Ford EVEREST 2.2 (2018) Titanium+ SUV Ford Everest เจเนอเรชัน T6 (โฉมปัจจุบันก่อนเปลี่ยนรุ่นเป็น Next-Gen) ได้รับการยอมรับอย่างสูงในตลาด PPV SUV ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่ง สมรรถนะเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สำหรับรุ่นปี 2018 นี้ เป็นช่วงที่ Everest ได้รับการปรับโฉม Minorchange ซึ่งมีการปรับดีไซน์และเพิ่มเทคโนโลยีเข้ามา โดยรุ่น Titanium+ ถือเป็นรุ่นท็อปสุด (ก่อนรุ่น Bi-Turbo) ที่เน้นภาพลักษณ์พรีเมียม และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันที่สุด สเปกเด่นของรถพื้นฐาน (Ford EVEREST 2.2 2018 Titanium+ SUV): เครื่องยนต์ดีเซล Duratorq TDCi 2.2 ลิตร VG Turbo: ขนาด: 2,198 ซีซี (2.2 ลิตร) 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VG Turbo (เทอร์โบแปรผัน) พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด: 160 แรงม้า (PS) ที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด: 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 2,500 รอบ/นาที เกียร์: อัตโนมัติ 6 จังหวะ (6-speed Automatic Transmission) สมรรถนะ: เครื่องยนต์ 2.2 ลิตรตัวนี้ให้พละกำลังและแรงบิดที่สูงกว่า PPV 2.2 ลิตรทั่วไปอย่างชัดเจน ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดี ตอบสนองได้ทันใจ เหมาะสำหรับการใช้งานบรรทุกทั่วไป และการขับขี่ในชีวิตประจำวัน เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: ประมาณ 10-12 กม./ลิตร (จากการใช้งานจริง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและพฤติกรรมการขับขี่) หมายเหตุ: รุ่นปี 2018 เป็นปีที่ Ford มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก 2.2L/3.2L เป็น 2.0L Turbo/Bi-Turbo ในรุ่นสูงกว่า แต่ 2.2L Titanium+ ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดนิยม
ตัวถัง PPV SUV 7 ที่นั่ง: ดีไซน์ Titanium+ ที่หรูหราและโดดเด่น: ภายนอก: กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะ Titanium+, ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED, หลังคา Panoramic Sunroof แบบไฟฟ้า (เป็นจุดเด่นสำคัญของ Titanium+), ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ภายใน: เบาะหนังแท้คุณภาพสูง, จอสัมผัสขนาดใหญ่ (SYNC 3), มาตรวัดแบบ Digital (ในรุ่น Minorchange), และการตกแต่งที่ดูพรีเมียม
ช่วงล่างที่มั่นคงและนุ่มนวล: ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยี (รุ่น Titanium+): ระบบ SYNC 3: ระบบ Infotainment พร้อมหน้าจอสัมผัส รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พวงมาลัย Multi-function: พร้อมปุ่มควบคุม Cruise Control ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone: กุญแจรีโมท Smart Key และ Push Start Button: เบาะคนขับ/ผู้โดยสารปรับไฟฟ้า: ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า (Power Tailgate) พร้อม Kick Sensor: (เตะเปิด) ระบบ Park Assist (ช่วยจอดอัตโนมัติ): (เป็นจุดเด่นของ Everest) กล้องมองหลัง: พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะหน้า-หลัง
ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS - รุ่น Titanium+): ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบเบรก ABS/EBD/BA/ESP ระบบควบคุมความเร็วแบบปรับระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control): ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert): ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking - AEB): ระบบเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร (Lane Departure Warning) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร (Lane Keeping Aid): ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System - BLIS) พร้อมระบบเตือนรถในจุดอับสายตาขณะถอยออกจากช่องจอด (Cross-Traffic Alert):
จุดขายหลักของ Ford EVEREST 2.2 (2018) Titanium+ SUV:"PPV SUV หรูหรา ออปชันจัดเต็ม ความสบายเหนือชั้น": เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่เน้นความหรูหรา ความสะดวกสบาย สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีที่ครบครัน หลังคา Panoramic Sunroof: เพิ่มความหรูหราและโปร่งโล่งภายในห้องโดยสาร ช่วงล่าง Watts Link: นุ่มนวล นั่งสบายเป็นพิเศษ เหนือกว่า PPV ทั่วไป ออปชันและเทคโนโลยี ADAS ครบครัน: Adaptive Cruise Control, AEB, Lane Keeping Aid, BLIS, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ เครื่องยนต์ 2.2L (160 แรงม้า): กำลังดี ประหยัด (ปานกลาง) และเป็นที่ยอมรับเรื่องความทนทาน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: ประมาณ 10-12 กม./ลิตร
ความคุ้มค่า: สำหรับ Ford EVEREST 2.2 Titanium+ SUV ปี 2018 ในราคา 589,000 บาท ถือเป็น ราคาที่คุ้มค่าอย่างยิ่งและน่าสนใจมาก ครับ โดยรวมแล้ว Ford EVEREST 2.2 (2018) Titanium+ SUV ในราคา 589,000 บาท เป็น PPV SUV มือสองที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ที่ครบครันทั้งในด้านสมรรถนะ ความหรูหรา และความปลอดภัย
|