รถมือสอง กระบะราคาไม่เกิน 3 แสน

• เครื่องยนต์: ดีเซล 2.8 ลิตร GD Super Power (1GD-FTV) 4 สูบ เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 420 นิวตันเมตร (สเปคเทพสำหรับรถตอนเดียว)
• ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ขับสนุก อัตราทดต่อเนื่อง)
• จุดเด่นหลัก: เป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร (Rare Item) ที่ให้พละกำลังเหลือเฟือสำหรับงานบรรทุกหนัก 3-4 ตันขึ้นไป
• การตกแต่ง: ตู้ทึบอลูมิเนียมความสูงพิเศษ 2.10 เมตร ลงเล่มพร้อมใช้งาน
• ออปชัน: หน้าจอ Touchscreen รองรับ Apple CarPlay
• ราคา: 399,000 บาท (ถูกมากสำหรับเครื่อง 2.8 ปีใหม่)

ตู้ทึบอลูมิเนียม สูง 2.10 เมตร (Dry Box)

ความสูง 2.10 เมตร (สูงกว่ามาตรฐานทั่วไปที่ 1.80 ม.) ช่วยให้จุสินค้าได้ปริมาตรมากขึ้น เหมาะมากสำหรับงานขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักเบาแต่กินที่ (Bulky Cargo) เช่น เฟอร์นิเจอร์, กล่องพัสดุ Logistics, เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออะไหล่รถยนต์ และที่สำคัญคือคนสามารถยืนจัดของในตู้ได้สะดวกโดยไม่ต้องก้ม

---

เครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power (204 แรงม้า)

นี่คือจุดขายที่สำคัญที่สุด! ปกติรถตอนเดียวจะเป็นเครื่อง 2.4 (150 แรงม้า) แต่คันนี้เป็น 2.8 ซึ่งแรงบิดมารอในรอบต่ำดีมาก เหมาะสำหรับ "งานบรรทุกหนักข้ามจังหวัด" หรือเส้นทางที่ต้องขึ้นเขาลงห้วย (เช่น ภาคเหนือ/ใต้) กำลังเครื่องเหลือๆ ไม่ต้องเค้นคันเร่ง ช่วยให้เครื่องยนต์ไม่โทรมไว แม้จะเจอต้านลมจากตู้สูง 2.10 เมตรก็ตาม

---

หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว (Standard Audio)

รองรับ Apple CarPlay / Android Auto เสียบสายปุ๊บ แผนที่ Google Maps ขึ้นจอทันที ช่วยให้การวิ่งงานในเส้นทางใหม่ๆ สะดวกและปลอดภัยขึ้น ไม่ต้องติดมือถือที่กระจก

---

ปริมาตรในการบรรทุก (ตู้ทึบสูงพิเศษ)

มิติกระบะภายใน: กว้าง 1.60 ม. x ยาว 2.40 ม. x สูง 2.10 ม.
ปริมาตรความจุรวม: ประมาณ 8.0 - 8.5 ลูกบาศก์เมตร (CBM)
ความสามารถ: จุสินค้าได้เยอะสะใจ เหมาะกับงาน Logistics ขนกล่องพัสดุ ย้ายหอพัก หรือสินค้าเกษตรที่ไม่ต้องการความเย็น สามารถวางตู้เย็นหรือตู้เสื้อผ้าในแนวตั้งได้

ขุมพลัง 204 แรงม้า ในราคา Eco Car: คุณหาไม่ได้ง่ายๆ กับรถกระบะตอนเดียวเครื่อง 2.8 ลิตร ในราคาไม่ถึง 4 แสนบาท เครื่องตัวนี้แรงสะใจ เหยียบเป็นมา ไม่ต้องลุ้นเวลาแซงตอนบรรทุกหนัก

ตู้สูง 2.10 เมตร ได้เปรียบ: ไม่ใช่แค่แรง แต่ยังจุของได้เยอะกว่าคู่แข่งทั่วไปที่สูงแค่ 1.80 เมตร ทำให้คุณรับงานได้หลากหลายกว่า โดยเฉพาะงานย้ายบ้านหรือขนส่งเฟอร์นิเจอร์

คุ้มค่าการลงทุน: ราคา 3.99 แสน ปกติจะได้แค่รุ่น 2.4 หรือรถปีเก่ากว่านี้ แต่คันนี้ได้ปี 2022 หน้าหล่อ (Z-Edition) เครื่องใหญ่ และตู้ใบใหญ่ ถือเป็นดีลที่ดีที่สุดสำหรับคนเน้นสมรรถนะและการบรรทุก

• เครื่องยนต์: ดีเซล 2.2 ลิตร Duratorq TDCi 4 สูบ เทอร์โบ 125 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
• ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา 6 สปีด (จุดเด่นสำคัญที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายค่ายที่ให้มาแค่ 5 สปีด)
• จุดเด่นหลัก: พวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (EPAS) เจ้าเดียวในตลาดกระบะตอนเดียวยุคนั้น
• ช่วงล่าง: แกร่งเกาะถนนเยี่ยม ตามสไตล์ Ford
• พื้นที่ใช้สอย: กระบะท้ายขนาดใหญ่ กว้างขวาง

