รถมือสองราคาตั้งแต่ 400,000 ถึง 600,000 บาท

• เครื่องยนต์ 2.4L: ขุมพลัง 150 แรงม้า ทนทานและประหยัดน้ำมัน
• ตู้เย็น MPC COOL: ทำอุณหภูมิได้ถึง -18°C (ระดับแช่แข็ง)
• ช่วงล่างเพลาลอย: รองรับน้ำหนักบรรทุก 2.5 - 3.5 ตัน
• คอยล์เย็น 3 พัดลม: กระจายความเย็นรวดเร็ว ทั่วถึง
• ความจุ 6.8 ลบ.ม.: ตู้สแตนเลสสูง 1.90 เมตร
• รถปี 2021 สภาพดี: พร้อมอุปกรณ์เฉพาะทางมูลค่าสูง

ระบบทำความเย็น MPC COOL (หัวใจของธุรกิจ)

การเลือกระบบทำความเย็นเกรดอุตสาหกรรมอย่าง MPC COOL ทำให้คุณรับงานได้หลากหลายและมีมูลค่าสูง สามารถทำอุณหภูมิได้ถึง -18°C เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิเข้มงวด เช่น อาหารแช่แข็ง, ไอศกรีม, หรือยาเวชภัณฑ์ ที่สำคัญ คอยล์เย็นภายในที่มีพัดลมถึง 3 ตัว ช่วยรับประกันว่าความเย็นจะถูกส่งไปทั่วทุกมุมตู้ ลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหาย

---

ช่วงล่าง "เพลาลอย" เพื่อการบรรทุกสูงสุด

การอัปเกรดเป็น "เพลาลอย" และเสริมแหนบมาอย่างเต็มพิกัด คือการปลดล็อกศักยภาพการบรรทุกของรถคันนี้ ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้ 2.5 - 3.5 ตัน อย่างปลอดภัยและทนทานกว่าเพลาเดิมจากโรงงานหลายเท่าตัว เหมาะสำหรับงานขนส่งที่ต้องการทำรอบให้ได้ปริมาณสูงสุด

---

ตู้เย็นมาตรฐาน พร้อมใช้งาน

ภายในตู้มีพื้นลอนที่ช่วยในการระบายอากาศและการทำความสะอาด ผนังตู้ที่ดูแข็งแรง และมีม่านพลาสติกที่ประตูท้าย ช่วยป้องกันอุณหภูมิรั่วไหลขณะเปิด-ปิดประตู นี่คือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงให้เห็นว่าตู้ใบนี้ถูกสร้างมาเพื่องานควบคุมอุณหภูมิอย่างมืออาชีพ

Toyota Hilux Revo ตู้เย็นคันนี้คือ "แพลตฟอร์มธุรกิจสำเร็จรูป" ที่พร้อมสร้างรายได้ทันทีสำหรับผู้ประกอบการในสายงาน Cold Chain Logistics ด้วยราคา 489,000 บาท คุณไม่เพียงแต่จะได้รถกระบะที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน แต่คุณจะได้โซลูชันการขนส่งควบคุมอุณหภูมิที่ผ่านการลงทุนมาอย่างหนักหน่วงและถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ทั้งระบบทำความเย็นระดับโปรและช่วงล่างเพลาลอยที่ไว้ใจได้

การซื้อรถคันนี้เปรียบเสมือนการ "ซื้อเวลาและประหยัดเงิน" คุณไม่ต้องเสียเวลาเอารถไปต่อตู้และทำช่วงล่างอีกต่อไป

• แกร่งเกินพิกัดด้วย "เพลาลอย": หัวใจของการบรรทุกหนัก เสริมความทนทานและความปลอดภัย รับน้ำหนัก 2-3 ตันได้สบาย
• ตู้ทึบอลูมิเนียมขนาดใหญ่: สูง 2.10 เมตร จุได้ถึง 7.5 ลบ.ม. รับงานได้หลากหลายกว่า ป้องกันสินค้าดีเยี่ยม
• พร้อมใช้งานทันที: ไม่ต้องเสียเวลาและเงินแต่งเพิ่มอีกนับแสน ออกรถวันนี้ เริ่มทำกำไรได้เลย
• เครื่องยนต์ในตำนาน 2GD-FTV: ขึ้นชื่อเรื่องความอึด ทนทาน ประหยัดน้ำมัน และค่าบำรุงรักษาต่ำ

เพลาลอย และ แหนบเสริม

เราได้อัปเกรดช่วงล่างเป็นเพลาแบบเดียวกับรถบรรทุกใหญ่ ซึ่งแยกหน้าที่ขับเคลื่อนกับรับน้ำหนักออกจากกัน ทำให้ทนทานสูงสุดเมื่อบรรทุกหนักเกินพิกัดโรงงาน นี่คือการลงทุนที่จำเป็นและแพงที่สุด ซึ่งรถคันนี้ทำมาให้คุณเรียบร้อยแล้ว

---

ศักยภาพตู้บรรทุก

ด้วยความสูงพิเศษ ทำให้รับงานได้หลายประเภท ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์, สินค้ากองสูง, ไปจนถึงอุปกรณ์ออกบูธ สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจอย่างชัดเจน

