ผู้เขียน: Oat Osaka papeyong Kuk Kuk

เติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นจะเกิดอะไร

หม้อน้ำภายในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก็จะใช้เป็นน้ำหล่อเย็นเฉพาะรุ่นเฉพาะยี่ห้อแล้ว เพราะภายในน้ำยาหล่อเย็นจะมีสารที่ช่วยในการถนอมเหล็กและอุปการ์ต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ซึ่งจะไม่เหมือนกับน้ำเปล่าที่มีททั้งคลอรีนและความเป็นกรดด่างที่ทำให้มีผลต่เหล็กนั่นเอง ซึ่งเกิดจากค่าความกรดและด่างที่เหมาะสมของเหล็กภายในเครื่องยนต์

@kitsadagoodcar

เติมน้ำเปล่าแทนน้ำหล่อเย็นได้ไหม #สาระ #สาระความรู้ #สาระน่ารู้ #รู้เรื่องรถ #รถมือสอง

♬ เสียงต้นฉบับ – kitsada goodcar – kitsada goodcar

ถ้าหากเติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็น จะเกิดอะไร ?

ค่ากรด ด่างที่อยู่ภายในน้ำเปล่านั้น เป็นตัวอันตรายที่ทำให้เกิดสนิม ตะกรัน และ ตะกอน ภายในเรื่องยนต์ หม้อน้ำ และ อุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เกิดการสึกหรอจนไม่สามารถทำงานได้ และถ้าหากทิ้งไว้นานๆก็จะทำให้เกิดการติดขัดของอุปกรณ์หรือหากแย่ไปกว่านั้นอาจจะทำให้หม้อน้ำรั่วอันเกิดจากการกัดกร่อนจากสนิมภายในนั่นเอง

น้ำยาหล่อเย็นแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร ?

สีของน้ำยาหล่อเย็นจะถูกใส่มาเพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตเพราะน้ำยาหล่อเย็นแต่ละยี่ห้อจะใส่สีที่แตกต่างกัน โดยแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีค่าความกรดด่างที่ไม่เท่ากันฉะนั้น หากต้องการเติมน้ำยาหล่อเย็นให้ซื้อจากศูนย์จะดีที่สุดนะครับ

น้ำยาหล่อเย็นสามารถผสมกันได้หรือไม่?

น้ำยาหล่อเย็น ผสมกันได้แต่จะต้องมีค่าความด่างและสารต่างๆที่เหมือนกันฉะนั้นถ้าอยากจะให้ถูกต้องทที่สุด แนะนำเบิกศูนย์มาเติมดีกว่านะครับ

สาระน่ารู้รถยนต์ หรือหากต้องการดูรถมือสอง สามารถดูได้ที่ kitsadagoodcar

เช็คของเหลว แค่ 3 จุดก่อนเดินทาง ง่ายๆ

ประโยชน์ของกุญแจ Keyless Smart key มีดียังไงมาดู

อย่างที่เรารู้ว่ากุญแจรถยนต์ก็ได้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกุญแจที่ผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ มักจะนิยมใช้มากที่สุดนั่นก็คือ ระบบกุญแจแบบ Keyless Smart key ที่นอกเหนือกว่ากุญแจรีโมททั่วไป จะทำอะไรได้อีกบ้างลองมาดูกันครับ

@kitsadagoodcar

กุญแจคีย์เลสมีดียังไง ?? #Keyless #กุญแจ #คีย์เลส #สาระ #ความรู้ #รถมือสอง

♬ เสียงต้นฉบับ – kitsada goodcar – kitsada goodcar

1.สามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ได้

เป็นระบบที่สร้างความสะดวกสบายของคนใช้รถสำหรับประเทศเขตร้อนได้เป็นอย่างดีแต่มีเฉพาะบางรุ่นที่รองรับ ลองคิดดูว่าหากคุณกำลังทานอาหารร้อนๆ แล้วอยากที่จะขึ้นรถมาแล้วเจอแอร์เย็นๆ คุณสามารถสั่งการเพื่อให้รถของคุณสตาร์ทรถเปิดแอร์เย็นๆ ผ่านระบบรีโมท Keyless Smart Key ได้อีกด้วย

2. มีระบบความปลอดภัยสูง ยากในการปลอมกุญแจ

เพราะหลักการของกุญแจรีโมทแบบ Keyless Smart Key นั้นจะมีการสุ่ม รหัสที่กล่องของรถยนต์รู้จักเท่านั้น ซึ่งจะมีความปลอดภัยสูงมากๆ แต่ถ้าหากจะปลอมก็ถือว่าทำได้ยากพอสมควร เพราะจะต้องนำกล่องของรถมาถอดรหัสที่รู้จักทั้งหมดเพื่อทำการใส่ไปในกุญแจนั่นเอง

3.สามารถสั่งการเปิดหรือปิดส่วนต่างๆของรถได้

สามารถสั่งการระบบต่างๆของรถยนต์ เช่น กระจกหน้าต่างๆ หรือ ฝาท้าย ประตูสไลด์ แต่ก็จะต้องอิงกับรุ่นต่างๆของรถรุ่นนั้นๆ อีกด้วย โดยบางรุ่นสามารถสั่งการเปิดและปิดฝาท้ายได้แบบ Fortuner หรือ เปิดปิดกระจกหน้าต่างแบบ Accord นั่นเองครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม หรือสามารถดูรถมือสองสภาพดีได้ที่ kitsadagoodcar