พวงมาลัยไฟฟ้า (EPAS)

พวงมาลัยจะเบามากเมื่อขับขี่ความเร็วต่ำหรือถอยจอด ทำให้การหมุนพวงมาลัยในไซตงานแคบๆ หรือจอดส่งของทำได้ง่ายดายโดยไม่ต้องออกแรงเยอะ ลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ได้ชัดเจน

---

เกียร์ธรรมดา 6 สปีด

อัตราทดเกียร์ที่มากกว่าช่วยให้การขับขี่ทางไกลใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำลง ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และมีเกียร์ให้เลือกใช้เยอะขึ้นเมื่อต้องบรรทุกหนักขึ้นทางชัน

---

โครงสร้างตัวถังนิรภัยและช่วงล่าง

Ford ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งของเหล็กตัวถัง และช่วงล่างที่เซ็ตมาให้ "หนึบ" และนิ่งกว่ากระบะทั่วไป ทำให้มั่นใจเมื่อต้องทำเวลาหรือเข้าโค้งขณะมีน้ำหนักบรรทุก

---

ปริมาตรในการบรรทุก (กระบะตอนเดียว)

มิติกระบะท้าย: กว้าง 1,560 มม. x ยาว 2,317 มม. x ลึก 511 มม.
พื้นที่ใช้สอย: เป็นกระบะตอนเดียวที่มีพื้นที่กว้างขวางมาก สามารถวางพาเลทสินค้าได้สบาย หรือบรรทุกท่อ PVC ยาวๆ พืชผลทางการเกษตร ได้ปริมาณมากต่อเที่ยว
อุปกรณ์ช่วยบรรทุก: มีตะขอเกี่ยวเชือกด้านข้างตัวถังมาให้จากโรงงาน (Cargo Hooks) ช่วยให้มัดของได้แน่นหนา

สมรรถนะเกินราคา: ด้วยงบประมาณ 2 แสนต้นๆ ปกติจะได้แค่รถปีเก่าๆ แต่คันนี้ได้รถปี 2017 ที่มีเทคโนโลยีพวงมาลัยไฟฟ้าและช่วงล่างระดับโลก ขับสบายกว่ารถกระบะตอนเดียวทั่วไปแบบคนละเรื่อง

พร้อมลุยงานทันที: รถมีพื้นปูกระบะมาให้แล้ว เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร มีกำลังเหลือเฟือสำหรับงานบรรทุกหนัก และเกียร์ 6 สปีดช่วยให้วิ่งงานต่างจังหวัดได้ประหยัดรอบเครื่อง

ความปลอดภัย: โครงสร้างตัวถังแข็งแกร่ง และระยะลุยน้ำได้ถึง 80 ซม. ช่วยให้คุณมั่นใจในการใช้งานทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะฝนตกน้ำท่วมหรือเข้าพื้นที่เกษตรกรรม

• เครื่องยนต์: 2.8 GD Super Power (1GD-FTV) High Power รุ่นปรับปรุงใหม่ แรงที่สุดในคลาส
• พละกำลัง: 204 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร (สำหรับเกียร์ธรรมดา)
• ช่วงล่าง (โมดิฟายด์): เพลาลอย (Floating Axle) + เสริมแหนบกระดานหนาพิเศษ + โช๊คอัพแกนใหญ่
• ล้อและยาง: ล้อหน้ากระทะเดิมยาง Maxxis / ล้อหลัง กระทะผ่า (Split Rims) ยาง Michelin XCD2 ไซส์ใหญ่
• รูปแบบรถ: กระบะตอนเดียวหัวสั้น (Standard Cab) ติดตั้งคอกสแตนเลสสูง
• ราคา: 399,000 บาท (คุ้มค่าระดับเทพ ได้รถเครื่อง 2.8 ตัวแรง พร้อมชุดแต่งบรรทุกหนักครบชุด)

ขุมพลัง 2.8 ลิตร 204 แรงม้า (The Beast)

นี่คือหัวใจสำคัญ รถตอนเดียวเครื่อง 2.8 หายากกว่า 2.4 มาก และรุ่นปี 2021 ได้รับการปรับจูนเป็น 204 แรงม้า (จากเดิม 177) ทำให้มีกำลังเหลือเฟือสำหรับการลากน้ำหนัก 4-5 ตัน ขึ้นเขาลงห้วยได้สบายโดยไม่ต้องเค้นเครื่องยนต์ ยืดอายุการใช้งาน

---

เพลาลอย (Floating Axle)