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย: 11-14 กม./ลิตร (เมื่อไม่มีการบรรทุก) แม้บรรทุกหนักก็ยังจัดว่าประหยัดสำหรับรถที่ออกแบบมาเพื่อทำเงินโดยเฉพาะ

นี่ไม่ใช่แค่รถกระบะ แต่คือ "หุ้นส่วนธุรกิจ" ที่แต่งมาจบครบด้วยการลงทุนที่สำคัญที่สุดอย่าง "เพลาลอย" ในราคา 419,000 บาท คุณได้ทั้งรถปีใหม่ และประหยัดค่าแต่งไปกว่า 61,000 บาท แถมยังประหยัดเวลาทำธุรกิจไปได้อีกหลายสัปดาห์

นี่คือตัวเลือกที่ฉลาดที่สุดสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่

• รถปีใหม่ล่าสุด (2023) สภาพป้ายแดง: ได้รถสดใหม่ ในราคาที่คุ้มค่ากว่า
• เครื่องยนต์ 2.4L GD Super Power: ทนทาน, แรงบิดดีเยี่ยม, ดูแลรักษาง่าย
• ชุดตู้ทำความเย็น MPC COOL สเปคสูง: คอยล์เย็นแบบ "พัดลม 3 ตัว" กระจายความเย็นได้รวดเร็วและทั่วถึง
• ช่วงล่างอัปเกรดเต็มระบบ: เสริมแหนบและติดตั้งโช้คอัพหลังใหม่ (MIYAMOTO) พร้อมรับงานหนัก
• ออปชั่นเสริมความสะดวก: จอเครื่องเสียง Android ขนาดใหญ่ และล้อแม็กแต่ง

ความสดใหม่และความน่าเชื่อถือ

การได้รถปี 2023 ทำให้คุณมั่นใจได้ในสภาพความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์และตัวถัง ลดความกังวลเรื่องการซ่อมบำรุงในระยะแรก และยังได้รับเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากโตโยต้า

ระบบทำความเย็นประสิทธิภาพสูง

การใช้คอยล์เย็นแบบ "พัดลม 3 ตัว" เป็นสเปคที่เหนือกว่าตู้เย็นทั่วไป ช่วยให้สามารถทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว และรักษาอุณหภูมิให้คงที่ทั่วทั้งตู้ได้ดีกว่า เหมาะอย่างยิ่งกับการขนส่งสินค้าจำนวนมาก

ช่วงล่างที่ "ทำมาจบ"

การเสริมแหนบและเปลี่ยนโช้คอัพเป็นของแต่งสมรรถนะสูง เป็นการลงทุนที่สำคัญและจำเป็นที่สุดสำหรับรถตู้เย็น ช่วยให้รถสามารถรับน้ำหนักบรรทุก 2-3 ตันได้อย่างปลอดภัย ลดอาการโคลง, ท้ายห้อย, และทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นมาก

ขับขี่ปกติ (ไม่บรรทุก, ไม่เปิดแอร์): ประมาณ 14-16 กม./ลิตร

บรรทุกเต็มพิกัด + เปิดระบบทำความเย็น: คาดว่าอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 9-11 กม./ลิตร

ปริมาตรโดยประมาณ: 6.50 ลูกบาศก์เมตร (CBM)

ตามกฎหมาย: สามารถจดทะเบียนบรรทุกได้ตามที่กฎหมายกำหนด (น้ำหนักรถรวมบรรทุกไม่เกิน 2,200 กก.)

ตามศักยภาพตัวรถ: ด้วยช่วงล่างที่อัปเกรดมาเต็มที่ ทำให้รถคันนี้มีศักยภาพในการบรรทุกสินค้าได้จริงในระดับ 2,500 - 3,000 กิโลกรัม (2.5 - 3 ตัน) ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

ช่วงอุณหภูมิ (โดยประมาณ): สามารถทำความเย็นสำหรับสินค้าแช่แข็งได้ถึง -20°C

รายการอัปเกรด	ราคาประเมิน (บาท)
ตู้ทำความเย็น MPC COOL (พัดลม 3 ตัว)	160,000 - 190,000
เสริมแหนบและเปลี่ยนโช้คอัพหลัง (MIYAMOTO)	15,000 - 25,000
ล้อแม็กหน้า + ล้อกระทะผ่าหลัง	12,000 - 18,000
จอเครื่องเสียง Android	5,000 - 8,000
รวมมูลค่าของแต่ง (เฉลี่ย)	~ 215,000

ราคาเปิดตัวรถ (ปี 2023)	~ 589,000 บาท
(+) มูลค่าการอัปเกรดทั้งหมด	215,000 บาท
มูลค่ารวมของรถคันนี้หากทำเอง	804,000 บาท
ราคาที่ตั้งขายปัจจุบัน	579,000 บาท
ความคุ้มค่า (ส่วนต่างที่คุณประหยัดได้)	ประหยัดไปถึง 225,000!

