บริการส่งรถมือสองให้ดูถึงหน้าบ้าน

รถมือสองนนทบุรี

Toyota Crown 2.5 (ปี 2006) Royal Saloon Sedan

ราคา 479,000 บาท

TOYOTA CROWN ปี 2006

สีเงิน (สีบรอนซ์) เกียร์ออโต้ เครื่องเบนซิน

ยี่ห้อ : TOYOTA
รุ่น : Crown
โฉมรถยนต์ : (ปี 00-05) รายละเอียดรุ่น : Royal Saloon
ปี : 2006 เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : เบนซิน 2500 CC
ระบบเกียร์ : อัตโนมัติ จำนวนที่นั่ง : 5 ที่นั่ง
เลขไมล์(กม.) : 24x,xxx
สี : เงิน


ไฮไลท์รถยนต์
✅ ผ่อนได้สูงสุด 60 งวด
✅ ผ่อนเริ่มต้นที่ 9,xxx บาท
✅ รถบ้านใช้งานน้อย 2.4 แสนกว่าโลเฉลี่ยปีละ 1x,xxx โล
✅ ยินดีให้คำปรึกษา และการจัดไฟแนนซ์
✅ บริการจัดส่งทั่วประเทศไทย
✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง
✅ อาชีพอิสระ /ค้าขาย/ รับเงินสดเราจัดให้ได้
✅ ติดเครดิตสามารถปรึกษาการออกรถได้ ฟรี
✅ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านคืนเงินทุกกรณี
✅ ฟรี!! บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อก่อนส่งมอบ


รายละเอียดเพิ่มเติม
ปี 2006 โฉม TOYOTA CROWN 2.5 ROYAL SALOON โฉม GRS 180 รถแท้ออกศูนย์ ไม่ใช่รถจดประกอบ เครื่อง 2.5 V6 ออโต้ ไม่เคยติดแก๊ส ออปชั่นเต็มสุด หลังคาซันรูฟ เบาะไฟฟ้าเมมโมรี่ พ.มัลติ ม่านไฟฟ้า แอร์สวิง เบาะเย็น PUSH START ขับนิ่มมากๆ การันตีสภาพ รถสวย ไม่เคยชน ออกห้าง รถผู้บริหาร มีคนดูแลอย่างดีตลอด จอดในร่มตลอด สภาพสวยทั้งภายในและภายนอก แฟนพันธ์แท้ คราวน์ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ยินดีพาไปเช็คสภาพที่ศูนย์ก่อนจอง เช็คศูนย์ TOYOTA ได้ตามปกติ อะไหล่หาง่าย ออกรถง่ายที่สุด ดูรถไม่เป็นก็ซื้อได้ เพราะเรารับประกันว่า รถสวย+เลขไมล์แท้ 24X,XXX Km. เฉลี่ยใช้งานปีละ 1 หมื่นเศษๆ น้อยมาก เราขายความจริง ไม่มีการกลับไมล์ เพื่อให้ท่านดูแลต่อได้อย่างสบายใจ เช็คศูนย์ ทุกระยะ ไม่เคยขาด สำหรับ ลูกค้าประวัติดี ฟรีดาวน์ ออกรถง่ายที่สุด รถบ้านแท้ๆ ซื้อสดฟรี VAT 7 เปอร์เซ็นต์ การันตีสภาพ รถสวย ไมล์แท้ ไม่เคยชน ดูรถไม่เป็นก็ซื้อได้ สบายใจหายห่วง ออกห้างมาประมาณ 3.7 ล้าน คุ้มมากๆ
ข้อมูลจำเพาะ

Toyota Crown 2.5 (2006) Royal Saloon: ซีดานหรูจากแดนอาทิตย์อุทัย

Toyota Crown คือซีดานเรือธงของ Toyota ในตลาดญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศทั่วโลก (ยกเว้นตลาดหลักอย่างอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก) โดยรุ่นนี้คือเจเนอเรชันที่ 12 (S180) หรือที่รู้จักกันในฉายา "Zero Crown" ซึ่งเป็นการปฏิวัติการออกแบบและวิศวกรรมของ Crown ให้มีความทันสมัยและสปอร์ตขึ้นจากรุ่นก่อนๆ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของความหรูหราและความสบายขั้นสุดไว้อย่างครบถ้วน รุ่น Royal Saloon เป็นรุ่นที่เน้นความหรูหราและความสะดวกสบายเป็นหลัก

สเปกเด่นของ Toyota Crown 2.5 (2006) Royal Saloon

  1. เครื่องยนต์ V6 4GR-FSE 2.5 ลิตร พร้อมระบบ D4 (Direct Injection):

    • ขนาด: 2,499 ซีซี (2.5 ลิตร)
    • จำนวนกระบอกสูบ: V6 สูบ (6 สูบรูปตัววี) DOHC 24 วาล์ว
    • ระบบวาล์ว: Dual VVT-i
    • ระบบจ่ายเชื้อเพลิง: D4 (Direct Injection) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคนั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และประหยัดน้ำมัน
    • กำลังสูงสุด: 215 แรงม้า (PS) ที่ 6,400 รอบ/นาที
    • แรงบิดสูงสุด: 260 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที
    • เกียร์: อัตโนมัติ 6 จังหวะ Super ECT (Electronic Controlled Transmission)
    • สมรรถนะ: ให้พละกำลังที่ลื่นไหลและนุ่มนวลตามสไตล์เครื่องยนต์ V6 ของ Toyota ตอบสนองได้ดีสำหรับการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล เหมาะกับการใช้งานแบบผู้บริหารที่เน้นความสบาย
    • ความประหยัด: ด้วยเทคโนโลยี Direct Injection และเกียร์ 6 จังหวะ ทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีสำหรับรถขนาดใหญ่ในยุคนั้น
  2. ห้องโดยสารระดับ First Class พร้อมความสะดวกสบายสูงสุด:

    • วัสดุและงานประกอบ: ภายในใช้วัสดุคุณภาพสูง การตัดเย็บประณีต และการประกอบที่ใส่ใจในรายละเอียดตามมาตรฐานรถยนต์ญี่ปุ่นระดับพรีเมียม
    • เบาะนั่ง: หุ้มด้วยวัสดุคุณภาพดี (มักจะเป็นผ้ากำมะหยี่หรือหนังสังเคราะห์เกรดดีในรุ่น Royal Saloon) ออกแบบมาให้นั่งสบาย โดยเฉพาะผู้โดยสารตอนหลังที่มีพื้นที่วางขากว้างขวาง
    • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกโซน: พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
    • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับพับได้จากด้านหลัง: (ในบางรุ่นย่อย หรือเป็นออปชัน) เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารตอนหลัง
    • คอนโซลกลางและแผงประตู: ตกแต่งด้วยลายไม้และวัสดุโครเมียมอย่างประณีต
  3. ช่วงล่างที่เน้นความนุ่มนวลและมั่นคง:

    • ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ (Double Wishbone ด้านหน้า, Multi-link ด้านหลัง) ที่ได้รับการปรับจูนมาเพื่อเน้นความนุ่มนวลในการโดยสารสูงสุด ดูดซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนได้ดีเยี่ยม ทำให้การเดินทางราบรื่นและสบาย
    • โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนในห้องโดยสาร
  4. ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยี:

    • ระบบ Smart Entry และ Push Start Button: เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า-ออกและสตาร์ทรถ
    • หน้าจอสัมผัสกลาง (Multi-information Display): ควบคุมระบบเครื่องเสียง, ระบบนำทาง (ถ้ามี), และข้อมูลการขับขี่
    • ระบบเครื่องเสียง: คุณภาพเสียงดี พร้อมลำโพงหลายตำแหน่ง
    • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน: ควบคุมระบบเครื่องเสียงและฟังก์ชันอื่นๆ ได้สะดวก
    • ม่านบังแดดหลังไฟฟ้า: เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดความร้อน
    • ระบบเปิดฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า: (บางรุ่นย่อย)
  5. ระบบความปลอดภัยมาตรฐานสูง (สำหรับยุคนั้น):

    • ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง: (มักจะ 6-8 ตำแหน่งขึ้นไป สำหรับรุ่นระดับนี้) ครอบคลุมทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
    • ระบบเบรก ABS/EBD/BA: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก
    • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSC): ช่วยป้องกันการลื่นไถล (ในรุ่นท็อปและบางรุ่นย่อย)
    • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC): (ในรุ่นท็อปและบางรุ่นย่อย)
    • ระบบไฟหน้า AFS (Adaptive Front-lighting System): ปรับทิศทางตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ในรุ่นท็อป/ออปชัน)

    จุดขายหลักของ Toyota Crown 2.5 (2006) Royal Saloon:

    1. "ความหรูหราและสบายสไตล์ญี่ปุ่นในราคาที่จับต้องได้": Crown Royal Saloon ให้ประสบการณ์การขับขี่และการโดยสารระดับพรีเมียม ด้วยความนุ่มนวล ความเงียบ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ในราคาที่คุ้มค่ามากในตลาดรถมือสอง
    2. เครื่องยนต์ V6 ที่ลื่นไหลและทนทาน: เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร V6 ของ Toyota ขึ้นชื่อเรื่องความน่าเชื่อถือ ความทนทาน และการทำงานที่ราบรื่น ให้สมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปโดยไม่จุกจิก
    3. ช่วงล่างนุ่มนวลสบายขั้นสุด: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความนุ่มนวลในการขับขี่ หรือต้องการรถสำหรับผู้บริหารที่เน้นการนั่งสบายในทุกสภาพถนน
    4. ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Toyota: การันตีด้วยชื่อเสียงของ Toyota ในเรื่องคุณภาพ ความทนทาน และค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง รวมถึงอะไหล่ที่หาได้ง่าย ทำให้มั่นใจในการใช้งานระยะยาว
    5. ความเงียบภายในห้องโดยสาร: ด้วยการออกแบบและวัสดุซับเสียงที่ดีเยี่ยม ทำให้ Crown มีห้องโดยสารที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินทางไกล หรือการทำงานขณะเดินทาง

    Isuzu D-Max 3.0 (ปี 2004) CAB-4 SLX Pickup

    ราคา 149,000 บาท

    ISUZU D-MAX ปี 2004

    สีเทา เกียร์ธรรมดา เครื่องดีเซล

    ยี่ห้อ : Isuzu
    รุ่น : D-Max
    โฉมรถยนต์ : CAB-4 (ปี 02-06) รายละเอียดรุ่น : SLX 
    ปี : 2004 เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : ดีเซล 3000 CC
    ระบบเกียร์ : เกียร์ธรรมดา จำนวนที่นั่ง : 4 ที่นั่ง
    เลขไมล์(กม.) :  สี : เทา


    ไฮไลท์รถยนต์

    ✅ เครื่องเสียงอย่างดี แครี่บอย เบาะญี่ปุ่น ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง
    ✅ บริการจัดส่งทั่วประเทศไทย ✅ ซื้อสดไม่ต้องจ่าย VAT 7 เปอร์เซนต์