การเปลี่ยนเป็นเพลาลอยคือ "ที่สุด" ของสายแบก ช่วยรับน้ำหนักได้มากกว่าเพลาเดิม (Semi-floating) หลายเท่าตัว ลดความเสี่ยงเพลาขาดเมื่อบรรทุกหนักเกิน 3 ตัน และดูแลรักษาง่ายกว่า (ถอดเพลาข้างได้โดยไม่ต้องถอดล้อ)

---

ล้อกระทะผ่า + Michelin XCD2

ล้อกระทะผ่ามีความหนาและแข็งแรงกว่าล้อทั่วไป ผสานกับยาง XCD2 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งยางบรรทุก" แก้มยางหนาพิเศษ ทำให้มั่นใจได้ว่ายางจะไม่ระเบิดง่ายๆ เมื่อต้องแบกน้ำหนักมหาศาล

---

ความสามารถในการบรรทุก (Cargo Capacity)

น้ำหนักบรรทุกที่แนะนำ: 3.0 - 4.5 ตัน (ด้วยสเปคเพลาลอยและแหนบที่เสริมมา)
พื้นที่กระบะ: เปิดโล่งด้านบน (คอก) ทำให้บรรทุกพืชผลทางการเกษตร (ผัก/ผลไม้) ได้สูงเกินหลังคาเก๋ง หรือขนสินค้าที่มีน้ำหนักมากแต่ปริมาตรน้อยได้ดี

เครื่อง 2.8 คือที่สุด: ในตลาดรถตอนเดียวมือสอง ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่อง 2.4 หรือ 1.9 การหาเครื่อง 2.8 ลิตร (204 แรงม้า) ในราคาไม่ถึง 4 แสนบาท ถือว่าคุ้มค่ามาก แรงบิดมหาศาลช่วยให้งานหนักกลายเป็นงานเบา ถนอมเครื่องยนต์ในระยะยาว

เจ็บมาให้แล้ว: การทำรถคอกเพลาลอยต้องใช้งบประมาณสูงและเสียเวลาจูนช่วงล่าง คันนี้ทำมาครบหมดแล้วทั้งเพลา ล้อ แหนบ โช๊ค สามารถนำไปวิ่งงานหนักได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

สรุป: คันนี้คือ "ช้างสาร" แห่งวงการรถคอก ราคาคุ้มค่ามากสำหรับสเปคเครื่องยนต์และของแต่งที่ได้มา ใครที่หารถไปวิ่งงานหนัก วิ่งขึ้นเขาลงดอย คันนี้ตอบโจทย์ที่สุดครับ

• เครื่องยนต์: 2.4 GD Super Power (2GD-FTV) แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมัน
• พละกำลัง: 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร (สูงกว่ารุ่นเกียร์ธรรมดาที่มี 343 นิวตัน-เมตร)
• ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 6 สปีด (Sequential Shift) หาได้ยากในรถตอนเดียว
• รูปแบบรถ: กระบะตอนเดียวหัวสั้น (Standard Cab) ติดตั้งตู้ทึบสแตนเลส ความสูง 2.10 เมตร
• ออพชั่นภายใน: หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto (เฉพาะรุ่นปี 2020 ขึ้นไป)
• ราคา: 369,000 บาท (คุ้มค่าที่สุด ได้รถเกียร์ออโต้หายาก ในราคาที่ถูกกว่ารถเกียร์ธรรมดาบางคัน)

เกียร์อัตโนมัติ (The Game Changer)

ปกติรถตอนเดียวจะเป็นเกียร์ธรรมดา แต่คันนี้เป็นเกียร์ออโต้ ช่วยให้คนขับไม่เมื่อยล้าเมื่อต้องขับส่งของในเมืองที่รถติดหนักๆ หรือวิ่งงานทางไกลก็ใช้รอบเครื่องต่ำ ประหยัดน้ำมัน

---

แรงบิด 400 Nm

รุ่นเกียร์ออโต้ของ Revo จะถูกจูนให้มีแรงบิดสูงกว่าเกียร์ธรรมดา (400 vs 343 Nm) ทำให้มีกำลังฉุดลากตอนออกตัวดีกว่าเมื่อบรรทุกหนัก

---

ตู้สูง 2.10 เมตร (Standard Logistic)

ความสูงระดับนี้เป็นมาตรฐานยอดนิยมสำหรับงานขนส่งพัสดุ (Flash/Kerry/J&T) หรือขนย้ายหอพัก จุของได้เยอะมาก และมีสปอยเลอร์หัวเก๋งช่วยลู่ลม

---

ปริมาตรและมิติกระบะบรรทุก

มิติภายในตู้: กว้าง 1.65 - 1.70 ม. x ยาว 2.30 ม. x สูง 2.10 ม.
ปริมาตรบรรทุกรวม (Volume): ประมาณ 8.0 - 8.2 ลูกบาศก์เมตร (CBM)
ความจุสินค้า: บรรทุกกล่องพัสดุได้เต็มพิกัด หรือสินค้าเฟอร์นิเจอร์ทรงสูงได้สบาย

