ดูแลปัญหากลิ่นอับภายในรถในช่วงหน้าฝน

ปัญหาของคนใช่รถที่มาพร้อมๆหน้าฝนนั่นก็คือ กลิ่นอับภายในรถยนต์ที่หลายๆคนถึงกับแก้ปัญหาไม่ตก สาเหตุเกิดจากความชื้นสะสมทั้งผ้าที่เปียกชื้นและพรมห้องโดยสาร ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดแบคทีเรียและเชื้อราสะสมจนทำให้เกิดกลิ่นอับภายในรถของคุณ

วิธีขจัดกลิ่นอับภายในรถเริ่มต้นจากการสำรวจรถของคุณว่ากลิ่นอัพเกิดขึ้นจากส่วนไหนภายในรถ

ภาพจาก Pantip.com

พื้นพรมใต้เท้าชื้นและมีกลิ่น

ในกรณีของพื้นพรมน้ำซึมอาจจะเกิดจากน้ำเข้ารถจากการลุยน้ำท่วม หรือเปิดกระจกทิ้งไว้ในช่วงหน้าฝน วิธีแก้ปัญหาที่จะทำให้พื้นแห้งสนิทอาจจะมีหลายๆวิธี แต่วิธีที่ดีที่สุดหรือการใช้ไดรเป่าผมของคุณผู้หญิงนี่แหละ เป็นวิธีที่ง่ายและดีที่สุด

ความชื้นที่เบาะผ้า

แน่นอนว่าเบาะผ้าเป็นอุปกรณ์ภายในรถที่แก้ปัญหายากที่สุดเพราะลักษณะภายในของเบาะนั้นเป็นฟองน้ำซึ่งเราทราบกันดีว่าฟองน้ำนั้นเก็บน้ำได้ดีและยาวนานมากๆจึงทำให้เกิดกลิ่นอับในระยะเวลาที่ยาวนาน

เบาะกำมะหยี่ เริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ฝงซักฟอกที่มีสารจำพวกซิลเวอร์นาโน เพราะจะช่วยในเรื่องของการกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์และยังยับยั้งแบคทีเรียสะสมภายในเส้นใยของผ้าอีกด้วย โดยเริ่มต้นจากการผสมน้ำเล็กน้อย และใช้ผงซักฟอกขัดตามจุดที่เปียกแล้วค่อยๆน้ำผ้าชุมน้ำเช็ดออกจนหมด

เบาะผ้า ให้นำไม้แขวนเสื้อหรืออุปกรณ์ที่หาง่ายๆ มาตีเบาะให้ฝุ่นละอองกระจายให้ได้มากที่สุดจากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์ซักเบาะผ้าแแล้วใช้ไดรเป่าให้แห้งและข้อควรระวันคือการใช้ความร้อนไม่ควรสูงจนเกินไป

เบาะหนัง ให้ความสะอาดด้วยผ้าหมาดๆ หากมีคราบน้ำหรือสกปรกมากก็ให้ใช้น้ำผสมสบู่ กับแปรงสีฟันแล้วนำผ้ามาเช็ดออกให้สะอาด

ของใกล้ๆตัวก็สามารถดับกลิ่นหรือสร้างบรรยากาศภายในรถให้ดีขึ้นได้

  • เริ่มต้นจากการใช้ใบเตยม้วนเป็นกำ ก็สามารถลดกลบกลิ่นอับได้เหมือนกัน
  • ใช้กากกาแฟการใช้ถ่านหุงข้าวหรือใบชาแห้งดับกลิ่นทิ้งไว้เมื่อไม่ได้ใช้รถ
  • ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ อัตราส่วน 1:1 แล้วฉีกสเปรย์ให้ทั่วๆทิ้งไว้ 1 คืนก็สามารถทำให้กลิ่นเหม็นเบาลงได้เช่นกัน
  • การใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ ดูดกลิ่นความชื้น

สิ่งที่ต้องห้ามและไม่ควรนำไว้ในรถ

การใช้น้ำหอม การบูนหรือพิมเสน นั้นไม่ควรนำไว้ในรถ เพราะน้ำหอมหรือการบูรสามารถดำกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ก็จริงแต่ มีผลเสียมากกว่าผลดีเพราะโทษของเครื่องหอมเหล่านี้จะหมุนเวียนอยู่ในระบบแอร์เป็นเมือกทำให้มีการอุดตันในระบบทำความเย็น

