซลที่ยอดเยี่ยม: เครื่องยนต์ B47 ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำ ทำให้ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ และประหยัดน้ำมันอย่างเหลือเชื่อเมื่อเดินทางไกล
• การขับขี่ที่เฉียบคมตามแบบฉบับ G20: การควบคุมและการเข้าโค้งทำได้อย่างมั่นใจและสนุกสนานยิ่งกว่ารุ่นก่อนหน้า
• เทคโนโลยีและดีไซน์ที่ยังสดใหม่: ดีไซน์ของ G20 ยังคงดูทันสมัยมาก ระบบ BMW Live Cockpit Professional ทำให้ห้องโดยสารดูไฮเทค
• ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาป้ายแดง: การได้รถสภาพใหม่และมี BSI เหลือ ในราคาที่ถูกกว่าตอนเปิดตัวเป็นล้านบาท ถือเป็นดีลที่ชาญฉลาดมาก

3. เปรียบเทียบความแตกต่างของรุ่นย่อย (ณ ปี 2020)

สรุป: 320d M Sport คือตัวเลือกที่สมดุลที่สุด ให้ทั้งความแรงที่เพียงพอในชีวิตประจำวันและความประหยัดที่จับต้องได้จริง ทำให้เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงมาก

4. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

• ตาม ECO Sticker: สูงถึง 22.7 กม./ลิตร
• ใช้งานจริง:
  • ในเมือง: ประมาณ 14 - 17 กม./ลิตร
  • นอกเมือง/ทางไกล: สามารถทำได้สบายๆ ที่ 18 - 23 กม./ลิตร

5. ราคาเปิดตัว และความคุ้มค่า

• ราคาเปิดตัว (ป้ายแดง ปี 2020): 2,549,000 บาท