Rare Item เกียร์ออโต้: รถกระบะตอนเดียวเกียร์ออโต้ในตลาดมือสองมีน้อยมาก (1 ใน 100 คัน) ใครที่หารถให้แฟนขับ หรือขับเองในเมือง คันนี้คือช้างเผือกครับ

สมรรถนะที่เหนือกว่า: ได้เครื่องยนต์ที่มีแรงบิด 400 Nm (เท่ากับรุ่นยกสูง) ซึ่งแรงกว่ารุ่นเกียร์ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด เร่งแซงมั่นใจกว่า

ราคาถูกเหลือเชื่อ: ราคา 369,000 บาท ปกติราคานี้จะได้แค่รุ่นเกียร์ธรรมดา แต่นี่ได้เกียร์ออโต้ปี 2020 ที่ราคาป้ายแดงแพงกว่ากันหลายหมื่น ถือว่าคุ้มค่าการลงทุนมาก

สรุป: หากคุณต้องการรถขนส่งที่ "ขับสบาย แรงดี และราคาถูก" คันนี้คือคำตอบเดียวที่จบที่สุด ไม่ต้องไปหาเกียร์ธรรมดามาเหยียบคลัตช์ให้ปวดเข่าครับ

• เครื่องยนต์: 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 (RZ4E-TC) ทนทาน ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
• รูปแบบรถ: กระบะตอนเดียวติดตั้งตู้ทึบอลูมิเนียม ความสูง 2.0 เมตร (ขนาด Safe Zone เข้าเมืองง่าย)
• ช่วงล่าง: เดิมโรงงาน รองรับน้ำหนักบรรทุกมาตรฐาน
• ล้อและยาง: ล้อกระทะเหล็ก พร้อมยาง Firestone Destination (คุณภาพดี)
• ภายใน: เบาะไวนิล, กระจกมือหมุน (Manual Window) ทนทาน ค่าซ่อมต่ำ

ความสูงตู้ 2.0 เมตร (Standard & Agile)

ความสูงระดับ 2 เมตร เป็นขนาดที่ "Safe Zone" ที่สุดสำหรับการขนส่งในเมือง สามารถลอดใต้อาคารพาณิชย์บางแห่ง หรือเข้าซอยที่มีกิ่งไม้ต่ำได้ง่ายกว่าตู้ 2.15 เมตร แรงต้านลมน้อยกว่า ทำให้ประหยัดน้ำมันกว่าในการวิ่งทางไกล

---

โครงสร้างตู้แข็งแรง

โครงสร้างคานเหล็ก/อลูมิเนียมที่ถี่และแข็งแรง บุผนังด้านข้างด้วยไม้อัด ช่วยป้องกันสินค้ากระแทกตัวถังตู้จากด้านใน ไม่ให้ตู้บุบเสียหายง่าย

---

รุ่น B คือความคุ้มค่า

การเป็นเกรด B (ตัวเริ่มต้น) หมายความว่าระบบไฟฟ้าซับซ้อนถูกตัดออก (เช่น มอเตอร์กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อค) เหลือเพียงกลไกพื้นฐาน (มือหมุน กุญแจไข) ซึ่งทนทานกว่าและค่าซ่อมถูกมาก ในระยะยาว เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานหนักและให้ลูกน้องขับ

ความสูงภายในตู้: 2.00 เมตร
ความกว้างภายใน: ประมาณ 1.70 เมตร
ความยาวภายใน: ประมาณ 2.30 - 2.40 เมตร
ปริมาตรบรรทุกรวม (Volume): ประมาณ 7.8 - 8.0 ลูกบาศก์เมตร (CBM)
ความจุสินค้า: เพียงพอสำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค พืชผลทางการเกษตร หรือพัสดุภัณฑ์ทั่วไป

สภาพเดิมโรงงาน: รถคันนี้ดู "ช้ำน้อย" มาก สภาพเดิมๆ ไม่มีรอยแกะหรือดัดแปลงเครื่องยนต์ ซึ่งหายากในรถคอก/รถตู้ที่มักจะถูกใช้งานหนัก

ราคาประหยัดที่สุด: ราคา 359,000 บาท สำหรับรถปี 2020 พร้อมตู้ ถือเป็นราคาที่จับต้องได้ง่ายที่สุด ช่วยลดต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ของธุรกิจ ทำให้จุดคุ้มทุน (Break-even point) มาถึงเร็วขึ้น

ตู้ 2 เมตร ใช้งานครอบคลุม: ไม่สูงจนต้านลม ไม่เตี้ยจนใส่ของได้น้อย เป็นขนาดที่ "พอดีคำ" สำหรับรถรับจ้างทั่วไปหรือรถส่งของในกิจการ

สรุป: คันนี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจที่ต้องการ "ลดความเสี่ยง" เรื่องเงินลงทุน รถสภาพสดใหม่ เครื่องยนต์ทนทาน และไม่มีระบบไฟฟ้าจุกจิกกวนใจ พร้อมสร้างรายได้ทันทีครับ