    รายละเอียดเพิ่มเติม

    เครื่องเดิมดีเซล ขับง่าย ปี 2004 ISUZU DMAX 4 ประตู 3.0 SLX เครื่อง 3000 ดีเซลเดิมๆ เกียร์ธรรมดา กำลังเครื่องดีมากๆ ขับง่าย ดูแลง่าย ทนทาน ไม่จุกจิก เพาเวอร์ ไฟฟ้าทั้งคัน เครื่องเสียงอย่างดี แครี่บอย เบาะญี่ปุ่น รถบ้านแท้ๆ ไม่เคยบรรทุกหนัก พร้อมใช้ ซื้อสดไม่ต้องจ่าย VAT 7 เปอร์เซนต์

    ออกรถง่าย สบายใจหายห่วง รถแลกหน้าโชว์รูม ไม่ใช่รถยึดจากไฟแนนซ์ สีเรียบร้อย สวยไม่สวย ดูที่เบาะยังไม่เคยหุ้มใหม่ เล่มทะเบียนพร้อมโอน

    ข้อมูลจำเพาะ

    Isuzu D-Max 3.0 (2004) CAB-4 SLX: กระบะอเนกประสงค์ สู่รถครอบครัว

    Isuzu D-Max เจเนอเรชันแรก (Dragon Eye) ที่เปิดตัวในช่วงต้นยุค 2000s ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศไทย ด้วยความโดดเด่นด้านความทนทาน เครื่องยนต์ดีเซลที่ประหยัดน้ำมัน และค่าบำรุงรักษาที่คุ้มค่า รุ่น CAB-4 SLX เป็นกระบะ 4 ประตูที่เน้นความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร และการใช้งานที่หลากหลาย

    สเปกเด่นของรถพื้นฐาน (Isuzu D-Max 3.0 CAB-4 SLX 2004)

    • เครื่องยนต์:
      • เครื่องยนต์ดีเซล 4JJ1-TC (Super Commonrail) 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์
      • ขนาด: 2,999 ซีซี (3.0 ลิตร)
      • กำลังสูงสุด: 146 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที
      • แรงบิดสูงสุด: 294 นิวตันเมตร ที่ 1,400 - 3,400 รอบ/นาที
      • สมรรถนะ: เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร Commonrail ในยุคนั้นถือว่าให้กำลังที่ดีเยี่ยม มีแรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้การออกตัวและเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจ เหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและต่างจังหวัด รวมถึงการบรรทุกสัมภาระ
    • ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ (ส่วนใหญ่มักเป็นเกียร์ธรรมดาสำหรับรุ่นนี้) หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ (มีให้เลือกในบางรุ่นย่อย)
    • ระบบขับเคลื่อน: 2 ล้อหลัง (2WD)
    • ช่วงล่าง: ด้านหน้าอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมทอร์ชันบาร์, ด้านหลังแหนบซ้อน (Leaf Spring) ที่แข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับการบรรทุกและรองรับการใช้งานหนัก
    • ห้องโดยสาร CAB-4: กระบะ 4 ประตู ที่มีพื้นที่กว้างขวาง นั่งสบายสำหรับ 4-5 คน เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นรถครอบครัวหรือรถส่วนตัว
    • ความปลอดภัย: ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ในรุ่น SLX), ระบบเบรก ABS/EBD (ในรุ่น SLX)

    การติดตั้ง: แครี่บอย + เบาะญี่ปุ่น

    การดัดแปลงและติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเหล่านี้ช่วยเสริมความอเนกประสงค์และความสะดวกสบายให้กับ Isuzu D-Max คันนี้อย่างมาก:

    1. ติดตั้งแครี่บอย (Canopy/Fiberglass Top)

    • จุดเด่น: แครี่บอยคือฝาครอบกระบะท้ายแบบปิดมิดชิด ทำจากวัสดุไฟเบอร์กลาสหรือวัสดุอื่นๆ ช่วยแปลงพื้นที่กระบะท้ายให้กลายเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระที่ปลอดภัยและกันน้ำกันฝุ่นได้
    • ประโยชน์:
      • เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระแบบมิดชิด: สามารถเก็บของมีค่า สัมภาระเดินทาง หรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศหรือการโจรกรรม
      • กันแดด กันฝน กันฝุ่น: ปกป้องสินค้าหรือสัมภาระจากสภาพแวดล้อม
      • เสริมภาพลักษณ์: ทำให้รถกระบะดูเป็นรถ SUV หรือรถครอบครัวมากขึ้น เหมาะกับการใช้งานส่วนตัว

    2. เบาะญี่ปุ่น

    • จุดเด่น: การติดตั้ง "เบาะญี่ปุ่น" มักหมายถึงเบาะนั่งที่ถอดมาจากรถญี่ปุ่นรุ่นอื่น (เช่น รถ MPV, รถตู้) ซึ่งมักจะมีคุณสมบัติด้านความสบายที่ดีกว่าเบาะกระบะเดิมๆ โดยเฉพาะเบาะแถวหลัง
    • ประโยชน์:
      • เพิ่มความสบายในการโดยสาร: เบาะญี่ปุ่นมักจะมีความนุ่มนวล การรองรับสรีระ และอาจมีฟังก์ชันการปรับเอนหรือเลื่อนได้ดีกว่าเบาะกระบะมาตรฐาน ทำให้ผู้โดยสารเดินทางได้สบายขึ้นมาก โดยเฉพาะในการเดินทางไกล
      • เพิ่มความสวยงามภายใน: เบาะที่ถูกเลือกมาอย่างดี สามารถช่วยยกระดับความรู้สึกพรีเมียมภายในห้องโดยสาร

      จุดขายหลักของ Isuzu D-Max 3.0 (2004) CAB-4 SLX คันนี้:

      1. "กระบะอเนกประสงค์ 4 ประตู พร้อมพื้นที่ใช้สอยพิเศษ": เป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถครอบครัวที่เดินทางพร้อมสัมภาระจำนวนมาก หรือเป็นรถสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการพื้นที่เก็บของที่ปลอดภัยและมีผู้โดยสารร่วมเดินทาง
      2. ความน่าเชื่อถือและทนทานของ Isuzu D-Max: เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร Commonrail ในยุคนั้นขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน อึด ไม่จุกจิก ดูแลรักษาง่าย และประหยัดน้ำมัน ทำให้เป็นรถที่คุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว
      3. ค่าบำรุงรักษาต่ำ: อะไหล่หาง่าย ราคาไม่แพง และมีช่างที่เชี่ยวชาญ D-Max ทั่วไป ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถไม่สูง
      4. ความสบายที่เพิ่มขึ้น: การติดตั้งแครี่บอยช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระที่ปลอดภัย ส่วนเบาะญี่ปุ่นช่วยยกระดับความสบายในการโดยสาร ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
      5. ราคาเข้าถึงง่ายในตลาดมือสอง: เป็นรถที่มีราคาเป็นมิตรในตลาดรถมือสอง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มองหารถกระบะ 4 ประตู ที่พร้อมใช้งานและมีความคุ้มค่า

      BMW 323i 2.4 E36 นกแก้ว (ปี 1999) Sedan

      ราคา 119,000 บาท

      BMW SERIES 3 ปี 1999

      สีเงิน (สีบรอนซ์) เกียร์ออโต้ เครื่องเบนซิน

      ยี่ห้อ : BMW
      รุ่น : 323i
      โฉมรถยนต์ : E36 รายละเอียดรุ่น : นกแก้ว
      ปี : 1999
      เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : เบนซิน 2400 CC
      ระบบเกียร์ : เกียร์ออโต้ จำนวนที่นั่ง : 5 ที่นั่ง
      เลขไมล์(กม.) :
      สี : เทา


      ไฮไลท์รถยนต์
      BMW 323I E36 โฉมนกแก้ว ขายราคาพิเศษ
      ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง ✅ บริการจัดส่งทั่วประเทศไทย
      ซื้อสด ไม่บวกแวท เล่มทะเบียนพร้อมโอน


      รายละเอียดเพิ่มเติม
      BMW 323I E36 โฉมนกแก้ว รถเทริ์นหน้าโชว์รูม ขายราคาพิเศษก่อนปีใหม่ ขายตามสภาพ มีต้องเก็บสีบ้าง รถบ้านแท้ๆ ซื้อเงินสด ไม่บวกแวท เล่มทะเบียนพร้อมโอน

      ปี 1999 BMW 323i 2.4 E36 เครื่องเดิม 2.4 ออโต้ ติดแก๊ส LPG ประหยัดมากๆ สบายใจหายห่วง หาอยู่ไม่ผิดหวังครับ สีเดิมจากโรงงาน ภายในสะอาดเรียบร้อย แต่งหล่อๆ ไม่เคยแต่งเครื่อง ชุดแต่งรอบคัน ล้อฮาแมน

      รถบ้านแท้ๆ ไม่ใช่รถยึดจากไฟแนนซ์หรือรถเช่าประมูล เจ้าของดูแลอย่างดีมากๆ สวยไม่สวย ดูที่เบาะ ไม่เคยหุ้มใหม่
      ข้อมูลจำเพาะ

      BMW 323i 2.4 E36 "นกแก้ว" (ปี 1999) AT: ผสานความคลาสสิกกับความคุ้มค่า

      BMW E36 คือเจเนอเรชันที่ 3 ของ BMW 3 Series ซึ่งได้รับฉายาว่า "นกแก้ว" จากรูปทรงไฟหน้าที่โดดเด่น ถือเป็นหนึ่งใน BMW 3 Series ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชื่นชอบรถยุค 90s ด้วยสมรรถนะการขับขี่สไตล์ BMW ที่เป็นเอกลักษณ์ การที่คุณระบุว่าเป็นรุ่น 323i เครื่อง 2.4 ลิตรนั้น อาจจะหมายถึงเครื่องยนต์ M52B25 

      สเปกเด่นของรถพื้นฐาน (BMW 323i E36 1999)

      • เครื่องยนต์:
        • เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง (Inline-6) รหัส M52B25
        • ขนาด: 2,494 ซีซี (2.4 ลิตร)
        • ระบบวาล์ว: DOHC 24 วาล์ว พร้อมระบบ Double VANOS (ในรุ่นปี 1999)
        • กำลังสูงสุด: 170 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที
        • แรงบิดสูงสุด: 245 นิวตันเมตร ที่ 3,950 รอบ/นาที
        • สมรรถนะ: เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงของ BMW ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวล การทำงานที่ราบรื่น และเสียงอันไพเราะ ให้พละกำลังที่ตอบสนองได้ดีเยี่ยมสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน และยังมีแรงบิดเพียงพอสำหรับการเร่งแซง
      • ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ (AT) 5 จังหวะ (Steptronic ในรุ่นหลังๆ)
      • ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง (RWD) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตในการขับขี่
      • ช่วงล่าง: อิสระ MacPherson Strut ด้านหน้า และ Multi-link ด้านหลัง ให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและการควบคุมที่แม่นยำในแบบฉบับ BMW
      • มิติ: ความยาวประมาณ 4,433 มม. (Sedan)

      การดัดแปลงและของแต่งเพิ่ม

      รถคันนี้ได้รับการปรับแต่งที่ช่วยเสริมทั้งรูปลักษณ์และความคุ้มค่าในการใช้งาน:

      1. ติดตั้งแก๊ส LPG:
        • จุดเด่น: การติดตั้งแก๊ส LPG ทำให้รถคันนี้มีความประหยัดเชื้อเพลิงสูงมาก เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซิน โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันค่อนข้างสูง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างมหาศาล เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถบ่อยๆ หรือใช้เดินทางไกล
        • ระบบแก๊ส: ควรตรวจสอบว่าเป็นการติดตั้งแบบหัวฉีด (Sequential Injection) และได้รับการจูนอย่างเหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและลดผลกระทบต่อเครื่องยนต์
      2. ชุดแต่งรอบคัน:
        • จุดเด่น: การติดตั้งชุดแต่งรอบคัน (เช่น กันชนหน้า-หลัง, สเกิร์ตข้าง) ช่วยเสริมให้รถ E36 ซึ่งมีดีไซน์คลาสสิกอยู่แล้ว ดูสปอร์ต ทันสมัย และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ชุดแต่งยอดนิยมในยุคนั้นมักจะเป็น M-Technic, Hamann, AC Schnitzer หรือ Alpina
        • ความสวยงาม: ทำให้รถมีบุคลิกที่แตกต่างและดึงดูดสายตา
      3. ล้อ Hamann:
        • จุดเด่น: Hamann เป็นสำนักแต่งชื่อดังของ BMW ที่ผลิตชิ้นส่วนประสิทธิภาพสูง รวมถึงล้อแม็ก ล้อ Hamann ที่ติดตั้งมาจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของรถให้ดูสปอร์ต พรีเมียม และมีระดับมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังอาจมีน้ำหนักที่เบาและแข็งแรงกว่าล้อเดิม ทำให้ช่วยเรื่องสมรรถนะการขับขี่ได้เล็กน้อย
        • ความมีสไตล์: เป็นการบ่งบอกถึงรสนิยมและความหลงใหลในแบรนด์ BMW

        จุดขายหลักของ BMW 323i 2.4 E36 "นกแก้ว" (1999) AT (ติดแก๊ส, ชุดแต่ง, ล้อ Hamann):

        1. "รถคลาสสิกที่ยังคงขับสนุกและคุ้มค่า": นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเสน่ห์ของรถยุค 90s (E36) ที่ยังคงให้ประสบการณ์การขับขี่สไตล์ BMW แท้ๆ ในขณะที่การติดตั้ง LPG ช่วยให้ค่าใช้จ่ายในการขับขี่ประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ
        2. สมรรถนะเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงของ BMW: แม้จะเป็นรถที่มีอายุพอสมควร แต่เครื่องยนต์ M52B25 ยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่น่าประทับใจ ให้ความนุ่มนวล กำลังที่ดี และเสียงเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์
        3. ดีไซน์อมตะและโดดเด่นด้วยชุดแต่ง: E36 มีรูปทรงที่ได้รับการยอมรับในความสวยงามอยู่แล้ว การเสริมด้วยชุดแต่งรอบคันและล้อ Hamann ยิ่งทำให้รถคันนี้ดูมีเอกลักษณ์และน่าสนใจมากขึ้นบนท้องถนน
        4. ความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ (ค่าเชื้อเพลิง): การใช้ LPG ช่วยลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงลงอย่างมาก ทำให้รถ BMW ที่เคยถูกมองว่ามีค่าใช้จ่ายสูง กลายเป็นรถที่ขับขี่ได้ทุกวันในงบประมาณที่ควบคุมได้
        5. ประสบการณ์ขับเคลื่อนล้อหลัง: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ที่ให้การควบคุมแบบรถสปอร์ต BMW E36 ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่แบบ RWD ที่สนุกสนานและมีฟิลลิ่งที่ดี

        Ferrari F355 3.5 (ปี 1999) Spider Convertible

        ราคา 10,500,000 บาท

        FERRARI ทั้งหมด ปี 1999

        สีเหลือง เกียร์ออโต้ เครื่องเบนซิน

        ยี่ห้อ : Ferrari
        รุ่น : F355
        โฉมรถยนต์ : ปี 94-99 รายละเอียดรุ่น : Spider
        ปี : 1999 เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : เบนซิน 3500 CC
        ระบบเกียร์ : เกียร์อัตโนมัติ จำนวนที่นั่ง : 2 ที่นั่ง
        เลขไมล์(กม.) : 1x,xxx สี : เหลือง


        ไฮไลท์รถยนต์
        ไมล์เพียง 1 หมื่นกว่าโล  ✅ ออกแบบโดย Pininfarina ตัวสุดท้าย
        ✅ เกียร์ F1 ตัวสุดท้าย (Limited Edition) ผลิตเพียง 1,053 คันทั่วโลก ✅ รถนำเข้าทั้งคัน ไม่ใช่รถจดประกอบ/ประมูลกรมศุลกากร
        ✅ สีเหลืองแท้ (Giallo Modena) - เอกลักษณ์เฟอร์รารี สวยคลาสสิก
        ✅ เครื่องยนต์ 3.5 V8 (380 แรงม้า) เกียร์ F1 - ขุมพลังที่เร้าใจและเสียงสุดกระหึ่ม
        ✅ เป็น "รถสะสม" และ "สินทรัพย์ลงทุน" ที่คุ้มค่าที่สุดในตอนนี้
        ✅ ติดเครดิตสามารถปรึกษาการออกรถได้ ฟรี
        ✅ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านคืนเงินทุกกรณี
        ✅ รับเทริน์ให้ราคาสูง


        รายละเอียดเพิ่มเติม

        Rare item หายากมากๆ FERRARI F355 SPIDER เปิดประทุน ออกแบบโดย Pininfarina ตัวสุดท้าย ในรุ่นเกียร์ F1 ผลิตมาแค่ 1,053 คันทั่วโลก LIMITED สีเหลืองแท้ รถนำเข้าทั้งคัน ไม่ใช่รถจดประกอบหรือรถประมูลกรมศูล หมดปัญหาเรื่อภาษีย้อนหลัง สบายใจหายห่วง


        เครื่องยนต์ขุมพลัง 3.5 V8 กำลังสูงสุด 380 แรงม้า ระบบเกียร์ F1 ดูแลง่าย ขับสนุกมากๆ สภาพเดิมๆ ไม่เคยแต่งเครื่องใดๆทั้งสิ้น


        รถบ้านแท้ๆ ไม่เคยชน สีเดิมจากโรงงานไม่มีริ้วรอยเลยครับ ภายในสะอาดเรียบร้อยไม่มีรอยเลย เบาะไม่เคยหุ้มใหม่ ไม่เคย RESTORE ทุกอย่างเดิมๆจากโรงงาน จอดในร่มตลอด หลังคาผ้าใบใหม่มากๆ จอดในห้องแอร์ สามารถเช็คประวัติย้อนหลังได้ครับ การันตีหารุ่นนี้อยู่ไม่ผิดหวังแน่นอนกับรถสภาพเหมือนใหม่แบบนี้และราคาที่ดีที่สุดในตอนนี้ครั คุ้มมากๆ แฟนพันธุ์แท้ รถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์ สุดคลาสสิค ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ความสวยกล้าท้าระดับประกวด


        ดูรถไม่เป็นก็ซื้อได้ เพราะเรารับประกันว่า รถสวย+เลขไมล์แท้ เราขายความจริง เพื่อให้ท่านดูแลต่อได้อย่างสบายใจ คุ้มมากๆ ประหยัดไปหลายล้าน กับเลขไมล์เพียง 1 หมื่นโล รุ่นนี้ราคาแข็งมากๆ ราคไม่ตก อนาคตราคาขึ้นแน่นอน สภาพเก่าเก็บ น่าสะสมมากๆ คู่มือใช้งานครบ กระเป๋าอุปกรณ์ครบทุกอย่าง ใหม่มากๆ

        ข้อมูลจำเพาะ

        Ferrari F355 3.5 (1999) Spider Convertible: ตำนานที่คงความบริสุทธิ์

        Ferrari F355 เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของ Ferrari ในยุค 90s ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ดีไซน์ที่สวยงาม และประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ โดยเฉพาะรุ่น Spider Convertible ที่เปิดประทุนได้ ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ไปอีกขั้น

        สำหรับรถที่คุณกล่าวถึงว่าเป็น รถนำเข้าทั้งคัน ไม่ใช่รถจดประกอบหรือรถประมูลกรมศุล และไม่เคย RESTORE ทุกอย่างเดิมๆจากโรงงาน นั้น ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับรถ Ferrari Classic/Modern Classic เพราะหมายถึง:

        • ความสมบูรณ์แบบของ Originality: การที่รถไม่เคย Restore และยังคงสภาพเดิมๆ จากโรงงาน รวมถึงการเป็นรถนำเข้าทั้งคัน ไม่ใช่รถจดประกอบหรือประมูล ทำให้รถคันนี้มีคุณค่าและความบริสุทธิ์สูงมากในสายตาของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบ Ferrari
        • ประวัติที่ชัดเจน: การเป็นรถนำเข้าทั้งคัน แสดงถึงเอกสารการนำเข้าที่ถูกต้องและประวัติการดูแลรักษาที่มักจะต่อเนื่องมากกว่ารถจดประกอบ

        สเปกเด่นของ Ferrari F355 3.5 (1999) Spider Convertible:

        1. เครื่องยนต์ V8 วางกลาง DOHC 5 วาล์ว/สูบ:

          • ขนาด: 3,495 ซีซี (3.5 ลิตร)
          • จำนวนกระบอกสูบ: V8 สูบ วางกลางลำตัวรถ
          • กำลังสูงสุด: 380 แรงม้า (PS) ที่ 8,250 รอบ/นาที
          • แรงบิดสูงสุด: 363 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที
          • เทคโนโลยี 5 วาล์ว/สูบ: เป็นจุดเด่นทางวิศวกรรมที่ทำให้เครื่องยนต์ F355 มีรอบจัดและพละกำลังที่สูงในยุคนั้น พร้อมเสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari ที่ไพเราะราวกับเสียงดนตรี
          • เกียร์:
            • Manual 6-speed gate shifter (เกียร์ธรรมดาแบบคันเกียร์ตาราง): เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับนักขับที่ชื่นชอบความดิบและ Engagement ในการขับขี่ (เป็นสเปกดั้งเดิมของ F355)
            • F1 Electrohydraulic (Sequential Manual): เป็นเกียร์กึ่งอัตโนมัติที่ Ferrari เริ่มนำมาใช้ใน F355 รุ่นหลังๆ (สำหรับปี 1999 อาจมีทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับสเปกจากโรงงาน) ซึ่งมอบประสบการณ์แบบรถแข่ง
          • สมรรถนะ: อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในประมาณ 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 295 กม./ชม. ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากสำหรับรถในยุคนั้น
        2. ดีไซน์ Pininfarina ที่สวยงามและอมตะ:

          • เส้นสายที่โค้งมนและลงตัว: F355 ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน Ferrari ที่มีดีไซน์สวยงามเหนือกาลเวลา โดยเฉพาะรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari ยุคกลางเครื่อง
          • ไฟหน้า Pop-up: เป็นเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตในยุค 90s ที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับรถ
          • รูปทรง Spider Convertible: หลังคาเปิดประทุนไฟฟ้า ที่เพิ่มความรู้สึกอิสระและดื่มด่ำกับเสียงเครื่องยนต์ V8 ได้อย่างเต็มที่
        3. โครงสร้างและช่วงล่างที่เน้นสมรรถนะ:

          • โครงสร้างตัวถัง: Semi-monocoque พร้อมซับเฟรมด้านหลังรองรับเครื่องยนต์และช่วงล่าง
          • ช่วงล่าง: อิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ทั้ง 4 ล้อ พร้อมโช้คอัพปรับไฟฟ้า (Electronic Adjustable Dampers) ช่วยให้รถมีการควบคุมที่เฉียบคมและยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม
        4. ภายในห้องโดยสารสไตล์สปอร์ต:

          • เน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชันการใช้งานที่เน้นผู้ขับขี่
          • เบาะนั่งสปอร์ต
          • วัสดุหุ้มหนังคุณภาพสูงตามสไตล์ Ferrari

          จุดขายหลักของ Ferrari F355 3.5 (1999) Spider Convertible (สภาพนี้):

          1. "Ferrari Originality ที่แท้จริง": นี่คือจุดขายที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยสถานะ "รถนำเข้าทั้งคัน ไม่ใช่รถจดประกอบหรือประมูลกรมศุล และไม่เคย RESTORE ทุกอย่างเดิมๆจากโรงงาน" ทำให้รถคันนี้เป็น Asset ที่มีคุณค่าและหายากอย่างยิ่งในตลาดรถสะสม คุณจะได้สัมผัสกับ "จิตวิญญาณ" ของ F355 อย่างที่ควรจะเป็น
          2. ตำนานเครื่องยนต์ V8 5 วาล์ว/สูบ: F355 เป็นรุ่นสุดท้ายของ Ferrari ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ที่มี 5 วาล์วต่อสูบ ซึ่งให้เสียงและคาแรคเตอร์ของเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์และหาไม่ได้อีกแล้วใน Ferrari รุ่นใหม่ๆ
          3. ดีไซน์ที่สวยงามอมตะ: F355 ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งใน Ferrari ที่มีรูปทรงที่ลงตัวและสวยงามที่สุด สามารถจอดโชว์หรือขับไปไหนก็ได้รับความสนใจ
          4. ประสบการณ์การขับขี่แบบ Pure Sports Car: ด้วยเครื่องยนต์วางกลาง การขับเคลื่อนล้อหลัง น้ำหนักที่ค่อนข้างเบา และช่วงล่างที่เฉียบคม ทำให้ F355 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดิบ สนุก และเร้าใจในแบบที่รถสปอร์ตยุคใหม่หลายคันไม่สามารถให้ได้
          5. ศักยภาพในการเป็นของสะสม (Collectibility): ด้วยความที่เป็น Ferrari ยุค Modern Classic ที่มีประวัติชัดเจนและสภาพเดิมๆ จากโรงงาน ทำให้ F355 มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่า หรือเพิ่มมูลค่าได้ในระยะยาวในตลาดรถสะสม
          ประวัติ Ferrari F355

          Ferrari F355 เปิดตัวที่งานแสดงรถยนต์เจนีวาในปี 1994 โดยเป็นรถรุ่นปี 1995 แทน Ferrari 348 รุ่นปี 1990-1994 ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์กลางลำของ Ferrari ที่มีกระบอกสูบน้อยกว่า 12 สูบ ซึ่งเริ่มต้นด้วย Dino 206 GT ปี 1968 348 เปิดตัวในเวลาเดียวกับที่รถสปอร์ต NSX เครื่องยนต์กลางของ Acura เปิดตัว ซึ่งแสดงให้เห็นทันทีว่ารถรุ่นล่าสุดของ Ferrari เป็นรถที่มีอารมณ์แปรปรวน ควบคุมยาก และล้าสมัยมาก ซึ่งนักข่าวรถยนต์ร่วมสมัยหลายคนที่เคยทดสอบ 348 เมื่อรถรุ่นนี้ออกใหม่ก็ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกัน

          Ferrari F355 เทียบกับ 348 ความแตกต่าง

          F355 นั้นดูไม่ต่างจาก 348 แต่ได้รับการออกแบบใหม่โดยตัดช่องระบายอากาศขนาดใหญ่แบบเปิดด้านข้างที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Testarossa ออกไป และอัปเดตรูปลักษณ์เครื่องยนต์กลางลำตัวของ Ferrari สำหรับยุค 1990 เครื่องยนต์ F129B ใหม่นั้นเป็นเครื่องยนต์ของ 348 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่โดยพื้นฐานแล้ว โดยมีความจุเพิ่มขึ้นจาก 3.4 ลิตรเป็น 3.5 ลิตร พร้อมกับการปรับปรุงอื่นๆ อีกมากมาย หัวสูบ 5 วาล์วและก้านสูบไททาเนียมทำให้สามารถเร่งรอบสูงสุดที่ 8,500 รอบต่อนาทีและทำให้ F355 มีแรงม้า 375 แรงม้า โดยบังเอิญ F355 มีกำลังแรงม้าต่อลิตรสูงสุดในบรรดารถยนต์ที่ผลิตขึ้นในขณะนั้น

          การปรับปรุงเฟอร์รารี่ F355

          นอกจากนี้ F355 ยังนำเสนอวิธีแก้ไขปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับ Ferrari มาเป็นเวลาหลายปี ตัวอย่างเช่น กระปุกเกียร์แบบมีประตูโลหะของ Ferrari มักจะมีปัญหาเมื่ออากาศเย็น แต่ F355 ได้นำตัวแลกเปลี่ยนความร้อนจากสารหล่อเย็นมาใช้ ซึ่งจะทำให้เกียร์อุ่นขึ้นได้เร็วขึ้น ระบบจัดการเครื่องยนต์ของ Motronic ยังช่วยให้ F355 ทำงานได้ราบรื่นขึ้นเมื่ออากาศเย็น และเมื่อใช้ร่วมกับคลัตช์ที่ควบคุมได้แม่นยำ การทำงานของคันเกียร์ที่ขับเคลื่อนด้วยก้านที่แม่นยำแทนระบบที่ควบคุมด้วยสายเคเบิลของ 348 และพวงมาลัยพาวเวอร์ไฮดรอลิกใหม่ ทำให้การขับขี่ในเมืองง่ายขึ้นเช่นกัน NSX แสดงให้เห็นว่ารถยนต์หรูที่มีเครื่องยนต์กลางไม่จำเป็นต้องขับยาก และ F355 ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักการดังกล่าว ทำให้อาจเป็น Ferrari ที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน

          ไฮไลท์ของ Ferrari F355

          Ferrari F355 เป็นรถรุ่นสุดท้ายในยุคการออกแบบที่นำโดย Pininfarina ของ Ferrari โดยยังคงลักษณะการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาจากรุ่นต่างๆ ในช่วงทศวรรษ 1980 และรุ่นก่อนหน้า เช่น ดีไซน์ส่วนท้ายรถแบบลอย, กระจังหน้าทรงรีตรงกลางกันชนหน้า, การออกแบบภายในที่เรียบง่ายอย่างไม่ค่อยประณีต และท่อระบายความร้อนแนวนอนที่ติดตั้งด้านข้างที่โดดเด่น

          F355 ย่อมาจากอะไร

          นอกจากนี้ F355 ยังยกเลิกเครื่องหมายการค้าชื่อรุ่นของ Ferrari ที่ใช้เครื่องยนต์กลางตัวรถชั่วคราว โดยตัวเลขสองตัวแรกของชื่อรถระบุถึงความจุกระบอกสูบ ในขณะที่ตัวเลขสุดท้ายระบุถึงจำนวนกระบอกสูบ ("348" หมายถึงความจุกระบอกสูบ 3.4 ลิตร 8 สูบ) สำหรับ F355 "355" หมายถึงความจุกระบอกสูบ 3.5 ลิตร 5 วาล์วต่อกระบอกสูบ


          Isuzu TFR 2.5 (ปี 1995) มังกรทอง Space Cab Pickup

          ราคา 119,000 บาท

          ISUZU DRAGON POWER(ปี00-02) ปี 1995

          สีเงิน (สีบรอนซ์) เกียร์ออโต้ เครื่องดีเซล

          ยี่ห้อ : Isuzu
          รุ่น : D-Max
          โฉมรถยนต์ : SPACE CAB (ปี 00-02) รายละเอียดรุ่น : TFR
          ปี : 1995 เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : ดีเซล 2500 CC
          ระบบเกียร์ : เกียร์ออโต้ จำนวนที่นั่ง : 4 ที่นั่ง
          เลขไมล์(กม.) :  สี : เงิน


          ไฮไลท์รถยนต์

          ✅ มังกรทอง แค็บ รุ่นหน้าหนู
          ✅ ซื้อสดฟรี VAT 7 เปอร์เซนต์
          ✅ มังกรทอง เกียร์ออโต้ (รถหายาก)
          ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง
          ✅ บริการจัดส่งทั่วประเทศไทย
          ✅ รถบ้านแท้ ไม่เคยบรรทุกหนัก
          ✅ เครื่องยนต์ 2.5 ดีเซล (4JA1) ในตำนาน ทนทานอมตะ ไม่เคยจุกจิก
          ✅ เกียร์ออโต้ ขับสบายกว่าเกียร์ธรรมดา เหมาะเก็บสะสม


          รายละเอียดเพิ่มเติม

          เกียร์ออโต้ เครื่องเดิมดีเซล ขับง่าย ปี 1995 ISUZU TFR 2.5 มังกรทอง แค็บ รุ่นหน้าหนู เครื่อง 2500 ดีเซลเดิมๆ เกียร์ออโต้ กำลังเครื่องดีมากๆ ขับง่าย ดูแลง่าย ทนทาน ไม่จุกจิก เพาเวอร์ รถบ้านแท้ๆ ไม่เคยบรรทุกหนัก พร้อมใช้ ซื้อสดไม่ต้องจ่าย VAT 7 เปอร์เซนต์

          ออกรถง่าย สบายใจหายห่วง รถแลกหน้าโชว์รูม ไม่ใช่รถยึดจากไฟแนนซ์ สีเรียบร้อย สวยไม่สวย ดูที่เบาะยังไม่เคยหุ้มใหม่ เล่มทะเบียนพร้อมโอน

          ข้อมูลจำเพาะ

          Isuzu TFR 2.5 (1995) มังกรทอง Space Cab

          Isuzu TFR หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม "มังกรทอง" เป็นรถกระบะยอดนิยมอย่างสูงในยุค 90s ด้วยความทนทานเป็นเลิศ เครื่องยนต์ดีเซลที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและอึด ถือเป็นรถคู่ใจของเกษตรกร พ่อค้า และผู้ประกอบการทั่วประเทศ รุ่นปี 1995 นี้เป็นช่วงกลางของเจเนอเรชัน TFR ที่ยังคงความเรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง

          สเปกเด่นของ Isuzu TFR 2.5 (1995) มังกรทอง Space Cab AT:

          1. เครื่องยนต์ดีเซล 4JA1 2.5 ลิตร (เครื่อง 2500 ดีเซลเดิม):