เช็คของเหลว แค่ 3 จุดก่อนเดินทาง ง่ายๆ

เช็คของเหลว แค่ 3 จุดก่อนเดินทาง ง่ายๆ

การตรวจเช็คของเหลวเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่คนใช้รถต้องรู้และสามารถบำรุงรักษาได้ และขอเหลวก็เป็นสิ่งที่ต้องตรวจเช็คตลอดการใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและอันตรายขณะใช้ และรักษาสภาพของรถคูณให้สามารถใช้งานได้อีกยาวนาน เรามาดู่าการเช็คของเหลว 3 สิ่งเบื้องต้นง่ายๆที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองนั้นมีอะไรบ้าง

@kitsadagoodcar

วิธีเช็คของเหลวเบื้องต้น #สาระ #สาระความรู้ #สาระน่ารู้ #ของเหลว #รถมือสอง #รู้เรื่องรถ

♬ เสียงต้นฉบับ – kitsada goodcar – kitsada goodcar

1.เช็คน้ำมันเครื่อง

การเชคน้ำมันเครื่อง เตรียมอุปกรณ์ เพียงแค่ 1 อย่างง่ายๆ คือกระดาษทิชชู่ หรือ ผ้าสะอาด
วิธีง่ายๆ ในการตรวจเช็คคือ
หาตำแหน่งสายวัดภายในห้องเครื่องยนต์ของรถคูณ และ ดึงก้านระดับน้ำมันเครื่อง เช็ดที่ปลายให้สดอาด 1 ครั้ง จุ่มลงไปให้สุดแล้วยกขึ้นมาใหม่ ดูระดับน้ำมัน ให้อยู่ตำแหน่งขีดบน และห้ามต่ำกว่าขีดล่าง เพื่อรักษาระดับของน้ำมัน หากระดับน้ำมันต่ำกว่าขีดล่าง ให้นำมาเติมแต่ถ้าน้ำมันเครื่องต่ำจนเกินไปให้ตรวจดูรอบรั่วตามจุดต่างๆ และควรเช็คก่อนเดินทางทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

2.น้ำหล่อเย็น

น้ำยาหล่อเย็น เป็นของเหลวที่โดยปกติแล้วทาศูนย์จะใช้สารเรืองแสงที่แตกต่างกันเพื่อให้สามารถสังเกตุรอยรั่วได้อย่างง่ายและชัดเจน ซิ่งจุดที่ต้องสังเกตนั่นก็คือ ระดับน้ำในกระบอกพักน้ำ เมื่อรถดับเครื่องและจอดอยู่นิ่ง ระดับน้ำในกระบอกจะต้องมีขนาดที่อยู่ในระดับ High และไม่ควรต่ำกว่า Low เมื่อเครื่องทำงานอยู่อาจจะเกิดการพร่องลงไปเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ควรอยู่ในระดับ Low เช่นกัน

3.น้ำฉีดกระจก

น้ำฉีดกระจก เป็นอุปกรณ์ติดรถยนต์ที่ควรตรวจเช็คเช่นกัน เพราะถ้าหากช่วงเดินทางไกล อาจจะเจอสถานการณ์ ที่บดบังทัศนวิสัยและจำเป็นต้องใช้แล้วไม่มีอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้นั่นเอง
ระดับของน้ำสามารถมองได้ด้วยตาเปล่า

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม

ดูรถน้ำท่วม และ รถจมน้ำ สังเกตง่ายๆภายใน 5 วิธี

ดูรถน้ำท่วม และ รถจมน้ำ สังเกตง่ายๆภายใน 5 วิธี

ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2565 ที่ผ่านมา มีน้ำท่วมขังในหลายๆพื้นที่ซึ่งแน่นอนว่า หลังจากที่น้ำลงรถเหล้านีเอาจจะมีการกลับมาทำความสะอาดและย้อมขายใหม่ ซึ่งสำหรับคนที่กำลังดูรถยนต์ต้องมีความกังวลเป็นอย่างมากสำหรับการเลือกซืื้อรถมือสองในอนาคต วันนี้จะมาบอกวิธีดูรถยนต์อย่างง่ายๆภายใน 5 วิธี เพื่อลดโอกาสในการได้รถน้ำท่วมโดยใช้เพียงแค่ ไฟฉาย นั่นเองครับ




1.เช็คตัวถังหาสนิม

แน่นอนว่าเมื่อเหล็กผ่านความชื้นจากน้ำท่วมขังมาเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะเกิดการผุกร่อน ซึ่งร่องรอยเหล่านี้ มันสามารถบ่งบอกถึงลักษณะของรถที่ผ่านการแช่น้ำได้เช่นกันเพราะไม่ว่าจะเป็นรอยสนิม รอยผุกร่อนของเหล็ก หรือร่องรอยความเสียหายจากครบน้ำก็สามารถบอกได้ทั้งสิ้น ซึ่งบางทีผู้ขายอาจจะนำไปสาดสีมาแต่ก๋สามารถสังเกตได้จากร่องรอยต่างๆของเหล็ก