การสูดดมสารเคมีเหล่านี้เป็นระยะเวลานานๆ ไม่ใช่แค่มึนศรีษะเท่านั้นแต่จะทำอันตรายต่อโพลงจมูก ผิวและดวงตา นอกจากนี้พิเสนที่ระเหยจากความร้อนจะเป็นอันตรายต่อระบบหายใจและยังสามารถเป็นสาเหตุก่อมะเร็งขนิดหนึ่งได้ด้วย

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม:

10 อ๊อฟชั่นภายในรถ มีก็ดีไม่มีก็ได้

1. Navigator

Navigator หรือ ระบบแผนที่นำทาง จะเห็นว่าบางรุ่นทางศุนย์มักจะใส่มาให้ในตัวท๊อปๆ บางรุ่นก็อาจจะต้องเพิ่มเงินเพื่อเพิ่มอ๊อฟชั่นในส่วนนี้ ซึ่งจะมาคู่กับจอสัมผัสของแบรนด์นั้นๆ หลายๆคนอาจจะใช้อยู่บ้างหลังจากที่ซื้อรถมาใหม่ๆ แต่เมื่อใช้ไปซักพักจะมารู้ว่าค้นหาเส้นทางบนมือถือนั้นง่ายและถนัดและดูง่ายกว่า เพราะเชื่อว่าทุกคนนั้นมีสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน๊ตไร้สายแทบจะทุกคนอยู่แล้ว

2. Start/Stop Engine

Start/Stop Engine ถือว่าเป็นระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์เมื่อเหยียบเบรคและจอดหยุดนิ่งและจะทำงานเมื่อผู้ขับปล่อยเบรคระบบนี้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีการแข่งขันในเรื่องของความประหยัดพลังงานรถยนต์รุ่นไหนมี ซึ่่งรุ่นไหนมีความประหยัดมากกว่าก็จะถูกจับตามองเป็นพิเศษระบบเครื่องยนต์ก็จะหยุดทำงานชั่วคราว อันที่จริงแล้วเป็นระบบอ๊อฟชั่นที่มีโทษมากกว่ามีประโยชน์ซะอีก เพราะทุกครั้งที่ระบบตัดการทำงานจะต้องสตาร์ทเครื่องขึ้นมาใหม่ ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยด้วยแล้ว อาจจะทำให้ไดรสตาร์ทนั้นเกิดความร้อนและเสียหายได้

3.ไฟประดับภายในห้องโดยสาร Fiber Optical line

ไฟเบอร์นำแสงปรับดับภายในห้องโดยสาร เรียกว่าเป็นฟังค์ชั่นที่นานๆ จะใช้ซักครั้งโดยส่วนใหญ่จะพบในรถยนต์หรูอย่าง Mercedes Benz และถูกเรียกว่า Ambient Light Color รุ่นใหม่ที่ใส่มาให้จากศูนย์ หลายๆคนมักจะบ่นว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างระคาณสายตาในเวลากลางคืนแต่ก็ไม่ได้แย่มากมายอะไร

4.กระจกไฟฟ้าขึ้นลงอัตโนมัติ

ในรถหลายๆรุ่นจะมีกระจกไฟฟ้าอัตโนมันติที่ให้มาจากโรงงานซึ่งความพิเศษของมันก็คือ สามารถกดขึ้นหรือลงได้ในจังหวะสั้นๆ แต่บางครั้งต้องการเปิดแค่ครึ่งเดียวหรือไม่ต้องการเปิดกว้างเนื่องจากภายนอกอาจจะมีฝนตกก็อาจจะทำให้ไหล่เปียกถึงขั้นหงุดหงิดเล็กๆได้เช่นกัน

5.ระบบคำสั่งด้วยเสียง

ระบบคำสั่งเสียงหรือจะมาสู้มือกดได้ เพราะบางสิ่งนั้นยังไม่สามารถทดแทนการกดได้อย่างทันใจด้วยปัจจัยหลายๆอย่างเช่นสำเนียงการสั่งงานหรือการถ่ายทอดคำสั่งเสียงที่ผิดเพี้ยนจนได้ผลเป็นคำสั่งอื่นแทน