• เครื่องยนต์: 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 (RZ4E-TC) ประหยัดน้ำมันและทนทาน
• รูปแบบรถ: กระบะตอนเดียวติดตั้งตู้ทึบอลูมิเนียม (Dry Box) ความสูงพิเศษ 2.15 เมตร
• ความจุ: ตู้สูงพิเศษ จุได้มากกว่าตู้มาตรฐานเกือบ 20% เหมาะกับสินค้า Bulky Cargo
• อุปกรณ์เสริม: วิทยุ Pioneer และ เกจ์วัดบูสต์ (Boost Gauge) หน้าน้ำมัน
• ราคา: 379,000 บาท (คุ้มค่า ได้รถปีใหม่ สภาพดี พร้อมตู้ไซส์ใหญ่)

ตู้สูง 2.15 เมตร (King of Volume)

ความสูงระดับนี้ถือว่า "สุดเพดาน" ของรถกระบะบรรทุกทั่วไป จุดเด่นคือ ปริมาตรความจุที่มหาศาล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักเบาแต่กินที่ (Bulky Cargo) เช่น เฟอร์นิเจอร์, ที่นอน, กล่องพัสดุไปรษณีย์, พลาสติกขึ้นรูป หรือโฟม ช่วยให้ขนได้จำนวนชิ้นงานต่อเที่ยวมากกว่าตู้มาตรฐาน

---

เกจ์วัดบูสต์ (Boost Meter)

คันนี้ติดตั้งเกจ์วัดบูสต์หน้าน้ำมันมาให้ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับรถบรรทุก ช่วยให้คนขับรู้จังหวะการทำงานของเทอร์โบ ไม่เหยียบแช่หรือเค้นเครื่องยนต์มากเกินไป ช่วยยืดอายุการใช้งานของเทอร์โบและเครื่องยนต์

---

ความคุ้มค่าของรุ่น B

รุ่น B เป็นรุ่นเริ่มต้นที่ตัดระบบไฟฟ้าออก (กระจกมือหมุน) ทำให้ดูแลรักษาง่ายที่สุด ไม่มีมอเตอร์กระจกให้เสีย จุกจิกน้อย เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการที่เน้นลดต้นทุนค่าซ่อมบำรุงระยะยาว

มิติและปริมาตร

ความสูงภายในตู้: 2.15 เมตร
ความกว้างภายใน: ประมาณ 1.70 เมตร
ความยาวภายใน: ประมาณ 2.40 เมตร
ปริมาตรบรรทุกรวม (Volume): ประมาณ 8.7 - 8.8 ลูกบาศก์เมตร (CBM)

---

ความจุสินค้า

จุได้มากกว่าตู้มาตรฐาน (1.8 เมตร) ถึงเกือบ 20% หมายความว่าคุณอาจลดจำนวนเที่ยววิ่งลงได้ 1 เที่ยวในทุกๆ 5 เที่ยว ประหยัดต้นทุนระยะยาว

ตู้สูงพิเศษ 2.15 เมตร: หาได้ยากในตลาดรถมือสอง ใครที่วิ่งงานขนส่งสินค้าเบาแต่ชิ้นใหญ่ (เช่น พลาสติก, โฟม, เฟอร์นิเจอร์) คันนี้คือคำตอบที่ตรงโจทย์ที่สุด

สภาพภายในสะอาดและมีของแต่ง: การมีเกจ์วัดบูสต์แสดงให้เห็นว่าเจ้าของเดิมอาจจะมีความรู้เรื่องรถและดูแลรักษาเครื่องยนต์ระดับหนึ่ง และวิทยุ Pioneer ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้ดี

ราคาประหยัด: ด้วยราคา 379,000 บาท แลกกับรถปี 2020 และตู้ที่พร้อมใช้งาน คุณประหยัดเงินกว่าออกรถใหม่ไปถึง 2 แสนบาท นำเงินส่วนต่างไปเติมน้ำมันวิ่งงานได้เป็นปี

สรุป: เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่เน้น "ปริมาณขนส่งต่อเที่ยว" สูงสุด หรือวิ่งงาน Logistic ที่คิดค่าจ้างตามปริมาตร (CBM) คันนี้จะช่วยสร้างกำไรให้คุณได้มากกว่ารถตู้เตี้ยแน่นอนครับ

• เครื่องยนต์: 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 (RZ4E-TC) ประหยัดน้ำมัน ทนทาน
• รูปแบบรถ: กระบะตอนเดียว ติดตั้งหลังคาสแตนเลส (ตู้ทึบ) ความสูง 2.10 เมตร (ของใหม่)
• ความคล่องตัว: วงเลี้ยวแคบ ขับในซอยแคบๆ ได้ง่ายกว่ารถบรรทุก 4 ล้อใหญ่
• ช่วงล่าง: แหนบแผ่นซ้อน รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี
• ราคาประหยัด: รุ่น B ตัดออพชั่นไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออก ทำให้ดูแลรักษาง่าย ค่าซ่อมต่ำ