2.กลิ่น

แน่นอนว่ารถยนต์ถ้าหากผ่านการแช่น้ำก็จะเกิดความชึ้นซึ่งความชื้นเหล่านี้นั้นจะทำให้รถมีเชื้อราด้วย เชื้อราเหล่านี้ก็มักจะเกิดได้กับอุปกรณ์ต่างๆภายในรถที่เป็นทั้งผ้า เบาะหนัง รวมไปถึงพลาสติกต่างๆ และก็จะทำให้เกิดกลิ่นอับที่คุณสามารถสังเกตได้เพียงแค่ปลายจมูกเท่านั้น ซึ่งบางครั้งอาจจะรวมไปถึงกลิ่นที่เกิดขึ้นภายในช่องแอร์อีกด้วย


3.ดูใต้พรม

จุดที่สามารถสังเกตุได้อีกหนึ่งจุดนั่นก็คือ ใต้พรม แน่นอนว่าเมื่อเกิดความชื้นจากการแช่น้ำต่างๆ ความสกปรกหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นที่สามารถบอกคุณได้คือใต้พรมนั่นเอง เพราะเมื่อเกิดการหมักหมมของคราบเหลืองๆเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้เกิดความสกปรก และคราบน้ำเน่าต่าง และไม่สามารถขัดออกได้

4.สภาพภายในห้องเครื่อง

ต้องไม่มีคราบร่องรอยความสกปรกดินโคลน หรือร่องรอยที่บอกว่ารถเคยผ่านการแช่น้ำมาก่อน หรืออาจจะพบกับรอยสินตามคานหรือจุดข้อต่อต่างๆของรถ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากน๊อตต่างๆ ในระดับใต้เครื่อง หากพบสิ่งเหล่านี้ก็สันนิษ

5.ปลั๊กต่อระบบไฟต่างๆ

ปลั๊กต่อระบบไฟต่างๆภายในรถก็สามารถบ่งบอกได้เช่นกันเพราะอุปกรณ์เหล่านี้นั้นมีช่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ยากต่อการทำความสะอาด ฉะนั้นปลั๊กช่องต่อไฟฟ้าต่างๆก็จะเกิดคราบสกปรกภายในตัวปลั๊ก หรือหากแย่ไปกว่านั่นระบบไฟฟ้าภายในรถไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติเช่น ไฟแสดงผลภายในรถ เครื่องเสียง หรือระบบแอร์

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม หรือหากต้องการดูรถมือสองสภาพดีที่ผ่านการคัดสรรด้วยมาตรฐานระดับสากล สามารถติดต่อได้ที่ kitsadagoodcar

“กฎหมายคาดเข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง” มีผลแล้ว แต่ยังมีข้อยกเว้น

4 ช่องจอดพิเศษที่ควรรู้ไม่ควรจอดขวาง

กฎระเบียบการใช้ถนนมีอยู่มากมายหลายข้อซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกกำหนดและสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รวมไปถึงที่จอดรถก็มีความปลอดภัยเช่นกัน วันนี้เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่า 4 ช่องจอดแบบไหนที่หลายๆคน มักจะคิดว่า “จอดแปปเดียวเอง” แล้วจะไม่มีปัญหาอะไร ลองมาดูกันครับ

  1. ช่องจอดสำหรับคนพิการ

ผู้พิการบางท่านสามารถขับขี่รถยนต์ได้ อันนี้หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ แต่ก็ยังมีข้อแม้ว่า จะต้องไม่พิการหรือทุพพลภาพจนส่งผลให้ไม่สามารถขับขี่ได้ และรถที่ขับนั้นจะต้องดัดแปลงลักษณะการใช้งานให้เหมาะสมและต้องผ่านการตรวจสอบกับทางวิศวกรด้วย ตามกฎกระทรงแล้วช่องจอดที่สงวนไว้ให้กับคนพิการจะมีความยาวและกว้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างไม่ต้ำกว่า 2.4 เมตรและยาวไม่ต้ำกว่า 6 เมตร และสัญลักษณ์จะต้องมีความหนาไม่ต่ำกว่า 900 มิลลิเมตรเพื่อความชัดเจนในการมองเห็นของผู้พิการ ที่มีความสำบากในการขึ้นลงรถนั่นเอง อ่อ และช่องนี้สำหรับผู้สูงอายุก็สามารถใช้ช่องนี้ร่วมกับผู้พิการได้นะครับ

2. ช่องจอดสำหรับช่องเติมลม

ช่องจอดสำหรับเติมลมยาง เป็นช่องที่สงวนไว้ให้สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้บริการเติมลมยางชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถจอดขวางหรือปิดทางสำหรับเข้าออกได้ โดยถ้าหากคนที่จำเป็นจะต้องเติมลมจริงๆแล้วจอดขวางอาจจะทำให้ไม่สามารถเติมลมได้เพราะความยาวของสายเติมลมนั้นค่อนข้างมีจำกัดฉะนั้นหากไม่จะเป็นอย่าจอดขวางดีกว่าครับ