6.ระบบเตือนรัดเข็มขัด

เรียกว่าเป็นระบบที่มากับกฎระเบียบของการใช้รถใช้ถนน แต่กลับไม่ใส่ใจในเสียงเตือนแถมรำคาณซะด้วยบางคนถึงขั้นถอดปลั๊กเสียงเตือนใต้เบาะออก แอดมินไม่แนะนำให้ขับขี่ในขณะที่ไม่รัดเข็มขัดนิรภัยนะครับ

7.Paddle Shift

ถือว่าเป็นฟังค์ชั่นสุดแสนจะน่าน้อยในสำหรับผู้ประดิษฐ์คิดค้น เพราะ Paddle Shift เป็นถือเป็นฟังค์ชั่นในรถสปอร์ทหลายๆรุ่นที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละจังหวะรวดเร็วและคล่องตัว แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ค่อยจะมีประโยชน์ในรถบ้านและรถประเภท City Car ซักเท่าไหร่แต่ก็จะเห็นในรถตัว TOP หลายๆรุ่น เอาง่ายๆ ว่ามันค่อนข้างจะใช้งานยากกับรถที่มีเครื่องยนต์หน่วงๆอย่างรถบ้านจึงทำให้ช่วงหลังๆ คนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ Paddle Shift ซักเท่าไหร่ครับ

8.เก้าอี้ปรับระบบไฟฟ้า

เป็นอีกสิ่งหนึ้งที่หลายๆคนพูดเป็นเสียงเดียวเลยว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้เพราะระบบปรับเก้าอี้แบบไฟฟ้านั้นถึงจะปรับได้อย่างแม่นยำแต่ก็ค่อนข้างจะไม่ทันใจเพราะกว่าจะเลื่อนขึ้นเลื่อนลงก็ใช้เวลาเอามากๆเลยครับ

9.ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง

ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง เป็นระบบที่ผู้ใช้บางคนใช้จนรถพังเปลี่ยนรถใหม่แล้วก็ยังไม่ทราบว่านี่คือปุ่มอะไร เพราะโอกาสในการใช้งานฟังค์ชั่นนี้ค่อนข้างจะน้อยมากๆ เพราะมันจะถูกใช้งานเมื่อมีฝ้าเกาะที่กระจกหลังทำให้มองไม่เห็น สำหรับรถบางรุ่นเมื่อต้องใช้งาน พอเอาเข้าจริงกลับมีประสิทธิภาพที่ไม่ดีเท่าที่ควร

10.เครื่องเล่นแผน CD-DVD

ในยุกต์ที่อินเตอร์เน็ตอยู่ในมือของทุกคนแต่ USB ก็มีบทบาทสำคัญจึงทำให้ระบบต่างๆได้เปลี่ยนไป แผ่น CD ในอดีตก็หายากมากยิ่งขึ้นแต่รถบางรุ่นก็ยังมีมาให้ น้อยคนที่ยังใช้อยู่ เอาเป็นว่าในปัจจุบันคนหันมาเปิดข้อมูลหรือฟังเพลงผ่าน USB Flash Drive หรือเชื่อมสัญญาน BLUETOOTH กับสมาร์ทโฟนกันหมดแล้วครับ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลที่แอดมินได้จากประสบการณ์ของกระทู้ผู้ใช้ใช้ในอินเตอร์เน็ตซึ่งมีความคิดเห็นที่หลากหลาย ฉะนั้นถ้าเพื่อนๆยังมีฟังค์ชั่นอื่นที่คิดว่าไม่จำเป็นสามารถร่วมกันแชร์ประสบการ์และแสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม:

6 ข้อแนะนำ จอดรถในพื้นที่น้ำท่วมต้องทำอย่างไร

สภาพอากาศและพายุนั้นเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และบ่อยครั้งที่ในหลายๆพื้นที่ระบายน้ำไม่ทัน จึงเกิดสาเหตุน้ำท่วมขังและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างจนทำให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหายรวมไปถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง

1.โทรแจ้งประกันในทันที

เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมรถสิ่งแรงที่ควรทำคือการโทรแจ้งประกันในทันทีนะครับ เพื่อเช็คกรมธรรม์ที่คุณถืออยู่ว่ามีการคุ้มครองอุบัติเหตุจากธรรมชาติหรือไม่ ในด้านใดบ้าง เพราะประกันในแต่ละที่จะคุ้มครองแตกต่างกันไป ถ้ามีก็รีบแจ้งทันทีเลยนะครับ