Toyota Hilux Revo ตู้เย็น ปี 2023 คันนี้ คือ "โซลูชันที่สมบูรณ์แบบ" สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ ด้วยราคา 579,000 บาท คุณจะได้รถปีใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมความสดและความน่าเชื่อถือเต็มร้อย และที่สำคัญที่สุดคือการลงทุนใน "อุปกรณ์ทำมาหากิน" ชั้นดีมาให้ครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตู้ทำความเย็นสเปคสูง และช่วงล่างที่ทำมาจบพร้อมรับงานหนักทันที

เมื่อเทียบกับการออกรถใหม่แล้วนำไปต่อตู้และทำช่วงล่างเอง คุณสามารถประหยัดเงินลงทุนเริ่มต้นไปได้มากกว่า 2 แสนบาท และประหยัดเวลาไปได้อีกหลายสัปดาห์ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดในการได้เป็นเจ้าของ "เครื่องมือสร้างเงิน" คุณภาพสูง ที่พร้อมจะสร้างผลกำไรให้ธุรกิจของคุณได้ทันทีครับ

• ระบบ Full Hybrid เจเนอเรชันที่ 4: ประหยัดน้ำมันสูงสุด และขับขี่เงียบสงบ
• แพลตฟอร์ม TNGA: มอบการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ เกาะถนนดีเยี่ยม
• รุ่นท็อป HV Hi ออปชั่นเต็มที่สุด: มาพร้อม Toyota Safety Sense (TSS) และ Navigator
• ดีไซน์สปอร์ตไดมอนด์คัท: โดดเด่นและแตกต่างบนท้องถนน
• ความคุ้มค่าสูงสุด: ประหยัดจากรถใหม่ไปเกือบครึ่งหนึ่ง

ที่สุดแห่งความประหยัดด้วย Hybrid

หัวใจสำคัญของ C-HR คันนี้คือระบบ Hybrid ที่ชาญฉลาด สามารถสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างนุ่มนวล ผลลัพธ์คืออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ต่ำมาก โดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างมหาศาล

การขับขี่ที่สนุกและมั่นใจจาก TNGA

แตกต่างจาก SUV ทั่วไป C-HR ถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม TNGA ที่เน้นการขับขี่ที่สนุกสนาน ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถสปอร์ตซีดาน ด้วยช่วงล่างหลังแบบอิสระ Double Wishbone ทำให้การเข้าโค้งมีความแม่นยำและมั่นคงสูง

ความปลอดภัยระดับผู้นำ Toyota Safety Sense (TSS)

รุ่น HV Hi เป็นรุ่นเดียวที่ให้ระบบความปลอดภัยขั้นสูงมาครบครัน ทั้งระบบเตือนก่อนการชน, Dynamic Radar Cruise Control, และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงพวงมาลัย ซึ่งช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย: 24.4 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) ซึ่งโดดเด่นและประหยัดที่สุดในกลุ่ม Crossover SUV

คุณสมบัติ	1.8 Entry (เบนซิน)	HV Mid (ไฮบริด)	HV Hi (ไฮบริดท็อป) (คันนี้)
ระบบส่งกำลัง	เบนซิน 1.8L	Hybrid	Hybrid
Toyota Safety Sense	ไม่มี	ไม่มี	มี (ครบระบบ)
ไฟหน้า/ไฟท้าย	โปรเจคเตอร์ฮาโลเจน	Full LED	Full LED
เบาะนั่ง	เบาะผ้า	เบาะหนังสังเคราะห์	เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์
ราคาเปิดตัว (2019)	979,000 บาท	1,069,000 บาท	1,159,000 บาท

รุ่น HV Hi คือรุ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุด ให้ทั้งความประหยัด, ความหรูหรา, และเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูงสุด

ราคาเปิดตัว (ปี 2019)	1,159,000 บาท
ราคาที่ตั้งขายปัจจุบัน	579,000 บาท
ความคุ้มค่า (ส่วนต่างที่คุณประหยัดได้)	ประหยัดไปถึง 580,000!

Toyota C-HR 1.8 HV Hi คันนี้ คือโอกาสที่ดีที่สุดในการได้เป็นเจ้าของรถ Crossover SUV ที่ "ครบเครื่อง" ที่สุดในตลาด ด้วยราคาเพียง 579,000 บาท คุณจะได้รถที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร, สมรรถนะการขับขี่ที่สนุกและมั่นใจ, เทคโนโลยี Hybrid ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือระบบความปลอดภัยเต็มพิกัดจาก Toyota Safety Sense

เมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวที่สูงเกินล้านบาท การซื้อรถคันนี้ในวันนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินไปได้เกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นความคุ้มค่าอย่างมหาศาล หากคุณกำลังมองหารถที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง, ให้ทั้งความประหยัด, ความสนุก, และความปลอดภัยในคันเดียว นี่คือตัวเลือกที่ชาญฉลาดที่สุดครับ

• เครื่องยนต์ 1.0L VTEC TURBO: 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร ขับสนุกและประหยัดน้ำมัน
• ตัวถัง Hatchback 5 ประตู: ดีไซน์สปอร์ต เพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งาน
• เบาะนั่ง ULTRA SEATS: เอกสิทธิ์เฉพาะฮอนด้า พับปรับได้ 4 โหมด บรรทุกของได้หลากหลาย
• รถปีใหม่ (2022) สภาพเยี่ยม: ได้รถสดใหม่ ในราคาที่ประหยัดกว่าป้ายแดง
• รุ่น SV ออปชั่นครบครัน: จอสัมผัส 8 นิ้ว, Apple CarPlay, กล้องมองหลัง