3. ช่องจอดสำหรับผู้หญิงเท่านั้น (Lady Parking)

ช่องจอดสำหรับคุณสุภาพสตรี มักจะเห็นได้ตามห้างสรรพสินค้าหลายๆแห่ง ในตำแหน่งที่ใกล้กับประตูตัวห้างสรรพสินค้ามากที่สุดซึ่งอันที่จริงแล้ว ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดอาชญากรรมต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณผู้หญิง รวมไปถึงอันตรายจากการโจรกรรมทรัพย์สินได้อีกด้วย เพราะนอกจากจะมี รปภ.คอยสอดส่งอย่างละเอียดแล้ว ก็ยังมีกล้องค่อยสอดส่องตลอดเวลาอีกด้วย

4. ช่องจอดสำหรับชาร์ตไฟฟ้า (EV Charger Station)

สถานีชาร์จไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ยู่ในห้างหรือ ที่อยู่ตามสถานีชาร์จไฟฟ้าตามปั้มน้ำมันก็ล้วนแล้วแต่ห้ามจอดหากไม่มีการชาร์จหรือใช้บริการ เพราะถ้าหากฝ่าฝืน นอกจากจะเกิดการตักเตือนสถานเบาแล้ว ก็อาจจะโดนใบสั่งหรือ หนักหน่อยก็เป็นการยกรถออกจากช่องนี้ ก็เป็นได้นะครับ

ช่องจอดเหล่านี้เป็นกฎระเบียบที่สร้างขึ้นเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยและความสะดวก ต่างๆ ฉะนั้น ควรจะปฎิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้เพื่อความเรียบร้อยและลดปัญหาความวุ่นวายต่างๆด้วยครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม หรือ หากต้องการดูรถมือสองสภาพดี สามารถดูได้ที่ kitsadagoodcar

มีงบ 3 แสน รถมือสองปีเก่าผ่อนน้อย กับรถมือสองปีใหม่ ผ่อนสูง ควรเลือกแบบไหน

มีงบ 3 แสน รถมือสองปีเก่าผ่อนน้อย กับรถมือสองปีใหม่ ผ่อนสูง ควรเลือกแบบไหน

รถมือสองในท้องตลาดมีหลากหลายราคาให้เลือก ซึ่งเมื่อคิดจะเลือกซื้อรถมือสองซักคันก็มักจะมีปัจจัยในการกำหนดทั้งเรื่องราคา ปี และการใช้งานเป็นตัวตั้ง โดยจากผลสำรวจแล้ว คนไทยส่วนใหญ่มักจะหารถที่มีงบราวๆ 3 แสน และถ้าหากกำลังมองหารถมือสองซักคัน สิ่งที่สำคัญนั้นคือการตัดสินใจ โดยระหว่างรถเก่า ที่ผ่อนน้อยๆต่อเดือน กับ รถใหม่ที่ราคาค่างวดราวๆ 7,000 บาท มาดูกันครับ ว่าแบบไหน ที่เหมาะกับคุณที่สุด และมีข้อดีข้อเสีย และแตกต่างกันอย่างไร

รถปีเก่าหรือรถปีลึก ที่มีราคาไม่เกิน 3 แสน

โดยส่วนมากแล้วรถปีเก่าที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ข้อดีคือการได้เลือกรถที่มีขนาดใหญ่กว่ารถใหม่ราคาไม่เกิน 3 แสน แต่ก็จะอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สามารถฟรีดาวน์ได้ และจะต้อง มีการดาวน์ขั้นต่ำอย่างนั้น 10% ของราคารถ ถึงเริ่มต้นจะดูหนักหนาหน่อย ก็จะทำให้ลดในส่วนของภาระค่างวดต่อเดือนไปได้มาก และผ่อนในระยะสั้นๆ ซึ่งการซื้อรถเก่าก็มีความเสี่ยงอยู่เช่นกันถ้าหากว่าคุณโชคไม่ดีนัก เจอรถสภาพที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงก็อาจจะทำให้ต้องมีการซ่อมบำรุงเป็นระยะๆไป ซึ่งถ้าหากคิดดีๆแล้ว บางทีอาจจะพอๆ กับค่างวดของรถใหม่ๆเลยก็ได้ ฉะนั้น เมื่อจะเลือกซื้อรถซักคัน ควรคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจนะครับ

รถปีใหม่ ฟรีดาวน์ ผ่อนสูง

การซื้อรถปีใหม่ ฟรีดาวน์ จะได้เปรียบในเรื่องของความใหม่ ทั้งเทคโนโลยี และอ๊อพชั่น แต่ก็ผ่อนสูงรถเก่าแต่ราคานั้นก็ถือว่าเป็นปัญหาสำหรับคนที่มีงบน้อยพอสมควร ถึงจะสามารถฟรีดาวน์ ได้แต่ก็จะไปหนักในเรื่องของ ค่างวดในแต่ละงวดที่ทำเอาหนัก และยังผ่อนในระยะยาว ถ้าหากคุณเป็นคนที่ต้องการผ่อนในระยะสั้นก็จะต้องเพิ่มค่างวดให้สูงขึ้นไปอีก ถึงการดูแลอาจจะไม่จุกจิกเท่ารถเก่า แต่ก็อาจจะต้องตรวจในเรื่องของการบำรุงรักษาบ้างนั้นเอง