ความสูงตู้ 2.10 เมตร (จุดขายสำคัญ)

ความสูงระดับนี้เป็นขนาดมาตรฐานยอดนิยมสำหรับการขนส่งพัสดุ (Shopee/Lazada), ขนส่งเฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าที่มีน้ำหนักเบาแต่กินพื้นที่เยอะ (Bulky Cargo) ช่วยให้จุของได้มากกว่าตู้เตี้ย คุ้มค่าเที่ยววิ่งมากกว่า

---

หลังคาสแตนเลสของใหม่

วัสดุสแตนเลส (หรืออลูมิเนียมเกรดสูงในบางส่วน) มีความทนทานต่อสนิม น้ำหนักเบากว่าเหล็ก ช่วยให้รถไม่แบกน้ำหนักตัวรถเปล่ามากเกินไป ประหยัดน้ำมัน และที่สำคัญคือเป็นของใหม่ อายุการใช้งานยาวนาน

---

ปริมาตรและมิติกระบะบรรทุก

มิติภายในตู้: กว้าง 1.70 ม. x ยาว 2.30-2.40 ม. x สูง 2.10 ม.
ปริมาตรบรรทุกรวม (Volume): ประมาณ 8.2 - 8.5 ลูกบาศก์เมตร (CBM)
ความจุสินค้า: จุกล่องพัสดุได้มหาศาล หรือขนย้ายหอพัก/บ้านขนาดเล็กได้ในเที่ยวเดียว

ราคาถูกจนน่าตกใจ: ราคา 359,000 บาท สำหรับ Isuzu D-Max ปี 2020 (โฉมปัจจุบัน) ถือว่าถูกมาก ปกติราคานี้จะได้แค่โฉมเก่า (Blue Power 1.9 ตัวแรก) แต่นี่ได้โฉมใหม่ แชสซีใหม่

ได้ตู้ใหม่ฟรี: การได้ตู้ทึบของใหม่แถมมาด้วย ช่วยประหยัดเงินสดไปได้อีก 2-3 หมื่นบาท และไม่ต้องเสียเวลารอคิวทำตู้ เอาไปวิ่งงาน Shopee/Lazada หรือรับจ้างขนของได้ทันที

ความสูง 2.10 เมตร คือ Golden Size: ความสูงนี้เข้าห้างบางแห่งได้ (อาคารส่งของ) และจุของได้เยอะที่สุดโดยที่ไม่ต้านลมจนน่าเกลียด เป็นความสูงที่ยืดหยุ่นที่สุดสำหรับการรับงานทั่วไป

สรุป: เป็นรถทำเงินที่ต้นทุนต่ำมาก เหมาะสำหรับคนเริ่มทำธุรกิจขนส่ง หรือต้องการรถคันที่ 2-3 ในทีมงาน คืนทุนไว สภาพรถสดใหม่ และดูแลรักษาง่ายที่สุดในบรรดารถกระบะตอนเดียวครับ

• เครื่องยนต์: 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 (รหัส RZ4E-TC) ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
• พละกำลัง: 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร
• ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ (Genius Sport Shift)
• โครงสร้าง: แพลตฟอร์ม Isuzu Dynamic Drive Platform แข็งแกร่ง ทนทาน
• ช่วงล่าง: ด้านหน้าอิสระปีกนก 2 ชั้น ด้านหลังแหนบแผ่นซ้อนเน้นการบรรทุก
• ความปลอดภัย: ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (Dual SRS Airbags), ระบบเบรก ABS/EBD/BA

เครื่องยนต์ 1.9 Gen 2

เป็นเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดให้มีการตอบสนองดีขึ้น ออกตัวเร็วขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์เรื่องความประหยัดน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาต่ำ และทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถไว้ใช้งานทำเงินหรือขับขี่ทั่วไป

---

ห้องโดยสาร Space Cab & ดีไซน์

พื้นที่แค็บเปิดได้กว้างขวาง ช่วยให้การขนของชิ้นเล็กเข้าห้องโดยสารหรือการรับส่งผู้โดยสารระยะสั้นทำได้สะดวกกว่ารุ่นตอนเดียว รุ่น S ปี 2020 ได้หน้าตาแบบ All-New ที่ดูดุดันขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่ ช่วยระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม

---

ปริมาตรห้องเก็บสัมภาระ (กระบะท้าย)

มิติกระบะท้าย: ประมาณ 1,530 x 1,495 x 490 มิลลิเมตร
พื้นที่ใช้งาน: สามารถวางพาเลทมาตรฐานได้ และมีความลึกของกระบะที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้จุของได้ปริมาตรมากขึ้น รองรับน้ำหนักบรรทุกมาตรฐานได้ 1-1.5 ตันสบายๆ