ขับสนุกและประหยัดด้วย VTEC TURBO

หัวใจของ City รุ่นนี้คือเครื่องยนต์ที่ให้ "ความสนุก" และ "ความประหยัด" ในหนึ่งเดียว คุณจะได้อัตราเร่งที่ทันใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำมาก ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่และสบายใจกับค่าน้ำมัน

ที่สุดแห่งความอเนกประสงค์ "ULTRA SEATS"

นี่คือฟีเจอร์ที่ทำให้ City Hatchback แตกต่างและเหนือกว่ารถทุกคันในคลาส คุณสามารถพับเบาะได้หลากหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะขนของชิ้นใหญ่, ของยาว, ของสูง หรือแม้กระทั่งปรับเอนนอนเพื่อพักผ่อน

รุ่น SV ความคุ้มค่าที่ลงตัว

รุ่น SV เป็นรุ่นที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด เพราะได้ออปชั่นที่จำเป็นและทันสมัยมาครบถ้วน ทั้งหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้, กล้องมองหลัง, และล้ออัลลอยที่สวยงาม ทำให้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มในรุ่นท็อปสุด

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย: 23.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) ซึ่งโดดเด่นที่สุดในกลุ่มรถยนต์ B-Segment

พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย: มากถึง 449 ลิตร และสามารถเพิ่มพื้นที่ได้อีกมหาศาลเมื่อพับเบาะ ULTRA SEATS

คุณสมบัติ	S+ (รุ่นเริ่มต้น)	SV (รุ่นกลาง) (คันนี้)	RS (รุ่นท็อป)
เครื่องเสียง	วิทยุมาตรฐาน	จอสัมผัส 8 นิ้ว + Apple CarPlay	จอสัมผัส 8 นิ้ว + Apple CarPlay
กล้องมองหลัง	ไม่มี	มี (ปรับ 3 ระดับ)	มี (ปรับ 3 ระดับ)
ล้อ	ล้อกระทะ 15 นิ้ว	ล้ออัลลอย 15 นิ้ว	ล้ออัลลอย 16 นิ้ว (ทูโทน)
Paddle Shift	ไม่มี	ไม่มี	มี
ราคาเปิดตัว (2022)	599,000 บาท	675,000 บาท	749,000 บาท

รุ่น SV คือรุ่นที่ให้ความคุ้มค่าด้านออปชั่นที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุด

ราคาเปิดตัว (ปี 2022)	675,000 บาท
ราคาที่ตั้งขายปัจจุบัน	429,000 บาท
ความคุ้มค่า (ส่วนต่างที่คุณประหยัดได้)	ประหยัดไปถึง 246,000!

Honda City 1.0 SV Hatchback ปี 2022 คันนี้ คือรถยนต์ที่ "สมบูรณ์แบบสำหรับชีวิตเมือง" อย่างแท้จริง ด้วยราคาเพียง 429,000 บาท คุณจะได้รถปีใหม่สภาพเยี่ยมที่ให้ครบทุกอย่าง ทั้งสมรรถนะที่สนุกเร้าใจจากเครื่องยนต์เทอร์โบ, ความประหยัดน้ำมันระดับหัวแถว, และความอเนกประสงค์ขั้นสุดจากตัวถัง Hatchback และเบาะ ULTRA SEATS

เมื่อเทียบกับการออกรถใหม่ป้ายแดง คุณสามารถประหยัดเงินไปได้เกือบสองแสนห้าหมื่นบาท ซึ่งเป็นความคุ้มค่าอย่างมหาศาลสำหรับรถที่อายุเพียงไม่กี่ปี หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการขับไปทำงาน, ขนของ, หรือเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุด คันนี้คือคำตอบที่ลงตัวและชาญฉลาดที่สุดครับ

• รถปีใหม่ล่าสุด (2023) สภาพป้ายแดง: ได้รถโฉมปัจจุบัน (Next-Gen) ในราคาที่คุ้มค่ากว่า
• เครื่องยนต์ 2.0L Turbo ทรงพลัง: 170 แรงม้า แรงบิดสูง 405 นิวตันเมตร
• ดีไซน์ "Built Ford Tough": โดดเด่นด้วยไฟหน้า C-Clamp และรูปลักษณ์ที่บึกบึน ทันสมัย
• ตัวถังยกสูง Hi-Rider: เพิ่มทัศนวิสัยและสมรรถนะการลุย
• เกียร์ธรรมดา 6 สปีด: ขับสนุก ทนทาน ควบคุมได้ดั่งใจ

ดีไซน์และโครงสร้าง Next-Gen

Ford Ranger โฉมใหม่ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแกร่งและบึกบึนกว่าเดิมอย่างชัดเจน การได้เป็นเจ้าของรถโฉมนี้คือการได้เทคโนโลยีที่สดใหม่ที่สุด ทั้งในด้านภาพลักษณ์ที่ดูโดดเด่นบนท้องถนน และโครงสร้างที่ให้ความปลอดภัยและความมั่นคงในการขับขี่ที่เหนือกว่า