2.เมื่อน้ำสูงกว่าพื้นของรถ ห้ามเปิดประตูรถเด็ดขาด

ในกรณีที่น้ำท่วมสูงกว่าระดับของพื้นรถ เล็กน้อยหรืออยู่ในระดับพื้นรถแอดมินแนะนำว่าไม่ควรเปิดประตูโดยเด็ดขาดเพราะระดับน้ำยังไม่มีแรงดันพอที่จะผ่านยางประตูท่วมห้องโดยสารจนท่วมได้อาจจะมีซึมเล็กๆน้อยๆ ตรงนี้ก็ทำใจนะครับ รอน้ำลดลงเมื่อไหร่ค่อยขับไปเข้าสปาและโอโซนภายใน

3.ห้ามสตาร์ทเครื่องเด็ดขาด เมื่อท่อไอเสียอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำท่วม

การสตาร์ทรถในขณะที่ท่อไอเสียอยู่ต่ำกว่าระดับของน้ำ เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เครื่องพังได้เพราะการเริ่มสตาร์ทอาจจะทำให้น้ำถูดดูดย้อนเข้าท่อไอเสียจนทำให้อุปกรณ์ภายในเครื่องยนต์เสียหายได้ ฉะนั้นก่อนสตาร์ทเครื่องทุกครั้งจะต้องตรวจสอบว่าท่อไอเสียจะต้องไม่จมน้ำหากจำเป็นจะต้องสตาร์ท จะต้องเข็นไปจอดในพื้นที่ ที่ระดับน้ำต่ำกว่าท่อจึงจะสตาร์ทได้

4.ใช้แม่แรงเพื่อยกให้เครื่องอยู่ในระดับสูงกว่าน้ำ

หลายๆท่านอาจจะคิดไม่ถึงว่า แม่แรงที่แถมมากับรถนั้น อันที่จริงแล้วมีประโชยน์มากกว่าใช้ยามฉุกเฉิน ทราบหรือไม่ว่า การใช้แม่แรง ยกหน้ารถเพื่อให้เครื่องยนต์อยู่สูงกว่าระดับน้ำเครื่องยนต์อยู่ด้านไหนก็ยกด้านนั้น สามารถทำได้และได้ผลดีอีกด้วย บางท่านอาจจะใช้อิธ ไม้เพื่อหนุนล้อเพิ่มเติมอย่าลืมดึงเบรคมือด้วยนะครับเพื่อความปลอดภัย

5.ใช้ถุงยางครอบท่อไอเสีย

เรียกว่าถุงยางนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลายการใช้ถุงยางครอบท่อเพื่อลดการพัดน้ำเข้าท่อของรถสูงที่วิ่งผ่านไปผ่านมา เมื่อใช้เสร็จแล้ว อย่าลืมแกะออกด้วยนะครับ มิฉะนั้นอาจจะละลายติดต่อได้

6.ถอดขั้วแบตเตอรี่

การถอดขั้วแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่ต้องทำเพราะระบบของรถยนต์ถึงแม้จะดับเครื่องแต่ไฟฟ้าก็ยังวิ่งอยู่ภายในรถตลอดเวลาฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบต่างๆ ช๊อคจนเกิดความเสียหาย ก็ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อนจะดีกว่าครับ

และนี่ก็เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆสำหรับการดูแลรถในขณะน้ำท่วมรอดผ่านในช่วงมรสุมจนทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายๆพื้นที่ หวังว่าในช่วงมรสุมนี้จะทำให้รถของเพื่อนๆทุกคนปลอดภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมนะครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม

“ติดแบล็คลิสต์ออกรถได้ไหม” คำถามที่พบบ่อย มาดูกัน

รถยนต์ส่วนตัวถือเป็นบัจจัยหลักสำหรับคนไทยเพราะนอกจากจะประหยัดเวลาในการเดินทางแล้วก็ยังสะดวกและสบาย จึงทำให้หลายๆคนอยากจะมีรถส่วนตัว การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ถือเป็นทางเลือกของใครหลายๆคน ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญในการจัดไฟแนนซ์หรือสินเชื่อรถยนต์ซึ่งกำหนดความยากง่ายในการปล่อยสินเชื่อโดยอ้างอิงจากเครดิตของผู้ขอกู้นั่นเอง
สำหรับคนมีเครดิตที่ดีนั้นทางธนาคารก็จะให้สินเชื่อที่สูง จึงมีคำถามตามมาแล้วคนที่ “ติดแบล็คลิสต์สามารถออกรถได้ไหม” เราลองมาทำความเข้าใจกับคำว่า แบล็คลิสต์ในบทความนี้ดูกันครับ