ความสดใหม่: รถปี 2020 คือโฉม All-New ปัจจุบัน (Gen 3) หน้าตายังดูทันสมัย ไม่ตกรุ่น ใช้ได้อีกยาวนาน 7-10 ปีสบายๆ

ราคาที่คุ้มค่าที่สุด: ด้วยงบประมาณ 399,000 บาท ปกติจะได้แค่โฉมเก่า (1.9 Blue Power ตัวแรก) แต่คันนี้ได้โฉมใหม่ แชสซีใหม่ ช่วงล่างใหม่ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย

สรุป: เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ที่หารถกระบะแค็บปีใหม่ๆ ไว้ใช้งานจริงจัง หรือนำไปวิ่งงานขนส่ง เพราะต้นทุนรถต่ำ (ซื้อถูก) และต้นทุนการวิ่งต่ำ จากเครื่องยนต์ 1.9 ที่ประหยัดน้ำมันครับ

• เครื่องยนต์: ดีเซล 1.9 ลิตร Gen 2 (RZ4E-TC) 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร (แชมป์ประหยัดน้ำมัน)
• รุ่นย่อย: Spark S (รุ่นเริ่มต้น เน้นการใช้งานทนทาน ระบบไฟฟ้าน้อย ดูแลง่าย)
• ระบบเกียร์: ธรรมดา 6 สปีด (Genius Sport Shift) อัตราทดดีเยี่ยม ออกตัวบรรทุกหนักได้สบาย
• อุปกรณ์บรรทุก: ตู้ทึบความสูง 1.80 เมตร (ความสูงมาตรฐานงานขนส่ง) ประตูท้ายเปิด 2 บาน
• ปีรถ: 2023 (รถปีปัจจุบัน สภาพสดใหม่)
• ราคา: 399,000 บาท (ราคานี้สำหรับรถปี 2023 พร้อมตู้ ถือว่าถูกมาก)

ตู้ทึบความสูง 1.80 เมตร (Logistic Standard)

ความสูง 1.80 เมตร คือ "พิมพ์นิยม" ของวงการขนส่งพัสดุ (เช่น Kerry, Flash, J&T) เพราะจุของได้เยอะมาก (วางกล่องซ้อนได้สูง) แต่รถไม่ต้านลมจนเกินไปเหมือนตู้ 2.10 เมตร ทำให้ประหยัดน้ำมันกว่า และยังพอมุดลอดสะพานหรือกันสาดบางแห่งได้ง่ายกว่า

---

รถปี 2023 สภาพใหม่กริ๊บ

การซื้อรถปี 2023 ในราคานี้ เหมือนคุณได้รถใหม่แต่จ่ายในราคามือสอง สภาพเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และภายในยังสดมาก แทบไม่ต้องเผื่อเงินซ่อมบำรุง สามารถใช้งานหนักต่อเนื่องได้ทันที

---

เครื่องยนต์ 1.9 Blue Power (ขวัญใจเถ้าแก่)

ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมันที่สุดในตลาด ทนทาน ไม่จุกจิก อะไหล่หาง่าย และราคาขายต่อแข็งโป๊ก เป็นเครื่องยนต์ที่สร้างกำไรให้ผู้ประกอบการได้ดีที่สุด

---

ปริมาตรในการบรรทุก (สเปคยอดฮิต)

มิติภายในตู้ (ประมาณการ): กว้าง 1.7 ม. x ยาว 2.4 ม. x สูง 1.8 ม.
ปริมาตรรวม: ประมาณ 7.3 คิว (ลูกบาศก์เมตร)
ความจุเทียบเท่า: สามารถวางกล่องพัสดุไซส์มาตรฐานได้เต็มคันรถ หรือบรรทุกสินค้าเกษตร/เฟอร์นิเจอร์ได้สบายๆ ประตูท้ายเปิดกว้าง ขนถ่ายสินค้าสะดวก

ความคุ้มค่า: ด้วยราคา 399,000 บาท คุณได้รถกระบะปี 2023 (รถปีเดียว) ที่มีตู้ทึบพร้อมใช้งาน ถ้าคุณออกรถป้ายแดงสเปคเดียวกันนี้ คุณต้องจ่ายเงินดาวน์และผ่อนรวมดอกเบี้ยแพงกว่าคันนี้หลายแสนบาท การซื้อคันนี้ช่วยลดต้นทุนธุรกิจของคุณได้ทันที ทำให้คืนทุนไวขึ้นมาก

ประโยชน์ที่จะได้รับ: รถคันนี้เหมาะมากสำหรับ ผู้รับเหมาขนส่ง (Sub-contract) ที่วิ่งร่วมกับบริษัทพัสดุต่างๆ เพราะสเปคตู้ 1.80 เมตร ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทุกค่าย เครื่อง 1.9 ประหยัดน้ำมันช่วยเพิ่มกำไรต่อเที่ยว และรุ่น Spark S เป็นรุ่นที่ดูแลรักษาง่ายที่สุด ระบบไฟฟ้าน้อย ทนทานสู้งานหนักครับ