สมรรถนะจากเครื่องยนต์ 2.0 Turbo

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบของ Ford ขึ้นชื่อเรื่องการให้แรงบิดที่สูงในรอบต่ำ ทำให้การออกตัว, การเร่งแซง, หรือการบรรทุกเป็นไปอย่างง่ายดายและมั่นใจ ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่ให้อัตราทดต่อเนื่อง

ความอเนกประสงค์ของ Open Cab ยกสูง

แค็บที่สามารถเปิดได้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดเก็บสัมภาระไว้ในห้องโดยสาร ประกอบกับความเป็นรถยกสูง (Hi-Rider) ทำให้มีทัศนวิสัยที่โปร่ง โล่ง และยังสามารถขับขี่ผ่านเส้นทางที่ขรุขระได้ดีกว่ารถกระบะตัวเตี้ย

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย: ประมาณ 14-16 กม./ลิตร

คุณสมบัติ	XL+ Hi-Rider (คันนี้)	XLT Hi-Rider
ไฟหน้า	มัลติรีเฟล็กเตอร์ ฮาโลเจน	LED พร้อม DRL แบบ C-Clamp
ล้อ	ล้อกระทะ 16 นิ้ว	ล้ออัลลอย 17 นิ้ว
จอสัมผัส	10.1 นิ้ว SYNC 4A	10.1 นิ้ว SYNC 4A
ภาพลักษณ์	คุ้มค่า เน้นใช้งาน	ออปชั่นครบครัน สวยงามยิ่งขึ้น
ราคาเปิดตัว (2023)	699,000 บาท	799,000 บาท

รุ่น XL+ ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ "คุ้มค่าที่สุด" เพราะให้เทคโนโลยีหลักและเครื่องยนต์เดียวกันกับรุ่นสูงกว่า แต่มาในราคาที่เข้าถึงง่าย

ราคาเปิดตัว (ปี 2023)	699,000 บาท
ราคาที่ตั้งขายปัจจุบัน	439,000 บาท
ความคุ้มค่า (ส่วนต่างที่คุณประหยัดได้)	ประหยัดไปถึง 260,000!

Ford Ranger Next-Gen 2.0 XL+ คันนี้ คือโอกาสที่ดีที่สุดในการได้เป็นเจ้าของ "รถกระบะแห่งอนาคต" ในสภาพใหม่เอี่ยม แต่มาในราคาที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ด้วยราคาเพียง 439,000 บาท คุณจะได้รถปี 2023 ที่มาพร้อมดีไซน์สุดล้ำ, เครื่องยนต์เทอร์โบที่ทรงพลัง, และช่วงล่างที่ไว้ใจได้ตามแบบฉบับ "Built Ford Tough"

เมื่อเทียบกับการออกรถใหม่ป้ายแดง คุณสามารถประหยัดเงินไปได้มากกว่าสองแสนห้าหมื่นบาท ซึ่งเป็นความคุ้มค่าอย่างมหาศาลสำหรับรถที่อายุไม่ถึง 2 ปี หากคุณกำลังมองหารถกระบะที่ให้ทั้งความสดใหม่, ความแข็งแกร่ง, และความคุ้มค่าในคันเดียว นี่คือคำตอบที่ไม่ควรพลาดครับ

• อัปเกรด "เพลาลอย" สำหรับงานบรรทุกหนัก: หัวใจสำคัญที่ทำให้รับน้ำหนักได้ 3-5 ตัน
• เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power: 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร เพื่อกำลังฉุดลากสูงสุด
• ช่วงล่างทำมาครบ จบทุกอย่าง: เสริมแหนบ, เปลี่ยนโช้ค, ล้อกระทะผ่า พร้อมลุยงานหนักทันที
• รถปีใหม่ (2022) สภาพดีเยี่ยม: ได้รถสดใหม่ มั่นใจได้ในระยะยาว
• ติดตั้งคอกสแตนเลสอย่างดี: พร้อมใช้งานบรรทุกได้ทันที

"เพลาลอย" คืออะไรและดีอย่างไร?

แตกต่างจากเพลาเดิม เพลาลอยคือการเปลี่ยนชุดเพลาท้ายใหม่ทั้งหมดให้เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในรถบรรทุก 6 ล้อ ทำให้ลูกปืนล้อรับน้ำหนักบรรทุกโดยตรง มีความแข็งแรงทนทานสูงมาก สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุก 3-5 ตันได้อย่างปลอดภัย นี่คือการอัปเกรดที่สำคัญและมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดสำหรับรถกระบะบรรทุกหนัก

เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เพื่อพละกำลังสูงสุด

สำหรับรถที่ต้องแบกน้ำหนักมหาศาล เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยแรงบิดที่สูงในรอบต่ำ ทำให้มีกำลังฉุดลากที่ดีเยี่ยมตั้งแต่ออกตัว สามารถบรรทุกหนักขึ้นทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ

ช่วงล่างที่พร้อมรบ

รถคันนี้ไม่ได้มีดีแค่เพลาลอย แต่ยังผ่านการเสริมแหนบซ้อนกันเป็นตับและติดตั้งโช้คอัพที่เหมาะสมมาแล้ว ทำให้การทรงตัวของรถเมื่อบรรทุกหนักมีความมั่นคงสูง ลดอาการโคลงและท้ายห้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (บรรทุก 3-4 ตัน): ประมาณ 7-9 กม./ลิตร

น้ำหนักบรรทุก (ตามศักยภาพ): 3,000 - 5,000 กิโลกรัม (3 - 5 ตัน)

รายการอัปเกรด	ราคาประเมิน (บาท)
ติดตั้งชุดเพลาลอย	50,000 - 80,000
เสริมแหนบและเปลี่ยนโช้คอัพ	15,000 - 25,000
ติดตั้งคอกสแตนเลส/เหล็ก	20,000 - 30,000
ล้อแม็กหน้า + ล้อกระทะผ่าหลัง	12,000 - 18,000
รวมมูลค่าของแต่ง (เฉลี่ย)	~ 125,000

มูลค่ารวมของรถคันนี้หากทำเอง	~ 730,000 บาท
ราคาที่ตั้งขายปัจจุบัน	449,000 บาท
ความคุ้มค่า (ส่วนต่างที่คุณประหยัดได้)	ประหยัดไปถึง 281,000!

Isuzu D-MAX Spark 3.0 "เพลาลอย" คันนี้ คือ "ที่สุดแห่งรถกระบะทำเงิน" ที่ถูกสร้างมาเพื่อผู้ประกอบการที่ต้องการศักยภาพการบรรทุกสูงสุดอย่างแท้จริง ด้วยราคาเพียง 449,000 บาท คุณจะได้รถปีใหม่ (2022) ที่ผ่านการลงทุนดัดแปลงครั้งใหญ่และสำคัญที่สุดมาให้ครบจบในคันเดียว ซึ่งก็คือ "ชุดเพลาลอย" และการทำช่วงล่างเต็มระบบ

เมื่อเทียบกับการซื้อรถใหม่แล้วนำไปทำเองทั้งหมด คุณสามารถประหยัดเงินลงทุนไปได้เกือบ 3 แสนบาท และที่สำคัญคือประหยัดเวลาไปได้อีกนับเดือน นี่คือทางเลือกที่ฉลาดที่สุดสำหรับธุรกิจรับจ้างขนส่ง, ร้านวัสดุก่อสร้าง, หรือเกษตรกร ที่ต้องการรถที่ "พร้อม" ที่สุดในการแบกรับน้ำหนักมหาศาลและสร้างผลกำไรให้คุณได้ตั้งแต่วันแรกครับ

• เครื่องยนต์ 2.0L Turbo พลังสูง: 211 แรงม้า, อัตราเร่ง 0-100 ใน 6.6 วินาที
• ชุดแต่ง AMG Sport จากโรงงาน: ดุดันรอบคัน พร้อมกระจังหน้า Diamond Grille
• ภายในสปอร์ตเต็มพิกัด: เบาะ Artico สลับ Dinamica, พวงมาลัยท้ายตัด, เข็มขัดนิรภัยสีแดง
• ออปชั่นระดับพรีเมียม: หลังคา Sunroof, เบาะไฟฟ้าพร้อม Memory Seat
• ขับสนุก มั่นใจ: เกียร์ 7G-DCT (Dual Clutch) พร้อมช่วงล่างแบบสปอร์ต

สมรรถนะระดับ "Pocket Rocket"

หัวใจของ A250 คือพละกำลังที่อัดแน่นอยู่ในตัวถังที่กะทัดรัด ทำให้เป็นรถที่มีความคล่องตัวสูง อัตราเร่งดึงสนุกติดเบาะ และสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้ในทุกครั้งที่กดคันเร่ง

ดีไซน์ที่ดุดัน ไม่ตามใคร

ชุดแต่ง AMG Sport และ Diamond Grille ทำให้ A250 W176 มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากรถทั่วไปบนท้องถนนอย่างชัดเจน สะท้อนถึงคาแรคเตอร์ที่สปอร์ตและทันสมัยของผู้ขับขี่

ห้องโดยสารที่ปลุกเร้าอารมณ์

การตกแต่งภายในด้วยเบาะทรงสปอร์ต, การเดินด้ายสีแดง, และเข็มขัดนิรภัยสีแดง สร้างบรรยากาศที่ปลุกเร้าให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความพิเศษและความสปอร์ตในทุกขณะ ไม่ใช่แค่ห้องโดยสาร แต่คือ "Cockpit" ของนักขับอย่างแท้จริง

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย: ประมาณ 12-14 กม./ลิตร (ซึ่งถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับสมรรถนะระดับ 211 แรงม้า)