            • ขนาด: 2,499 ซีซี (2.5 ลิตร)
            • จำนวนกระบอกสูบ: 4 สูบแถวเรียง SOHC
            • กำลังสูงสุด: ประมาณ 87-90 แรงม้า (PS) ที่ 3,900 รอบ/นาที (ในรุ่นที่ไม่ใช่เทอร์โบ)
            • แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 170-175 นิวตันเมตร ที่ 2,300 รอบ/นาที
            • ระบบจ่ายเชื้อเพลิง: ปั๊มหัวฉีดดีเซลแบบกลไก (Direct Injection) ไม่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ซับซ้อน
            • เกียร์: อัตโนมัติ (AT) ซึ่งถือว่าหายากและเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับ TFR ในยุคนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเกียร์ธรรมดา
            • สมรรถนะ: เน้นความทนทาน ทนแก๊สโซฮอล์ (หมายถึงไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำมันดีเซลคุณภาพต่ำในยุคนั้นมากนัก) และประหยัดน้ำมันสำหรับการใช้งานบรรทุกและเดินทางทั่วไป กำลังอาจไม่หวือหวาเท่าเครื่องยนต์สมัยใหม่ แต่ให้แรงบิดที่ต่อเนื่องและเพียงพอต่อการใช้งาน
          2. ตัวถัง Space Cab (แค็บเปิดไม่ได้):

            • ความเอนกประสงค์: เป็นกระบะแค็บที่ได้รับความนิยมสูงในยุคนั้น เนื่องจากมีพื้นที่ด้านหลังเบาะนั่งสำหรับเก็บสัมภาระส่วนตัว หรือสามารถนั่งได้ชั่วคราว (แต่ไม่เหมาะกับการนั่งระยะทางไกล) เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากกว่ากระบะตอนเดียว
            • ดีไซน์: รูปทรงคลาสสิกของรถกระบะในยุค 90s ที่ดูบึกบึนและแข็งแกร่ง
          3. ช่วงล่างที่แข็งแกร่งทนทาน:

            • ด้านหน้า: ทอร์ชันบาร์/ปีกนกคู่
            • ด้านหลัง: แหนบซ้อน (Leaf Spring) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการบรรทุกหนักโดยเฉพาะ ทำให้เป็นรถที่ทนทานสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ หรือการขนส่งสินค้า
          4. ความน่าเชื่อถือและความทนทานระดับตำนาน:

            • ชื่อเสียง: Isuzu TFR ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในรถกระบะที่อึดที่สุดในประวัติศาสตร์รถยนต์เมืองไทย
            • ดูแลรักษาง่าย: ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน ทำให้การซ่อมบำรุงทำได้ง่าย ช่างทั่วไปก็ซ่อมได้ อะไหล่ราคาถูกและหาได้ง่ายมาก

          จุดขายหลักของ Isuzu TFR 2.5 (1995) มังกรทอง Space Cab AT (ในปัจจุบัน):

          1. "รถในตำนาน อึด ทนทาน ไม่จุกจิก": นี่คือจุดแข็งที่สุดของ TFR มังกรทอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถใช้งานจริง ที่เน้นความเชื่อถือได้ ไม่ต้องซ่อมบ่อย และพร้อมลุยงานหนักได้เสมอ
          2. ค่าบำรุงรักษาต่ำมาก: ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์กลไกที่เรียบง่าย อะไหล่ราคาถูกและแพร่หลาย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมอยู่ในระดับต่ำสุดๆ
          3. ประหยัดน้ำมัน (สำหรับยุคสมัย): แม้จะเก่าแล้ว แต่เครื่องยนต์ 4JA1 ยังคงมีชื่อเสียงเรื่องความประหยัดน้ำมัน เมื่อเทียบกับรถกระบะเครื่องใหญ่ในยุคเดียวกัน
          4. ราคาซื้อขายที่เข้าถึงง่าย: ในตลาดรถมือสอง TFR มังกรทองมีราคาที่ไม่สูงมากนัก ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการรถใช้งานที่ไว้ใจได้
          5. เหมาะสำหรับงานบรรทุกเบาถึงปานกลาง: ตัวถัง Space Cab และช่วงล่างที่แข็งแรง ทำให้สามารถบรรทุกสินค้าได้หลากหลายประเภท
          6. เอกลักษณ์และคุณค่าทางใจ: สำหรับหลายๆ คน TFR มังกรทองเป็นมากกว่ารถ แต่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์รถยนต์ไทย และอาจมีความผูกพันทางใจสำหรับผู้ที่เคยเป็นเจ้าของหรือเติบโตมากับรถรุ่นนี้

          Toyota Hiace 3.0 ( 2018 ) D4D Van

          ราคา 499,000 บาท

          TOYOTA HIACE ปี 2018

          สีขาว เกียร์ธรรมดา เครื่องดีเซล

          ยี่ห้อ : Toyota
          รุ่น : Hiace
          โฉมรถยนต์ : ปี 05 - 16 รายละเอียดรุ่น : D4D
          ปี : 2018 เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : ดีเซล 3000 CC
          ระบบเกียร์ : ธรรมดา จำนวนที่นั่ง : 5 ที่นั่ง
          เลขไมล์(กม.) : 16x,xxx สี : ขาว


          ไฮไลท์รถยนต์
          ✅ ผ่อนได้สูงสุด 84 งวด
          ✅ ผ่อนเริ่มต้นที่ 8,xxx บาท
          ✅ ตู้ทึบบรรทุก เจาะกระจก + เบาะ 1 แถว ✅ ไมเนอร์เชนจ์ ไฟหน้าใหม่
          ✅ ปูพื้นอย่างดี รถใช้ในครอบครัว
          ✅ รถมือเดียว ออกห้างตั้งแต่ป้ายแดง
          ✅ อาชีพอิสระ / ค้าขาย / รับเงินสดเราจัดให้ได้
          ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง
          ✅ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านคืนเงินทุกกรณี
          ✅ ยินดีให้คำปรึกษา และ การจัดไฟแนนซ์


          รายละเอียดเพิ่มเติม
          รถตู้ทึบบรรทุก เจาะกระจก + เบาะ 1 แถว รถตู้ อเนกประสงค์ของหายาก MODEL ปี 2018 แท้ๆ โฉม TOYOTA HIACE 3.0 D4D ไฟหน้าใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ เครื่อง 3000 ดีเซล ประหยัดมาก AIRBAG ABS เพาเวอร์ ตู้บรรทุกจากศูนย์ ยกของขึ้น-ลงสะดวก ปูพื้นอย่างดี ไม่ต้องกลัวเปียก รถใช้ในครอบครัว ไม่เคยรับจ้าง รถสวยจัด มือเดียว ออกห้างตั้งแต่ป้ายแดง ไมล์แท้ๆ 16X,XXX Km.เช็คศูนย์ตลอด ประวัติดีมากๆ รถวิ่งทางไกล ไม่โทรม

          ฟรีดาวน์ ออกรถได้ทุกอาชีพ ออกรถง่ายที่สุด ดอกเบี้ยถูกที่สุด
          ข้อมูลจำเพาะ

          Toyota Hiace 3.0 (2018) D4D Van

          รถ Toyota Hiace (H200) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Commuter" ในรุ่นผู้โดยสาร เป็นรถตู้ยอดนิยมในประเทศไทย ด้วยความทนทาน ใช้งานง่าย และค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง สำหรับรุ่น 3.0 D4D Van ในปี 2018 ซึ่งเป็นรุ่นตู้ทึบที่นำมาดัดแปลง จะเป็นรถที่เน้นการบรรทุกและสามารถใช้งานเอนกประสงค์ได้

          สเปกเด่นพื้นฐานของ (Toyota Hiace 3.0 (2018) D4D Van):

          • เครื่องยนต์:
            • เครื่องยนต์ดีเซล 1KD-FTV 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN Turbo พร้อม Intercooler
            • ขนาด: 2,982 ซีซี (3.0 ลิตร)
            • กำลังสูงสุด: 136 แรงม้า (PS) ที่ 3,400 รอบ/นาที
            • แรงบิดสูงสุด: 300 นิวตันเมตร ที่ 1,200 - 2,400 รอบ/นาที
          • ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ (เป็นที่นิยมในรุ่นตู้ทึบ)
          • ระบบขับเคลื่อน: 2 ล้อหลัง (RWD)
          • มิติและน้ำหนัก (ก่อนดัดแปลง):
            • ความยาว: 5,380 มม.
            • ความกว้าง: 1,880 มม.
            • ความสูง: 2,285 มม. (เหมาะสำหรับการบรรทุกสินค้าที่มีความสูง)
            • ระยะฐานล้อ: 3,110 มม.
            • น้ำหนักบรรทุกรวม (GVW): ประมาณ 3,200 - 3,300 กก. (สูงกว่ากระบะทั่วไป)
          • ช่วงล่าง: ด้านหน้าทอร์ชันบาร์/ปีกนกคู่, ด้านหลังแหนบซ้อน (Leaf Spring) ที่แข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับการบรรทุกหนัก
          • ระบบเบรก: ดิสก์เบรกหน้า / ดรัมเบรกหลัง

          จุดเด่นของ Toyota Hiace 3.0 D4D Van (ตู้ทึบ):

          1. เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร ที่ทรงพลังและทนทาน: เครื่องยนต์ 1KD เป็นที่ยอมรับในเรื่องของความอึด ความทนทาน และกำลังที่เพียงพอต่อการบรรทุกหนัก หรือการขับขี่ในระยะทางไกล มีแรงบิดที่ดี ช่วยให้การออกตัวและการเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจ แม้จะมีน้ำหนักบรรทุก
          2. พื้นที่บรรทุกขนาดใหญ่: ด้วยรูปทรงของรถตู้ ทำให้มีปริมาตรการบรรทุกที่สูงกว่ากระบะตู้ทึบปกติ สามารถขนส่งสินค้าที่มีปริมาตรมากได้ดีเยี่ยม
          3. ความน่าเชื่อถือและค่าบำรุงรักษาต่ำ: Toyota Hiace เป็นรถยอดนิยมในเชิงพาณิชย์ จึงหาอะไหล่ได้ง่าย มีช่างที่เชี่ยวชาญจำนวนมาก และค่าบำรุงรักษาโดยรวมไม่แพง ทำให้ลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
          4. ราคาขายต่อดี: เป็นรถที่มีความต้องการในตลาดมือสองสูง ทำให้รักษามูลค่าได้ดี

          การดัดแปลง: เจาะกระจก + เบาะ 1 แถว

          การดัดแปลงนี้บ่งบอกถึงความต้องการใช้งานที่ผสมผสานกันระหว่างการบรรทุกและการโดยสารเล็กน้อย ซึ่งมีจุดเด่นดังนี้:

          • เจาะกระจก:
            • ประโยชน์: ลดความรู้สึกอับทึบภายในห้องโดยสาร และอาจช่วยในเรื่องของแสงสว่างธรรมชาติภายในตู้
          • เบาะ 1 แถว:
            • ประโยชน์: ทำให้สามารถขนส่งผู้โดยสารเพิ่มเติมได้ (เช่น ลูกทีมงาน, ผู้ช่วยขนส่ง) นอกเหนือจากคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยยังคงเหลือพื้นที่บรรทุกสินค้าด้านท้ายจำนวนมาก

            จุดขายหลักของ Toyota Hiace 3.0 (2018) D4D Van ดัดแปลง:

            1. "รถคู่ใจงานบรรทุก พร้อมความยืดหยุ่นสำหรับผู้ร่วมงาน": เป็นรถที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการรถสำหรับขนส่งสินค้าเป็นหลัก แต่ในบางครั้งก็จำเป็นต้องขนส่งคนงานหรือผู้ช่วยไปพร้อมกันด้วยจำนวนหนึ่ง
            2. ประสิทธิภาพการบรรทุกสูง: ด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรที่ทรงพลัง โครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง และพื้นที่บรรทุกที่กว้างขวาง ทำให้สามารถขนสินค้าได้ปริมาณมากและหลากหลายประเภท
            3. ความปลอดภัยและทัศนวิสัยที่ดีขึ้น: การเจาะกระจกช่วยลดข้อจำกัดในการมองเห็นของรถตู้ทึบมาตรฐาน เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
            4. ความคุ้มค่าในการดำเนินงาน: ด้วยชื่อเสียงของ Toyota ในเรื่องความทนทาน และค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง ทำให้รถคันนี้เป็น Asset ที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจในระยะยาว
            5. ความอเนกประสงค์: เป็นการผสมผสานที่ดีระหว่างรถเพื่อการพาณิชย์และการใช้งานส่วนตัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมาก

            Toyota Yaris 1.2 ( 2014 ) G Hatchback

            ราคา 229,000 บาท

            TOYOTA YARIS ปี 2014

            สีขาว เกียร์ออโต้ เครื่องเบนซิน

            ยี่ห้อ : Toyota
            รุ่น : Yaris
            โฉมรถยนต์ : ปี 13 - 17 รายละเอียดรุ่น : G
            ปี : 2014 เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : เบนซิน 1200 CC
            ระบบเกียร์ : ออโต้ จำนวนที่นั่ง : 5 ที่นั่ง
            เลขไมล์ ( กม. ) :  สี : ขาว


            ไฮไลท์รถยนต์

            ✅ ผ่อนได้สูงสุด 72 งวด
            ✅ ผ่อนเริ่มต้นที่ 4,xxx บาท
            ✅ เครดิตดี ฟรีดาวน์
            ✅ รุ่นท็อปสุด "G" ออปชั่นเยอะกว่ารุ่นอื่น
            ✅ ชุดแต่งรอบคัน ไฟหน้าโปรเจคเตอร์
            ✅ สามารถเช็คประวัติย้อนหลังได้
            ✅ อาชีพอิสระ / ค้าขาย / รับเงินสดเราจัดให้ได้
            ✅ บริการจัดส่งทั่วประเทศไทย
            ✅ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านคืนเงินทุกกรณี
            ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง


            รายละเอียดเพิ่มเติม

            TOYOTA YARIS 1.2 G ตัวท๊อปสุด MODEL ปี 2014 แท้ๆ รถสวย สภาพเดิมๆ เลขไมล์แท้ 22X,XXX Km เช็คศูนย์ตลอด ประวัติดีมากๆ รถวื่งทางไกล ไม่โทรม เจ้าของดูแลดีมากๆ ขายราคาสมเหตุสมผล เฉลี่ยเพียงปีละ 2 หมื่น รถเทิร์นหน้าโชว์รูม รถบ้านแท้ๆ ซื้อเงินสด ไม่บวกแวท

            เครื่อง 1.2 อีโคคาร์ ออโต้ ประหยัดมากๆ สบายใจหายห่วง ออปชั่นเต็ม ชุดแต่งรอบคัน ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เพาเวอร์ กระจกไฟฟ้า พ.มัลติ แอร์ดิจิตอล PUSH START การันตีสภาพ สะอาดเรียบร้อย ไม่โทรม เจ้าของดูแลดีมาก หาอยู่ไม่ผิดหวังครับภายในสะอาดเรียบร้อยไม่มีรอยเลย สามารถเช็คประวัติย้อนหลังได้ครับ การันตีหารุ่นนี้อยู่ไม่ผิดหวังแน่นอนกับรถสภาพเหมือนใหม่แบบนี้และราคาที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ สวยไม่สวย ดูที่เบาะ ยังไม่เคยหุ้มใหม่ ไม่ช้ำ ไม่โทรม เจ้าของดูแลดีมากๆ

            ฟรีดาวน์ ออกรถง่ายที่สุด ดอกเบี้ยถูก รับรถได้ทันที 

            ข้อมูลจำเพาะ

            Toyota Yaris 1.2 (2014) G AT Hatchback

            Toyota Yaris เจเนอเรชันที่ 3 (XP150) ที่เปิดตัวในประเทศไทยในปี 2013 เป็นรุ่นที่ปรับขนาดเครื่องยนต์ลงมาเป็น 1.2 ลิตร เพื่อให้เข้าโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco Car Phase 1) โดยรุ่น 1.2 G AT ถือเป็นรุ่นย่อยที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างครบครันในยุคนั้น

            สเปกเด่นของ Toyota Yaris 1.2 (2014) G AT Hatchback:

            1. เครื่องยนต์ 3NR-FE Dual VVT-i 1.2 ลิตร:

              • ขนาด: 1,197 ซีซี (1.2 ลิตร)
              • จำนวนกระบอกสูบ/วาล์ว: 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว
              • กำลังสูงสุด: 86 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที
              • แรงบิดสูงสุด: 108 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
              • เกียร์: อัตโนมัติ Super CVT-i
              • สมรรถนะ: เน้นความประหยัดน้ำมันเป็นหลัก เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ให้ความคล่องตัวในการจราจรติดขัด และมีอัตราเร่งที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เกียร์ CVT ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น
              • ความประหยัดน้ำมัน: เป็นจุดเด่นสำคัญของ Yaris Eco Car โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ดีเยี่ยม (จากข้อมูลโรงงานทำได้ถึง 20 กม./ลิตร)
            2. ดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยและลงตัว:

              • ไฟหน้า Projector: (ในรุ่น G) ให้การส่องสว่างที่ดีกว่าไฟแบบ Multi-reflector ในรุ่นล่าง
              • กระจังหน้าดีไซน์ Trapezoidal: เอกลักษณ์ของ Yaris ในยุคนั้น ที่ดูสปอร์ตและทันสมัย
              • ล้ออัลลอย 15 นิ้ว: (ในรุ่น G) ขนาดกำลังดี เข้ากับตัวรถ
              • รูปทรง Hatchback: 5 ประตู ที่ดูสปอร์ตและมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่ยืดหยุ่น
            3. ภายในห้องโดยสารกว้างขวางเกินคาด (สำหรับรถ Eco Car):

              • พื้นที่ห้องโดยสาร: แม้จะเป็นรถ Eco Car แต่ Yaris โดดเด่นด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง โดยเฉพาะพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่สบายกว่าคู่แข่งหลายรุ่น ทำให้เป็นรถที่นั่งได้จริงสำหรับ 4-5 คน
              • พื้นที่เก็บสัมภาระ: ด้านท้ายมีขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และสามารถพับเบาะหลังเพิ่มพื้นที่ได้
              • เบาะนั่ง: หุ้มผ้า (ในรุ่น G) ออกแบบมาให้รองรับสรีระได้ดี
              • พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS: ควบคุมง่าย ให้ความคล่องตัวในการขับขี่ในเมือง
            4. ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกที่จำเป็น:

              • ระบบปรับอากาศ: แบบลูกบิด (ในรุ่น G)
              • ระบบเครื่องเสียง: วิทยุ CD/MP3/WMA พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX (รองรับ Bluetooth ในบางรุ่นย่อย หรือเป็นออปชันเสริม)
              • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน: พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง (ในรุ่น G)
              • กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า:
            5. ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน:

              • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS Airbags): สำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
              • ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System): ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน
              • ระบบ EBD (Electronic Brake-force Distribution): กระจายแรงเบรกให้เหมาะสมในแต่ละล้อ
              • ระบบ BA (Brake Assist): เสริมแรงเบรกในกรณีเบรกฉุกเฉิน
              • โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA: ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชน

              สรุปความแตกต่างที่สำคัญของ Yaris 1.2 G AT จากรุ่นย่อยอื่น ๆ:

              • เหนือกว่ารุ่น E, J, J ECO:

                • อุปกรณ์อำนวยความสะดวก: รุ่น G ได้รับฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน เช่น ปุ่มสตาร์ท (Push Start), ระบบ Smart Entry (Keyless), พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุม, ไฟหน้า Projector และไฟตัดหมอก ซึ่งทำให้การขับขี่และใช้งานง่ายขึ้นและดูทันสมัยขึ้น
                • ความสวยงาม: ล้ออัลลอย 15 นิ้ว และไฟหน้าที่ดูดีกว่า
                • มาตรวัด: มาตรวัดเรืองแสง Optitron เพิ่มความคมชัดและสวยงาม
              • ความปลอดภัย: ทุกรุ่นย่อยของ Yaris 1.2 ในปี 2014 (รุ่นที่เข้าโครงการ Eco Car Phase 1) จะมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง และระบบเบรก ABS/EBD/BA เป็นมาตรฐานเท่ากันหมด จึงไม่แตกต่างกันในจุดนี้

                จุดขายหลักของ Toyota Yaris 1.2 (2014) G AT Hatchback:

                1. "รถคันแรกที่ลงตัวสำหรับชีวิตเมือง": ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ห้องโดยสารที่กว้างขวาง และความคล่องตัวในการขับขี่ ทำให้ Yaris เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานในเมือง การจอดรถ หรือการขับขี่ในที่แคบ
                2. ประหยัดน้ำมันสุดๆ: การเป็น Eco Car และเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมเกียร์ CVT ทำให้ Yaris มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำมาก ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน
                3. ความน่าเชื่อถือของ Toyota: เป็นที่ยอมรับในเรื่องความทนทานของเครื่องยนต์และเกียร์ ค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่หาง่าย มีศูนย์บริการทั่วประเทศ ทำให้มั่นใจในการใช้งานระยะยาว
                4. ราคาเข้าถึงง่ายในตลาดมือสอง: เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดมือสอง ทำให้หาซื้อได้ง่ายในราคาที่สมเหตุสมผล และมีสภาพให้เลือกหลากหลาย
                5. อุปกรณ์ครบครันสำหรับรุ่น G: รุ่น G ถือเป็นรุ่นท็อปของเครื่อง 1.2 ลิตรที่ให้ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วนและสะดวกสบายเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นปุ่มสตาร์ท, ระบบ Smart Entry, หรือพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
                6. พื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์: ตัวถังแบบ Hatchback พร้อมเบาะหลังที่พับได้ ช่วยให้สามารถบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ได้เมื่อจำเป็น เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

                Toyota Fortuner 2.4 ( 2023 ) Legender SUV

                ราคา 1,290,000 บาท

                TOYOTA FORTUNER ปี 2023

                สีขาว เกียร์ออโต้ เครื่องดีเซล

                ยี่ห้อ : TOYOTA
                รุ่น : Fortuner
                โฉมรถยนต์ : ( ปี 15 - 25 ) รายละเอียดรุ่น : Legender
                ปี : 2023 เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : ดีเซล 2400 CC
                ระบบเกียร์ : อัตโนมัติ จำนวนที่นั่ง : 7 ที่นั่ง
                เลขไมล์(กม.) : 2x,xxx สี : ขาว


                ไฮไลท์รถยนต์
                ✅ ผ่อนได้สูงสุด 84 งวด
                ✅ ผ่อนเริ่มต้นที่ 21,xxx บาท
                ✅ ไมล์ 2 หมื่นกว่าโล
                ✅ โฉมใหม่ล่าสุด หลังคาดำ Blacktop
                ✅ แปลงรอบคัน GR SPORT จากศูนย์
                ✅ รถมือเดียวออกห้าง ยังมีวารันตีจากศูนย์
                ✅ อาชีพอิสระ / ค้าขาย / รับเงินสดเราจัดให้ได้
                ✅ บริการขับส่งทั่วประเทศไทย
                ✅ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านคืนเงินทุกกรณี
                ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง



                รายละเอียดเพิ่มเติม

                ไมล์น้อย 2 หมื่นโล ตัวรถผลิตและจดทะเบียนปี 2023 แท้ๆ ไม่ลากจดทะเบียน โฉม TOYOTA NEW FORTUNER 2.4 Legender โฉมใหม่ล่าสุด หลังคาดำ Blacktop แปลงรอบคัน GR SPORT จากศูนย์ รถสวยสภาพป้ายแดง แต่งพิเศษจากศูนย์ ยังมีวารันตีจากศูนย์ รถมือเดียวออกห้าง รถบ้านแท้ๆ

                เครื่อง 2400 ดีเซล ออโต้ ขับ 2 มี PADDLE SHIFT ประหยัดมากๆ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก ทนทาน

                ตัวแต่งจากศูนย์ ชุดแต่งรอบคัน เบาะดำ-แดง เบาะไฟฟ้า ฝาท้ายไฟฟ้า ปุ่มสตาร์ท เครื่องเล่น CD, กระจกไฟฟ้า, เซ็นทรัลล็อค, พวงมาลัยพาวเวอร์, ABS, AIRBAG, PARK SENSOR,จอ DVD TV กล้องรอบคัน โช็ค PROFERDER นุ่มหนึบๆ เบรค BREMBO ล้อแม็ก TE

                รถครอบครัว เบาะ 3 แถว แอร์ 3 ตอน น่าใช้มาก ทั้งสวยและประหยัด

                รถบ้านแท้ๆ ไม่ใช่รถเช่าหรือรถยึดไฟแนนซ์ เจ้าของออกป้ายแดงมา เจ้าของดูแลอย่างดีมากๆ ไม่เคยชน ไม่เคยจมน้ำ สภาพดีที่สุดแน่นอน คุณเลือกได้จะซื้อรถแบบไหน คุณคือคนที่เลือกเอง รับฟังทุกเงื่อนไข ซื้อคันนี้เหมือนได้รถป้ายแดง แต่ ราคามือสอง คุ้มมากๆ

                ข้อมูลจำเพาะ

                Toyota Fortuner 2.4 (2023) Legender Blacktop แปลง GR SPORT (จากศูนย์)

                นี่คือ Fortuner ที่ไม่ใช่แค่ Fortuner ทั่วไป แต่เป็นรถที่ได้รับการอัปเกรดทั้งรูปลักษณ์และสมรรถนะการขับขี่ โดยเฉพาะการแปลงเป็น GR SPORT จากศูนย์ ทำให้รถคันนี้มีความโดดเด่นและสปอร์ตเต็มตัว

                สเปกเด่นของรถพื้นฐาน (Toyota Fortuner 2.4 Legender 2023 Blacktop)

                เครื่องยนต์:

                • เครื่องยนต์ดีเซล 2GD-FTV 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN Turbo พร้อม Intercooler ขนาด: 2,393 ซีซี (2.4 ลิตร) กำลังสูงสุด: 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด: 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 2,000 รอบ/นาที
                • ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift
                • ระบบขับเคลื่อน: 2 ล้อหลัง (2WD)
                • ช่วงล่าง: ด้านหน้าอิสระปีกนกคู่, ด้านหลังแบบ 4-link coil spring (คอยล์สปริง) เพื่อความนุ่มนวลในการขับขี่ (แตกต่างจากรถกระบะทั่วไปที่เป็นแหนบ)
                • ความปลอดภัย: ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบ VSC, TRC, HAC, DAC, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (TSC), เซ็นเซอร์กะระยะหน้า-หลัง

                จุดเด่นของ Fortuner 2.4 Legender Blacktop

                1. ดีไซน์ภายนอก Legender ที่หรูหราและสปอร์ต:
                  • ไฟหน้า Full LED: แบบ Dual Projector ดีไซน์เรียวยาว ส่องสว่างชัดเจน
                  • ไฟเลี้ยวและไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED Light Guiding: ดีไซน์เป็นเส้นสายที่ดูทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์
                  • กันชนหน้า-หลังดีไซน์เฉพาะ Legender: ให้ความรู้สึกสปอร์ตและพรีเมียม
                  • หลังคาดำ (Blacktop): เพิ่มความสสปอร์ตและตัดกับสีตัวถัง ทำให้รถดูโดดเด่นสะดุดตา
                2. ภายในห้องโดยสารพรีเมียม:
                  • เบาะหนังดีไซน์เฉพาะ Legender
                  • หน้าจอสัมผัสขนาด 8 หรือ 9 นิ้ว (แล้วแต่ปี/รุ่นย่อย) รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
                  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทุกแถว
                  • ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam Protection และ Kick Sensor (เตะเปิด)

                การแปลงเป็น GR SPORT จากศูนย์ (และของแต่งเพิ่มเติม)

                นี่คือส่วนที่ทำให้ Fortuner คันนี้พิเศษและแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง:

                1. การแปลง GR SPORT รอบคันจากศูนย์

                การแปลงเป็น GR SPORT จากศูนย์ หมายความว่ารถคันนี้ได้รับการติดตั้งชิ้นส่วนและชุดแต่งจาก Toyota Racing Development (GR) โดยตรง ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก Legender ทั่วไปดังนี้:

                1. ชุดแต่ง GR SPORT รอบคัน:
                  • กันชนหน้า-หลังดีไซน์ GR SPORT: มีช่องดักลมขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มความดุดันและสปอร์ตอย่างชัดเจน
                  • กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะ GR SPORT: ลายตาข่ายรังผึ้งสีดำเงา พร้อมสัญลักษณ์ GR
                  • สัญลักษณ์ GR SPORT: ที่ตัวถังด้านข้างและท้ายรถ
                  • คาลิเปอร์เบรกสีแดง: (ตามสไตล์ GR Sport หรืออาจเป็นของแต่งเพิ่มเอง)
                2. ของแต่งเพิ่มระดับพรีเมียม

                นอกจากชุดแต่ง GR SPORT แล้ว ยังมีการอัปเกรดสำคัญเพิ่มเติมที่ส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่โดยตรง:

                • โช้คอัพ Profender (นุ่มหนึบๆ):
                  • Profender เป็นแบรนด์โช้คอัพ aftermarket ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มรถ PPV และกระบะในไทย
                  • จุดเด่น: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่อย่างชัดเจน ทำให้ช่วงล่าง "นุ่มนวล" ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อวิ่งในความเร็วต่ำหรือผ่านรอยต่อถนน ลดความกระด้าง แต่ยังคงความ "หนึบ" ในความเร็วสูง ลดอาการโคลงเคลงหรือย้วย ทำให้รถเกาะถนนได้ดีขึ้น เข้าโค้งมั่นคงขึ้น และการโดยสารสบายขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับโช้คอัพเดิม
                  • ความคุ้มค่า: เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากสำหรับ Fortuner ที่ต้องการความสบายในการเดินทาง
                • เบรก BREMBO:
                  • Brembo เป็นแบรนด์ระบบเบรกสมรรถนะสูงระดับโลก
                  • จุดเด่น: การอัปเกรดระบบเบรกเป็น Brembo จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหยุดรถได้อย่างมหาศาล ระยะเบรกสั้นลงอย่างชัดเจน ให้ความรู้สึกมั่นใจในการเบรกในทุกย่านความเร็ว โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือมีการบรรทุกหนัก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด
                  • ความสวยงาม: คาลิเปอร์เบรก Brembo ยังเพิ่มความสปอร์ตและความโดดเด่นให้กับรถอีกด้วย
                • ล้อแม็ก TE:
                  • ล้อแม็ก "TE" มักจะหมายถึงล้อสไตล์ RAYS TE37 ซึ่งเป็นล้อ Forged หรือ Flow Formed ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงมาก (หรืออาจเป็นล้อ Replica ที่ดีไซน์คล้ายกัน)
                  • จุดเด่น: ล้อน้ำหนักเบาช่วยลดน้ำหนักใต้สปริง (Unsprung Weight) ทำให้ช่วงล่างทำงานได้ดีขึ้น การตอบสนองของพวงมาลัยดีขึ้น และการออกตัว/เบรกมีประสิทธิภาพขึ้นเล็กน้อย
                  • ความสวยงาม: ลาย TE37 เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มรถแต่ง เพราะให้ลุคที่สปอร์ต ดุดัน และดูมีสมรรถนะ

                จุดขายหลักของ Toyota Fortuner 2.4 Legender Blacktop แปลง GR SPORT คันนี้:

                • "ตัวจริงเรื่องความสปอร์ตพรีเมียมที่แตกต่าง": รถคันนี้ไม่ใช่แค่ Fortuner Legender ทั่วไป แต่ได้อารมณ์ของ Fortuner GR SPORT เต็มตัว ด้วยชุดแต่งรอบคันจากศูนย์ ทำให้โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
                • สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ามาตรฐาน:
                  • ช่วงล่าง Profender: มอบความนุ่มนวลและหนึบแน่นที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในเมืองและนอกเมือง การเดินทางไกลจะสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
                  • เบรก BREMBO: เพิ่มความมั่นใจในการควบคุมรถและลดระยะเบรกอย่างมีนัยสำคัญ ปลอดภัยยิ่งขึ้น
                  • ล้อ TE: เสริมลุคสปอร์ตและมีส่วนช่วยในเรื่องสมรรถนะ
                • ความน่าเชื่อถือของ Toyota: แม้จะมีการแต่งเพิ่ม แต่รถพื้นฐานยังคงเป็น Fortuner ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ที่ประหยัดน้ำมัน และค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง รวมถึงราคาขายต่อที่ดีเยี่ยม
                • ความคุ้มค่าสำหรับคนรักรถแต่ง: ได้รถที่ได้รับการอัปเกรดมาแล้วอย่างดีจากเจ้าของเดิม ด้วยของแต่งคุณภาพสูง ไม่ต้องเสียเวลาและงบประมาณในการนำไปแต่งเอง
                • ความอเนกประสงค์แบบ PPV SUV: ยังคงคุณสมบัติหลักของ Fortuner คือห้องโดยสารกว้างขวาง 7 ที่นั่ง นั่งสบายสำหรับครอบครัว และความสามารถในการขับขี่ที่หลากหลายทั้งบนทางเรียบและลุยเบาๆ

                Toyota Innova 2.8 ( 2019 ) Crysta G Wagon

                ราคา 549,000 บาท

                TOYOTA INNOVA ปี 2019

                สีเงิน (สีบรอนซ์) เกียร์ออโต้ เครื่องดีเซล

                ยี่ห้อ : Toyota
                รุ่น : Innova
                โฉมรถยนต์ : ( ปี 16 - 22 ) รายละเอียดรุ่น : Crysta G
                ปี : 2019 เชื้อเพลิง / ขนาดเครื่องยนต์ : ดีเซล 2800 CC
                ระบบเกียร์ : อัตโนมัติ จำนวนที่นั่ง : 7 ที่นั่ง
                เลขไมล์ ( กม. ) : 17x,xxx สี : เงิน