และทั้งงหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่แนวคิดสำหรับคนที่มีงบจำกัดที่ 3 แสนบาท ฉะนั้นถ้าหากคุณกำลังต้องการคำแนะนำหรือรถมือสองซักคัน สามารถติดต่อสอบถามมาได้ที่ กฤษฎากู๊ดคาร์ โชว์รูมรถมือสองที่สามารถวางใจได้

อ่านบทความและสาระเพิ่มเติมได้ที่

กุญแจรีโมทรถยนต์มีกี่แบบ ถ้าถ่านหมดจะสตาร์ทรถยังไง

Chevrolet Silverado HD 2024 เผยโฉมภายใน ใส่ระบบดิจิทัลเต็ม

เผยโฉมแล้วกับ Chevrolet Silverado HD ที่เผยให้เห็นภายในอันน่าสนใจ เพื่อที่จะมาเป็นส่วนแบ่งของตลาดรถกระบะในอนาคต (ซึ่งไม่ใช่ประเทศไทย) มาคราวนี้ดูแข็งแกร่งทนทาน ตามสไลต์ของรถอเมริกัน ซึ่งภายในได้มีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด กระจังหน้าใหญ่เพิ่มความดุดัน เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากพอสมควรไฟหน้ารูปทรงตัว C ถ้าหากเทียบกับ Ford Ranger ตัวปัจจุบัน ก็เหมือน ไฟหน้า Ranger สลับด้านนั่นเอง

เจนเนเรชั่นนี้ ได้เพิ่มเอาความพรีเมี่ยมดด้วยการนำเอา ตรายี่ห้อปั้มลงบนฝากระโปรง ให้มีมิติ และในรุ่นนี้ จีมีสีหลักทั้งหมด 6 สี Sterling Grey, Dark Ash, Radiant Red, Auburn Metallic, Lakeshoe Blue Metallic และ Meteorite Metallic Multi-Flex tailgate แบบ 6 ตำแหน่ง มีให้เป็นตัวเลือกอย่างจุใจ ดุดันภายใต้รหัส ZR2

กังที่กล่าวไว้ข้างต้น โฉมปี 2024 Silverrado HD ภายในสิ่งที่โดดเด่น ภายในคือ จอมอนิเตอร์แบบสัมผัส ขนาด 13.4 นิ้ว และ DashBoard ขนาด 12.3 นิ้ว ที่กำหนดค่าได้และสามารถปรับเพื่อแสดงผลได้เสริมความหรูหราอดอุ่นด้วย คอนโซลหน้าลายไม้ และแอร์ดิจิทัล แบบมือหมุน ซึ่งถ้าหากมองย้อนกลับไป เป็นเหมือนการยืมเอา Threme รถคลาสสิก และได้กลิ่นอายความเป็น Chevrolet 1970 และ 1980 เบาๆ

ถ้าหากกลับมาพูดถึงจุดเปลี่ยนของ Chevrolet Silverado HD ที่เริ่มนำเอา ขอ Dash Board แบบ LCD มาใช้ ซึ่งนอกจจากจะใช้บอกถึงความเร็วและมาตราวัดเครื่องยนต์ต่างๆแล้ว ยังสามารถแสดงผล GPS Nevigator และ เล่น Multimedia อีกด้วย

เครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร V8 หรือดีเซล Duramax 6.6 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ Allison 10 สปีดเป็นเกียร์มาตราฐาน สามารถลากเพิ่มได้อีก 26,000 ปอนด์ โดยเชฟโรเลตได้อ้างว่า เครื่อง Duramax ให้กำลังมากถึง 470 แรงม้า หรือราวๆ 346 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงถึง 675 ปอนด์-ฟุต (1,322 นิวตัน-เมตร)

เรียกว่ากลับมาคราวนี้ ทาง Chevrolet ได้เตรียมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของของตลาดได้อย่างชัดเจน ซึ่ง รุ่นนี้ คาดว่าจะมาเป็นรุ่น Top Hight Country Midnight Edtion ใหม่ทั้งหมด และมีการตกแต่งลวดลายภายนอกด้วยสีโครมเมี่ยมสีดำ ตราสัญลักษณ์สีดำและ ล้อแม๊กซ์โครเมี่ยมดำเข้มดุดันขนาด 20 นิ้ว และเตรียมเปิดตัวสู่สายตาของสาธรณะชน ภายในงาน Stage Fair of Texas