คุณสมบัติ	A180 Style	A250 AMG Sport (คันนี้)
เครื่องยนต์	1.6L Turbo (122 แรงม้า)	2.0L Turbo (211 แรงม้า)
อัตราเร่ง 0-100	~ 9.2 วินาที	~ 6.6 วินาที
ชุดแต่งภายนอก	Style Package	AMG Sport Package
กระจังหน้า	2 แถบสีเงิน	Diamond Grille
ภายใน	เบาะนั่งมาตรฐาน	เบาะ Sport, ตกแต่งด้วยด้ายแดง, Belt แดง
ราคาเปิดตัว	1,990,000 บาท	2,490,000 บาท

A250 คือเวอร์ชันที่ให้สมรรถนะและอารมณ์สปอร์ตที่เหนือกว่า A180 ในทุกมิติอย่างแท้จริง

ราคาเปิดตัว (ปี 2014)	2,490,000 บาท
ราคาที่ตั้งขายปัจจุบัน	559,000 บาท
ความคุ้มค่า (ส่วนต่างที่คุณประหยัดได้)	ประหยัดไปถึง 1,931,000!

ด้วยราคาเพียง 559,000 บาท นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดและอาจเป็นเพียงครั้งเดียวที่คุณจะได้ครอบครอง "Hot Hatch" สมรรถนะสูงจาก Mercedes-Benz ในราคาที่เทียบเท่ากับรถญี่ปุ่น B-Segment ป้ายแดง! Mercedes-Benz A250 AMG Sport คันนี้ คือรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการความสนุกเร้าใจในการขับขี่, ภาพลักษณ์ที่สปอร์ตโดดเด่น, และความพรีเมียมของแบรนด์ตราดาว

เมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวที่สูงเกือบ 2.5 ล้านบาท การซื้อรถคันนี้ในวันนี้เท่ากับคุณประหยัดเงินไปได้เกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นความคุ้มค่าระดับปรากฏการณ์ หากคุณคือคนที่หัวใจยังรักความเร็วและต้องการรถที่สามารถตอบสนองจิตวิญญาณนักขับของคุณได้อย่างเต็มที่ ในงบประมาณที่สมเหตุสมผลที่สุด คันนี้คือคำตอบที่ใช่ครับ

• รถปีใหม่มาก (2022) สภาพเยี่ยม: ได้รถสดใหม่ เทคโนโลยีทันสมัย
• ชุดตู้ทำความเย็น ASIA INTER: ตู้รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมระบบแอร์ NEO KOOL ประสิทธิภาพสูง
• ช่วงล่างอัปเกรดเต็มพิกัด: เสริมแหนบ PRO และติดตั้งโช้คอัพหลังใหม่
• เสริมหล่อและความแกร่ง: ล้อหน้าแม็กแต่ง, ล้อหลังกระทะผ่าสำหรับงานบรรทุกหนัก

ตู้ทำความเย็นคุณภาพสูง

การติดตั้งตู้ทำความเย็นรุ่นใหม่ล่าสุดจาก ASIA INTER พร้อมระบบแอร์ NEO KOOL ช่วยให้มั่นใจได้ในการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ เหมาะสำหรับธุรกิจขนส่งสินค้าที่ต้องการรักษาคุณภาพสูงสุด

ช่วงล่างที่ "จบ" สำหรับงานหนัก

การลงทุนทำช่วงล่างมาอย่างครบถ้วน ทั้งการเสริมแหนบ PRO และการเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ ช่วยให้รถมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้เกิน 2.5 ตันอย่างปลอดภัย ลดอาการท้ายห้อย และเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่

ความน่าเชื่อถือของรถปีใหม่

การได้รถปี 2022 ทำให้คุณตัดความกังวลเรื่องการซ่อมบำรุงใหญ่ๆ ออกไปได้เลย และยังคงได้รับความมั่นใจจากเครื่องยนต์ 2.4L GD Super Power ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (บรรทุก + เปิดแอร์): ประมาณ 9-11 กม./ลิตร

ปริมาตรในการบรรทุก: ประมาณ 6.14 ลูกบาศก์เมตร (CBM)

น้ำหนักบรรทุก (ตามศักยภาพ): 2.5 - 3 ตัน (ด้วยช่วงล่างที่อัปเกรดเต็มระบบ)

ช่วงอุณหภูมิที่ทำได้: สามารถทำความเย็นได้ถึง -20°C (สำหรับสินค้าแช่แข็ง)

รายการอัปเกรด	ราคาประเมิน (บาท)
ตู้ทำความเย็น ASIA INTER พร้อมติดตั้ง	150,000 - 180,000
เสริมแหนบ PRO และเปลี่ยนโช้คอัพหลัง	15,000 - 25,000
ล้อแม็กหน้า + ล้อกระทะผ่าหลัง	12,000 - 18,000
รวมมูลค่าของแต่ง (เฉลี่ย)	~ 200,000

มูลค่ารวมของรถคันนี้หากทำเอง	~ 754,000 บาท
ราคาที่ตั้งขายปัจจุบัน	499,000 บาท
ความคุ้มค่า (ส่วนต่างที่คุณประหยัดได้)	ประหยัดไปถึง 255,000!