• เครื่องยนต์: ดีเซล 2.4 ลิตร (2GD-FTV) 150 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร (ประหยัด ทนทาน)
• เกียร์: ธรรมดา 6 สปีด (ขับสนุก อัตราทดดีเยี่ยมสำหรับงานบรรทุก)
• รุ่นย่อย: J Plus (รุ่นท็อปของหัวเดี่ยว ได้กระจกไฟฟ้า/เซ็นทรัลล็อค/กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า มาจากโรงงาน)
• อุปกรณ์ทำความเย็น: ตู้ MPC COOL ความสูงพิเศษ 1.50 เมตร + คอยล์เย็นพัดลม 2 ตัว
• ช่วงล่าง: โช๊คอัพแกนใหญ่ (สีแดง) + ยาง Bridgestone Duravis R624 (สเปคบรรทุกหนัก)
• ราคา: 379,000 บาท (ราคาเข้าถึงง่ายมาก สำหรับรถปี 2020 พร้อมตู้)

ตู้ MPC COOL ความสูง 1.50 เมตร (City Spec)

ตู้ความสูงนี้คือ "อาวุธลับ" สำหรับการขนส่งในเมืองใหญ่ เพราะสามารถ "เข้าอาคารจอดรถ" หรือพื้นที่จำกัดความสูงได้ดีกว่ารถตู้สูงทั่วไป (ที่มักจะติดเพดาน) เหมาะมากสำหรับงานส่งของตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือคอนโดมิเนียม โดยยังคงรักษาความเย็นได้ดีเยี่ยมด้วยแบรนด์ MPC

---

รุ่น J Plus (ออปชั่นครบ ไม่ต้องหมุนกระจก)

แตกต่างจากรุ่น J ปกติที่เป็นกระจกมือหมุน รุ่น J Plus ให้ความสะดวกสบายกว่าด้วยกระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อค และกระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ทำให้คนขับทำงานได้สะดวกขึ้น ลดความเหนื่อยล้าในการใช้งานทั้งวัน

---

ช่วงล่างเซ็ตมาจบ

คันนี้เปลี่ยนโช๊คอัพคู่หลังเป็นแบบแกนใหญ่ เพื่อรับน้ำหนักและลดอาการโยนตัว พร้อมใส่ยาง Bridgestone Duravis R624 ซึ่งเป็นยางบรรทุกเกรดพรีเมียม ทนทานและเกาะถนนดีเยี่ยม พร้อมวิ่งงานหนักได้ทันที

ปริมาตรในการบรรทุก (ขนาดกะทัดรัด แต่จุใจ)

มิติภายในตู้ (ประมาณการ): กว้าง 1.7 ม. x ยาว 2.4 ม. x สูง 1.5 ม.
ปริมาตรรวม: ประมาณ 6.1 คิว (ลูกบาศก์เมตร)
ความจุเทียบเท่า: ใส่กล่องโฟมหรือตะกร้าสินค้าได้ประมาณ 60-80 ใบ (ขึ้นอยู่กับขนาด) เหมาะกับงานกระจายสินค้า (Last Mile Delivery)

---

อุณหภูมิที่สามารถทำได้ (MPC COOL 2 Fans)

อุณหภูมิ: ทำได้ถึง -15 ถึง -18 องศาเซลเซียส (แช่แข็งทั่วไป/แช่เย็น)
ระบบ: พัดลมคู่ (2 Fans) เพียงพอสำหรับพื้นที่ตู้ขนาด 1.50 เมตร เย็นเร็วและทั่วถึง ควบคุมอุณหภูมิแม่นยำด้วยกล่อง Digital Controller ในห้องโดยสาร

ความคุ้มค่า: ด้วยราคาเพียง 379,000 บาท คุณได้รถปี 2020 (รถ 3-4 ปี) ที่มาพร้อมตู้เย็น MPC และช่วงล่างบรรทุกครบชุด ประหยัดเงินทุนในการออกรถไปได้ถึง 400,000 บาท เมื่อเทียบกับรถใหม่ เป็นทางเลือกที่ฉลาดมากสำหรับ SME หรือผู้เริ่มทำธุรกิจขนส่ง

ประโยชน์ที่จะได้รับ: "ตู้เตี้ย เข้าได้ทุกที่" คือนิยามของคันนี้ คุณจะได้รับงานที่รถตู้สูงๆ รับไม่ได้ เช่น ส่งของในห้าง ส่งอาหารสดเข้าโรงแรมชั้นใต้ดิน หรือวิ่งงานในซอยแคบๆ ที่มีกิ่งไม้ต่ำ เครื่องยนต์ 2.4 Revo ประหยัดและทนทาน อะไหล่หาง่าย ซื้อไปวันนี้ พรุ่งนี้รับงานได้เลยครับ