อ่านข่าวสารรถใหม่เพิ่มเติม หรือหากต้องการดูรถมือสองสามารถดูได้ที่ Kitsadagoodcar

กุญแจรีโมทรถยนต์มีกี่แบบ ถ้าถ่านหมดจะสตาร์ทรถยังไง

กุญแจรีโมทรถยนต์มีกี่แบบ ถ้าถ่านหมดจะสตาร์ทรถยังไง

กุญแจรีโมทรถยนต์ มีหลายแบบทั้งแบบ Keyless Entry System และ แบบ Remote Central Locking ทั้งสองแบบนี้ ก็มีลักษณะการใช้งานที่คล้ายกันซึ่ง ในปัจจุบัน ก็จะอัพเกรดความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น โดยการป้อนรหัสในการก๊อปปี้กุญแจผีนั้นก็ทำได้ยากขึ้น ด้วยสัญญาณวิทยุ และสัญญาณโทรศัพท์ ปัจจุบันยังมีการ ฝั่งชิพ immobilizer เข้าไปเพื่อสามารถสงสัญญาณเมื่อกุญแจไม่มีแบตเตอรี่ ฉะนั้น เมื่อแบ๊ตเตอรี่หมด ก็ตัดปัญหาในการยามฉุกเฉิน ผู้ผลิตก็ได้คิด เอาช่องโหว่จุดนี้ออกไป รถยนต์บางรุ่นอาจจะซ้อนฟังค์ชั่นสำหรับการเข้าถึงรหัสด้วยวิธีต่างๆวันนี้ จะยกตัวอย่างมาให้ดูทั้ง 2 วิธีกันครับ



1.กุญแจรีโมท แบบ Central locking

กุญแจแบบ Central locking เป็นกุญแจที่นิมยมใช้ในรถที่มีราคาไม่สูงมากซึ่งลักษณะการใช้งานจะไม่ซับซ้อน เหมือนกับแบบอื่นๆ ซึ่งกุญแจประเภทนี้จะยังซ่อนกุญแจเหล็กแบบเสียบไว้ภายในตัวกุญแจซึ่งเมือถ่านหมดกุญแจ เพื่อใช้สตาร์ทหรือไขประตู

@kitsadagoodcar

ถ่านกุญแจมิตซูบิชิ ปาเจโร่หมด สตาร์ทรถยังไง #รถยนต์ #สาระ #รถมือสอง #ความรู้รอบตัว #กุญแจรีโมท

♬ FEEL THE GROOVE – Queens Road, Fabian Graetz


2.กุญแจรีโมท แบบ Keyless Entry System

เป็นกุญแจที่ในปัจจุบันรถตัวท๊อปๆของรุ่นมักจะใส่เข้ามาไว้ เพราะนอกจากจะ ล๊อค หรือ ปลดล๊อคประตูแล้ว มันยังสามารถ สั่งการระบบอื่นๆภายในรถได้ เช่น เปิดปิดหน้าต่าง ฝาท้าย สตาร์ทรถหรือดับเครื่อง สามารถสั่งผ่านระบบ กุญแจ Keyless Entry System ได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้ฟังค์ชั่นของรถรุ่นนั้นๆ ที่ใส่มาให้

เมื่อแบตเตอรี่รีโมทหมด จะสตาร์ทรถอย่างไร
ซึ่งเมื่อแบตเตอรี่ของรีโมทหมด
แบบที่ 1 จะสามารถสตาร์ทด้วยการ นำกุญแจไปไว้ใกล้ๆกับปุ้มกดสตาร์ท หรือ
แบบที่ 2 นำไปเสียบในช่องที่ทางผู้ผลิตได้ซ่อนเอาไว้ ตามคู่มือที่ให้มากับรถนั่นเอง

ระบบ Immobilizer และระบบสัญญาน เตือนการโจรกรรม TDS

ระบบ นี้เป็นระบบความปลอดภัย ป้องกันการโจรกรรม เป็นชิพสัญญาณเฉพาะ ซึ่งถ้าหากว่าการสตาร์ทรถที่ผ่านรีโมทกุญแจที่ไม่มีสัญญาณตัวนี้หรือกุญแจสำรอง รถจะสตาร์ทไม่ติด หรือ ติดแล้วดับ ขึ้นอยู่กับทางโรงงานที่ออกแบบมา

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม หรือ ดูรถมือสองเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์ kitsadagoodcar

รู้ไหม? เหล็กแหนบมีกี่แบบ และ 1 ชุด รับน้ำหนักได้กี่กิโลกรัม

รู้ไหม? เหล็กแหนบมีกี่แบบ และ 1 ชุด รับน้ำหนักได้กี่กิโลกรัม

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับเหล็ก “แหนบ” กันก่อน
อันที่จริงแล้ว ช่วงล่างของรถยนต์นั้น ไม่ได้มีแค่ระบบโช๊คอัพกันสะเทือนจะเป็นแบบสปริงค์เท่านั้น หากมาใช้ในรถกระบะหรือรถบรรทุกหนักๆนิยมใช้เป็นเหล็กแผนซ้อนประกบหรือที่เขาเรียกกันว่า “เหล็กแหนบ”

ซึ่งเหล็กแหนบนั้นจะทำหน้าที่ในการรับน้ำหนัก และรองรับการกระแทกของรถกระบะ บรรทุก หรือลดแรงสั่นสะเทือน ทั้งนี้ความยืดหยุ่นของเหล็กจะถูกกำหนดด้วยความหนาของเส้นแหนบโดยเหล็กแหนบที่ใช้กับรถกระบะ บรรทุก และ รถทั่วไป มีอยู่ 3 ประเภทหลักๆด้วยกัน คือ