Toyota Hilux Revo ตู้เย็นคันนี้คือ "รถทำเงินที่สมบูรณ์แบบ" ที่ถูกสร้างมาอย่างเข้าใจผู้ประกอบการอย่างแท้จริง ด้วยราคาเพียง 499,000 บาท คุณจะได้รถปีใหม่ (2022) ที่ผ่านการลงทุนดัดแปลงครั้งใหญ่มาให้ครบจบในคันเดียว ทั้งการติดตั้งตู้เย็นคุณภาพ, และการทำช่วงล่างเต็มระบบเพื่อรองรับงานหนักโดยเฉพาะ

เมื่อเทียบกับการซื้อรถใหม่แล้วนำไปทำเองทั้งหมด คุณสามารถประหยัดเงินลงทุนไปได้มากกว่า 250,000 บาท และประหยัดเวลาไปได้อีกนับเดือน นี่คือทางเลือกที่ฉลาดที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการรถที่ "พร้อม" ที่สุดในการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และพร้อมสร้างผลกำไรให้คุณได้ทันทีครับ

• รถปีใหม่มาก (2022) สภาพเยี่ยม: ได้รถสดใหม่ เทคโนโลยีทันสมัย ในราคาที่คุ้มค่า
• เครื่องยนต์ 2.4L GD Super Power: ทนทาน, แรงบิดดีเยี่ยม, ดูแลรักษาง่าย
• ชุดตู้ทำความเย็น MPC COOL สเปคสูง: คอยล์เย็นแบบ "พัดลม 3 ตัว" กระจายความเย็นได้รวดเร็วและทั่วถึง
• ช่วงล่างอัปเกรดเต็มระบบ: เสริมแหนบและติดตั้งโช้คอัพหลังใหม่ พร้อมรับงานหนักทันที

ความสดใหม่และความน่าเชื่อถือ

การได้รถปี 2022 ทำให้คุณมั่นใจได้ในสภาพความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์และตัวถัง ลดความกังวลเรื่องการซ่อมบำรุงในระยะแรก และยังคงได้รับเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากโตโยต้า

ระบบทำความเย็นประสิทธิภาพสูง

การใช้คอยล์เย็นแบบ "พัดลม 3 ตัว" เป็นสเปคที่เหนือกว่าตู้เย็นทั่วไป ช่วยให้ทำความเย็นได้อย่างรวดเร็วและรักษาอุณหภูมิให้คงที่ทั่วทั้งตู้ได้ดีกว่า เหมาะกับการขนส่งสินค้าที่อ่อนไหวต่ออุณหภูมิ

ช่วงล่างที่ "ทำมาจบ"

การเสริมแหนบและเปลี่ยนโช้คอัพเป็นของแต่งสมรรถนะสูง คือการลงทุนที่จำเป็นที่สุดสำหรับรถตู้เย็น ช่วยให้รถสามารถรับน้ำหนักบรรทุก 2-3 ตันได้อย่างปลอดภัย และควบคุมรถได้ง่ายขึ้นมาก

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (บรรทุก + เปิดแอร์): ประมาณ 9-11 กม./ลิตร

ปริมาตรในการบรรทุก: ประมาณ 7.65 ลูกบาศก์เมตร (CBM)

น้ำหนักบรรทุก (ตามศักยภาพ): 2 - 2.5 ตัน (ด้วยช่วงล่างที่อัปเกรดเต็มระบบ)

ช่วงอุณหภูมิที่ทำได้: สามารถทำความเย็นได้ถึง -20°C (สำหรับสินค้าแช่แข็ง)

รายการอัปเกรด	ราคาประเมิน (บาท)
ตู้ทำความเย็น MPC COOL (พัดลม 3 ตัว) พร้อมติดตั้ง	150,000 - 180,000
เสริมแหนบและเปลี่ยนโช้คอัพหลัง	15,000 - 25,000
รวมมูลค่าของแต่ง (เฉลี่ย)	~ 185,000

มูลค่ารวมของรถคันนี้หากทำเอง	~ 739,000 บาท
ราคาที่ตั้งขายปัจจุบัน	499,000 บาท
ความคุ้มค่า (ส่วนต่างที่คุณประหยัดได้)	ประหยัดไปถึง 240,000!

Toyota Hilux Revo ตู้เย็น ปี 2022 คันนี้ คือ "โซลูชันที่สมบูรณ์แบบ" สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ ด้วยราคาเพียง 499,000 บาท คุณจะได้รถปีใหม่ที่มาพร้อมความสดและความน่าเชื่อถือเต็มร้อย และที่สำคัญที่สุดคือการลงทุนใน "อุปกรณ์ทำมาหากิน" ชั้นดีมาให้ครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตู้ทำความเย็นสเปคสูง และช่วงล่างที่ทำมาจบพร้อมรับงานหนักทันที

เมื่อเทียบกับการออกรถใหม่แล้วนำไปต่อตู้และทำช่วงล่างเอง คุณสามารถประหยัดเงินลงทุนเริ่มต้นไปได้เกือบสองแสนห้าหมื่นบาท และประหยัดเวลาไปได้อีกหลายสัปดาห์ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดในการได้เป็นเจ้าของ "เครื่องมือสร้างเงิน" คุณภาพสูง ที่พร้อมจะสร้างผลกำไรให้ธุรกิจของคุณครับ