                ไฮไลท์รถยนต์
                ✅ ผ่อนได้สูงสุด 84 งวด
                ✅ ผ่อนเริ่มต้นที่ 9,xxx บาท
                ✅ เครดิตดี ฟรีดาวน์
                ✅ โฉมไมเนอร์เชนจ์ กระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าใหม่ 
                ✅ เครื่องดีเซล 2.8 แรงจัดประหยัดจริง
                ✅ ชุดแต่งทรงสปอร์จากศูนย์รอบคัน
                ✅ แชสซีส์เดียวกับ Fortuner แข็งแกร่ง ทนทาน
                ✅ บริการขับส่งทั่วประเทศไทย
                ✅ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านคืนเงินทุกกรณี
                ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง



                รายละเอียดเพิ่มเติม

                TOYOTA INNOVA 2.8 G CRYSTA โฉมใหม่ ไฟหน้าใหม่ ตัวรถผลิตและออกรถปี 2019 แท้ๆ เครื่องดีเซล 2800 ออโต้ ประหยัดมากๆ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก ทนทาน รถมือเดียวออกห้าง การันตีสภาพ รถสวย+เลขไมล์แท้ๆ

                ออปชั่นเต็ม ชุดแต่งรอบคัน DVD TV จอถอย กระจกไฟฟ้า, เซ็นทรัลล็อค, พวงมาลัยพาวเวอร์ AIRBAG แอร์ดิจิตอล

                รถครอบครัว ราคาประหยัด เบาะ 3 แถว แอร์ราวหลังคา นั่งสบาย น่าใช้มาก ทั้งสวยและประหยัด สวยไม่สวย ดูที่เบาะ ไม่เคยหุ้มใหม่ ไม่ช้ำ ไม่โทรม

                ฟรีดาวน์ ออกรถง่ายที่สุด เจ้าของดูแลอย่างดีมากๆ สภาพดีที่สุดแน่นอน คุณเลือกได้จะซื้อรถแบบไหน คุณคือคนที่เลือกเอง รับฟังทุกเงื่อนไข สภาพเดิมๆ ไม่เคยแต่งซิ่ง เลขไมล์ 17X,XXX Km. เช็คศูนย์ ทุกระยะ ไม่เคยขาด รถวิ่งทางไกล ไม่โทรม เจ้าของดูแลดีมาก

                ข้อมูลจำเพาะ

                Toyota Innova 2.8 (2019) Crysta G Wagon

                Toyota Innova Crysta (AN140) เป็นเจเนอเรชันที่สองของ Innova ซึ่งเปิดตัวในประเทศไทยในปี 2016 โดยมุ่งเน้นความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) สำหรับครอบครัวที่ให้ความสะดวกสบาย ความกว้างขวาง และความน่าเชื่อถือ ซึ่งในปี 2019 รุ่น 2.8 G ถือเป็นรุ่นกลางในไลน์อัพเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร

                สเปกเด่นของ Toyota Innova 2.8 (2019) Crysta G Wagon:

                1. เครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV 2.8 ลิตร VN-Turbo:
                  • ขนาด: 2,755 ซีซี (2.8 ลิตร)
                  • กำลังสูงสุด: 174 แรงม้า (PS) ที่ 3,400 รอบ/นาที
                  • แรงบิดสูงสุด: 360 นิวตันเมตร ที่ 1,200 – 3,400 รอบ/นาที
                  • เกียร์: อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift
                  • สมรรถนะ: ให้พละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน การเดินทางไกล หรือการบรรทุกผู้โดยสารเต็มคัน ด้วยแรงบิดที่สูงตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้การออกตัวและการเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจ
                  • ความทนทานและประหยัดน้ำมัน: เป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีตามมาตรฐาน Toyota
                2. ห้องโดยสารที่กว้างขวางและยืดหยุ่น (7 หรือ 8 ที่นั่ง):
                  • Innova Crysta ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัว ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน
                  • เบาะนั่งแถวสองสามารถเลือกได้ทั้งแบบ Captain Seat (2 ที่นั่งแยกอิสระ) ในรุ่น V และ G หรือแบบ Bench Seat (3 ที่นั่ง) ในรุ่น G บางรุ่นย่อย ทำให้รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 หรือ 8 คนตามการจัดวาง
                  • เบาะนั่งแถวสามสามารถพับเก็บแบบแยก 50:50 และแขวนขึ้นด้านข้างได้ เพิ่มความยืดหยุ่นในการขนสัมภาระ
                3. ช่วงล่างที่นุ่มนวลและมั่นคง:
                  • แม้จะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ Innova Crysta ให้ความรู้สึกนุ่มนวลในการขับขี่ ซับแรงกระแทกได้ดี เหมาะสำหรับการเดินทางไกล และให้ความมั่นคงในการควบคุมรถ
                  • โครงสร้างตัวถังแบบ IMV (Innovative International Multi-purpose Vehicle): ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Fortuner และ Hilux Revo แต่มีการปรับจูนให้เหมาะกับความเป็น MPV โดยเฉพาะ
                4. ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกที่จำเป็น:
                  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทุกแถว: มีระบบทำความเย็นสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำให้ทั่วถึงและเย็นสบาย
                  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว: รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, USB, AUX
                  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน: พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและรับ-วางสายโทรศัพท์
                  • กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า:
                  • ไฟหน้า Projector Halogen: พร้อม Multi-reflector และไฟท้าย LED
                5. ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน:
                  • ถุงลมนิรภัย 3 ตำแหน่ง: (คู่หน้า และหัวเข่าคนขับ)
                  • ระบบเบรก ABS/EBD/BA: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก
                  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSC): ช่วยป้องกันการลื่นไถล
                  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC): เพิ่มการยึดเกาะถนน
                  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC): ช่วยป้องกันรถไหลเมื่อออกตัวบนทางชัน

                สรุปความแตกต่างที่สำคัญของ Innova Crysta 2.8 G จากรุ่นย่อยอื่น ๆ:

                • เหนือกว่ารุ่น 2.0 G/Entry (เบนซิน):
                  • เครื่องยนต์: ได้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ที่ให้พละกำลังและแรงบิดสูงกว่าอย่างชัดเจน เหมาะกับการบรรทุกผู้โดยสารและการเดินทางไกล (รุ่น 2.0 เบนซินมี 139 แรงม้า / 183 นิวตันเมตร)
                  • เกียร์: ได้เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ (รุ่น 2.0 เป็น 5 จังหวะ)

                จุดขายหลักของ Toyota Innova 2.8 (2019) Crysta G Wagon:

                1. ความน่าเชื่อถือและความทนทานของ Toyota: แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพ ความทนทาน และค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง รวมถึงหาอะไหล่และศูนย์บริการได้ง่าย
                2. เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ที่ทรงพลังและประหยัด: ให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยมสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทั้งในเมืองและนอกเมือง พร้อมความประหยัดน้ำมัน
                3. ห้องโดยสารกว้างขวางและอเนกประสงค์: เป็นรถ MPV 7-8 ที่นั่ง ที่แท้จริง สามารถปรับเบาะนั่งและพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ขนสัมภาระมาก
                4. ความสบายในการขับขี่และการโดยสาร: ช่วงล่างที่นุ่มนวลและห้องโดยสารที่เงียบ ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสบาย
                5. ราคาที่คุ้มค่าในตลาดมือสอง: เมื่อเทียบกับรถ PPV SUV 7 ที่นั่งอย่าง Fortuner Innova Crysta จะมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าในตลาดมือสอง แต่ยังคงได้ความกว้างขวางและเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกัน

                โดยรวมแล้ว Toyota Innova 2.8 (2019) Crysta G Wagon เป็น MPV ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ครอบครัวขนาดใหญ่ที่เน้นความกว้างขวาง ความสบายในการเดินทาง ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลที่คุ้มค่าครับ

                Toyota Alphard 2.5 ( 2019 ) S C-Package Van

                ราคา 2,250,000 บาท

                TOYOTA ALPHARD ปี 2019

                สีดำ เกียร์ออโต้ เครื่องเบนซิน

                ยี่ห้อ : Toyota
                รุ่น : Alphard
                โฉมรถยนต์ : ( ปี 15 - 23 ) รายละเอียดรุ่น : S C-Package
                ปี : 2019 เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : เบนซิน 2500 CC
                ระบบเกียร์ : ออโต้ จำนวนที่นั่ง : 6 ที่นั่ง
                เลขไมล์(กม.) : 4x,xxx
                สี : ดำ


                ไฮไลท์รถยนต์
                ผ่อนได้สูงสุด 84 งวด ผ่อนเริ่มต้นที่ 36,xxx บาท
                ✅ ไมล์ 4 หมื่นกว่าโล ตรวจสอบได้ 
                ✅ ตัวท็อปสุด รถมือเดียวออกห้าง
                ✅ ไมเนอร์เชนจ์ หน้าใหม่ ✅ ไฟหน้า LED เบาะมิกกี้เม้าท์ไฟฟ้า เบาะไฟฟ้าหน้า-หลัง ซันรูฟ 2 ตอน
                ✅ เช็คศูนย์ TOYOTA ได้ตามปกติ เจ้าของเดิมดูแลดีมาก
                ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง
                ✅ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านคืนเงินทุกกรณี
                ✅ บริการขับส่งทั่วประเทศไทย


                รายละเอียดเพิ่มเติม
                ไมล์น้อย 4 หมื่นกว่าโลแท้ๆ ตรวจสอบได้ รถมือเดียวออกห้าง TOYOTA ALPHARD 2.5 S C-Package ตัวท็อปสุด ตัวรถผลิตและจดทะเบียนปี 2019 แท้ๆ รุ่นหน้าใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ ตัวท็อปสุด ออปชั่นเต็ม คุ้มมากๆเช็คศูนย์ TOYOTA ได้ตามปกติ เจ้าของเดิมดูแลดีมากๆ รถบ้านแท้ๆ

                เครื่องยนต์ 2500 เบนซินล้วน ไม่ใช่ไฮบริด รุ่นใหม่ ออโต้ แรงและประหยัดมากๆ เครื่อง+เกียร์ขับนิ่มมากๆ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก กำลังเครื่องดีมากๆ

                ออปชั่นเต็มๆล้นๆ ไฟหน้า LED เบาะมิกกี้เม้าท์ปรับไฟฟ้า เบาะไฟฟ้าหน้า-หลัง ซันรูฟ 2 ตอน นั่งสบาย ประตูสไลด์ไฟฟ้า 2 ฝั่ง ประตูดูด ฝาท้ายไฟฟ้า PUSH START DVD TV เบาะเป่าเย็น เบาะอุ่น ระบบฟอกอากาศ Nanoe ไฟ LED Ambient light 16 เฉดสี ออปชั่นเต็มสุด สวยไม่สวย ดูที่เบาะ ไม่เคยหุ้มใหม่ สภาพใหม่มากๆ

                คู่มือการใช้งาน กุญแจสำรองครบ รถบ้านแท้ ไม่ใช่รถประมูลหรือรถยึดจากไฟแนนซ์ การันตีสภาพ รถสวย+เลขไมล์แท้ ดูรถไมเ่ป็นก็สบายใจได้ ไม่โทรม เราขายความจริง ไม่มีการกลับไมล์ เพื่อให้ท่านดูแลรถต่อได้อย่างสบายใจคุ้มมากๆ ได้รถสภาพสวยมากๆ แต่ราคามือสอง ประหยัดไปเป็นล้าน การันตีสภาพ รถสวย+เลขไมล์แท้ หากมีชน-พลิกคว่ำ ยินดีคืนเงิน