1. แหนบบาง ขนาด 6-16 มม. จะสามารถรองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 10 ตัน โดยส่วนมาก จะมีความยืดหยุ่นรองรับน้ำหนักได้น้อย แรงดีดตัวต่ำ อาจจะทำให้มีอาการส่วน หรือ มีการโยน ในกรณีที่ใส่แหนบน้อยเกินไปก็อาจจะทำให้รองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 10 ตัน โดยปกติแล้วจะเห็นในกระบะทั่วๆไป และกระบะ 6ล้อ

2. แหนบหนา ขนาด 16 มม.ขึ้นไป สามารถรองรับน้ำหนักได้เกิน 10 ตัน ลักษณะของแหนบความหนาขนาดนี้ จะมีวแรงดีดตัวสูง ความยืดหยุ่นต่ำ ซึ่งถ้าหากไม่ได้บรรทุกของเลยจะมีความรู้สึกว่าช่วงล่างจะมีการดีดตัวแรง ซึงจะเห็นได้ใน รถขนาดใหญ่ รถบรรทุก รถสิบล้อ รถเทรนเลอร์ รถพ่วง

3. แหนบพาราโลลิค หรือคนไทยเรียกว่า “แหนบนอก” ซึ่งได้เอาข้อดีของแหนบหนาและแหนบบางมารวมกัน โดยลักษณะของแหนบชนิดนี้ คือ ตรงกลางจะหนา ตรงปลายจะบาง สาเหตุที่เป็นแบบนี้คือตรงกลางจะรับน้ำหนักได้มาก ตรงปลายจะลดแรงดีดตัว มีความยืดหยุ่นสูง โดยจะมีความหนาตั้งแต่ 15 มม. โดยอาจจะเห็นได้ในรถยุโรปบางรุ่น ในหนึ่งชุดจะมีราวๆ 2-3 แผนเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าแหนบแต่ละแบบนั้น มีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ฉะนั้น เมื่อต้องบรรทุกหนักๆ ก็ควรใช้น้ำหนักให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยและ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่นด้วยนะครับ

อ่านสาระน่ารู้ เพิ่มเติม และสามารถดูเว็บไซด์ รถมือสองได้ที่ KITSADAGOODCAR

SUV MPV PPV Crossover ต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับคุณ

SUV MPV PPV Crossover ต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับคุณ

รถอเนคประสงค์ ในปัจจุบันได้มีหลากหลายแบบ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น และเมื่อคุณต้องเลือก คุณละเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างไร

วันนี้ Kitsadagoodcar จะมาไขข้อข้องใจและข้อสงสัยพร้อมลักษณะการใช้งานต่างๆ ของรถยนต์แต่ละแบบ ทั้ง SUV MPV PPV Crossover ว่าถูกสร้างมาเพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานอย่างไรบ้าง

รถ SUV

รถ SUV ย่อมาจาก Sports Utility Vehicle ซึ่งแปลว่า รถสปอร์ทอเนคประสงค์ หลายคนเข้าใจว่าจะต้องเป็น รถ 7 ที่นั่งเท่านั้นถึงจะเป็นรถ SUV แต่อันที่จริงแล้ว ไม่จำเป็น
ซึ่งอันที่จริง คำว่าสปอร์ทถ้าหากแปลตรงตัวนั้นก็คือ ยานพาหนะที่เกิดมาเพื่อกีฬาและรวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ โดยคำว่า SUV จะกล่าวถึงและคลอบคุมไปถึงรถยนต์ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อขนาดใหญ่ เช่น LandRover และ Chevrolet และ รวมไปถึง Honda CRV นอกจากนี้ยังรวมไปถึงรถ SUV ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถใช้งานได้หลากหลาย

และรถ SUV ที่ได้รับความนิยม ในประเทศไทยก็มีหลายคันหลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น SUV จากค่าย Honda, Toyota, Mazda, Nissan, Subaru และ MG

ซึ่งข้อดีของรถ SUV
จะเหมาะกับกลุ่มคนที่ชอบขับขี่แบบลุยไปได้ทุกที่ภายในกว้างขวาง และตัวรถจะยกสูงกว่ารถประเภทอื่นๆ มีทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีกว่ารถทั่วไป และ สามารถเดินทางตามเส้นทางที่ธุระกันดาน หรือ เส้นทางที่มีพื้นที่ขรุขระ และนอกจากนี้ ยังสามารถปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับทุกเส้นทางได้อีกด้วย

และข้อเสียของรถ SUV
เป็นรถที่มีราคาค่อยข้างสูง มีค่าบำรุรักษาที่สูงและแพงกว่ารถยนต์ประเภทอื่นๆ จะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างจำกัด เพราะโดยพื้นฐานของรูปทรงนั้น จะมีความใหญ่โต ทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองสูงมาก

รถ MPV

รถ MPV หรือรถยนต์ อเนคประสงค์ 7 ที่นั่ง ซึ่งย่อมาจากคำว่า Multi Purpose Van ซึ่งจัดเป็นระอเนคประสงค์ที่ออกแบบมาให้เน้นในการจุดผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมากโดนส่วนใหญ่ จะสามารถนั่งได้ตั้งแต่ 5-7 คน บางรุ่นสามารถนั่งได้ 12-14 คนเลยทีเดียว ซึ่งยังมีเนื้อที่ในการพับเพื่อเก็บสัมภาระได้อีกด้วย มินิแวนก็เหมาะกับรถครอบครัว แต่บางคนก็ทำไปดัดแปลงถอดเบาะเพื่อทำเป็นรถขนของไปเลย

ข้อดีของ MPV

คือรถที่มีห้องโดยสารขนาดใหญ่ประตูกว้าง สามารถบรรจุผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรถ MPV จะถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถขึ้นลงได้อย่างสะดวกไม่ต้องก้มต่ำจนเกินไป จึงกลายเป็นรถที่เหมาะกับผู้สูงอายุ และในปัจจุบันก็ได้ออกแบบทั้ง ประตูสไลต์ไฟฟ้า และเบาะยกไฟฟ้าขึ้นลงง่าย

ข้อเสียของ MPV

เป็นรถที่มีราคา และค่าซ่อมอะไหล่แพงและสูงกว่ารถแบบอื่นๆ และความใหญ่ของขนาดก็ทำให้ต้องใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ตามไปด้วย ทำให้มีอัตราการกินน้ำมันสูงมากๆ บอดี้ที่ใหญ่ช่วงเลี้ยวน้อย และ ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดเพราะเข้าออกยาก

รถ PPV

รถ PPV ย่อมาจากคำว่า Pick-Up Passenger Vehicle ซึ่งก็คือ รถอเนคประสงค์ที่ดัดแปลงพื้นฐานของโครงสร้างมาจากรถกระบะนั่นเอง สิ่งที่เราเข้าใจกันว่า PPV นั้นอันที่จริง ถูกเรียกในประเทศไทยเราเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นการนำเรารถกระบะที่มีการขับเคลื่อนแบบทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ หรือกระบะยกสูงมาดัดแปลงให้เป็นรถโดยสารทั้งแบบ 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง ซึ่งช่วงล่างของรถประเภทนี้จะเป็นลักษณะเดียวกันกับรถกระบะยกสูงตัวอย่างรถประเภทนี้ ในประเทศไทยนั้นก็คือ Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero, Nissan Terra, Isuzu Mu-x นั่นเอง

ข้อดีของรถ PPV

จุดเด่นของรถประเภทนี้ คือความกว้างของห้องโดยสารที่สามารถบรรจุผู้โดยสาร หรือสัมภาระต่างๆได้เป็นจำนวนมาก และยังสามารถขับไปลุย ตามเส้นทางที่สมบักสมบันได้อย่างสบายๆ โดยเป็นการนำเอาจุดเด่นของรถกระบะปิ๊กอัพมาใช้ และในขณะเดียวกัน มีการพัฒนาระบบช่วงล่างให้สามารถขับขี่ได้นิ้มนวลกว่า และบางรุ่นสามารถเทียบชั้นได้กับ SUV บางรุ่นอีกด้วย

ข้อเสียงของรถ PPV

แน่นอนว่าการนำรถกระบะมาดัดแปลง ก็มักจะเกิดปัญหาด้านช่วงล่าง ที่ต้องรับภาระและน้ำหนักที่มากกว่ากระบะ จึงทำให้มีปัญหาเรื่องของการทรงตัว และน้ำหนักที่มากกว่าก็ทำให้ อัตราการกินน้ำมันก็สิ้นเปลืองมากกว่าและยิ่งเป็นรุ่นที่สามารถขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ก็ทำให้มีอัตราการกินน้ำมันมากขึ้น ค่าบำรุงรักษาอาจจะไม่สูงเท่ารถประเภท SUV และ MPV แต่ก็ยังสูงกว่ารถเก๋งขนาดกลางและเล็กในยี่ห้อเดียวกันด้วย

รถ Crossover

รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก Crossover หรือเรียกกันเต็มๆว่า Crossover Utility Vehicle เป็นรถที่ได้รับอิทธิพลมาจากรถ SUV แต่มีขนาดทที่เล็กกว่าทำให้รถ Crossover มีความคล่องตัวกว่ารถธรรมดา แต่ก็ยังไม่สมบักสมบันเท่ากับรถ SUV แต่ Crossover จะมีระบบการทำงานและฟังค์ชั่นต่างๆที่ใกล้เคียงกับ SUV บางรุ่นจะมีแค่ขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่บางรุ่นก็ใส่แบบ 4 ล้อมาให้อีกด้วย

สรุปง่ายๆคือ

รถยนต์แบบครอบครัว ในประเทศไทยเรามี 4 ประเภท ซึ่งในแต่ละประเภทนั้น จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป การซื้อรถนอกจากจะซื้อด้วยความชอบแล้ว ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานให้เข้ากับแต่ละคนด้วย โดยเฉพาะการศึกษาในเรื่องของ ฟังค์ชั่นการใช้งานเพื่อจะได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคานั่นเอง

หากสนใจซื้อรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อได้ที่ Kitsadagoodcar

อ่านสาระน่ารู้รถยนต์ ได้ที่

4 วิธีดูแลรถยนต์ช่วงหน้าฝน สำหรับคนรักรถ