1.แบล็คลิสต์คืออะไร

แบล็คลิสต์คือข้อมูลในฐานระบบบูโรแห่งชาติ เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลสินเชื่อบุคคล ซึ่งบุคคลนั้นจะถูกเก็บข้อมูลวินัยในการชำระหนี้อย่างไร มีสินเชื่อกับสถาบันการเงินใดบ้าง ซึ่งเมื่อข้อมูลทั้งหมดนี้ได้รับการยินยอมจากเจ้าของบัญชีแล้ว สถาบันการเงินอื่นๆก็สามาถเข้ามาตรวจสอบข้อมูลของเราได้ ว่าบุคคลนี้มีการผิดชำระหนี้ ล่าช่ามากกว่า 90 วันหรือไม่ ถ้าหากมีถถือว่าติดแบล็คลิสต์นั่นเอง

2.เมื่อคุณทราบว่าติดแบล็คลิสต์จะต้องทำอย่างไร

การ ติดแบล็คลิสต์ คือการผิดนัดชำระหนี้ เมื่อคุณมีเงินพร้อมที่จะชำระหนี้ที่ผิดนัด ควรจะต้องติดต่อกับสถาบันทางการเงินที่เป็นหนี้อยู่เพื่อขอเคลียยอดหนี้ทั้งหมด เพื่อที่จะทำการปิดบัญชีให้เร็วที่สุด และถีงแม้ว่าคุณได้ชำระหนี้ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วข้อมูลในฐานระบบบูโรแห่งชาติก็จะยังมีรายการย้อนหลังล่าช้านัดชำระหนี้มากกว่า 90 วันอยู่ทำให้มีประวัติเสียประวัติไม่ดีต่อไปก็จะไม่สามารถกู้เงินหรือขอสินเชื่อได้อีก หากมีการชำระหนี้ที่ค้างจนหมด ก็ต้องรอให้ฐานระบบบูโรแห่งชาติ ลบประวัติเสียออกไป ซึ่งจะต้องใชระยะเวลานานประมาณ 3 ปี

3.ติดแบล๊คลิสต์ ออกรถได้ไหม?

เรียกว่าเป็นร้อยละ 60 ของคนอยากออกรถมือสองจะต้องประสบปัญหาเรื่องการติดเครดิตเพราะไม่สามารถออกรถมือหนึ่งได้ รถยนต์มือสองจึงกลายมาเป็นตัวเลือกสุดท้าย ถ้าหากใครกำลังประสบปัญหาในส่วนนี้อยู่แอดมินขอยืนยันเลยว่ายังสามารถออกรถได้ แต่หากจะต้องทำตามเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นมานั่นเอง

  • เตรียมงบประมาณในการดาวน์ 30% ของราคารถเป็นอย่างน้อย(บางสถาบันการเงินอาจจะดาวน์ต่ำสูดเพียงแค่ 5% เท่านั้น นั่นก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของเจ้าหน้าที่กับธนาคาร)
  • จะต้องมีคนค้ำประกันที่มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน 1 คน โดยผู้ค้ำจะต้องเป็นเจ้าบ้าน หรือมีที่ดิน มีโฉนด หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้าน (หรือบางสถาบันการเงินวางสถาบันอาจจะไม่ต้องใช้ผู้ค้ำ และมีเงื่อนไขอื่นๆซึ่งสามารถสอบถามเงื่อนไขเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ปรึกษาการขายรถมือสองได้เลย)
  • มีอาชีพที่มั่นคงชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้โดยจะต้องมีรายได้เกินครึ่งของค่างวด
  • จะร้องมีหนังสือรับรองเงินเดือน หรือ ใบรับรองเงินเดือน
  • สเตทเมนท์จากสถาบันธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน

ในกรณีที่คุณไม่มีเงินจ่ายหนี้หากคุณปล่อยทิ้งเอาไว้คุณจะต้องการเป็นหนี้ที่พอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่เหลือเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ฉะนั้นคุณควรที่จะรีบติดต่อกับทางสถาบันการเงินที่คุณเป็นหนี้อยู่เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และเฉลี่ยหนี้ต่อเดือนของคุณให้น้อยลงไป เพื่อจะได้มีเงินเหลือพอต่อการใช้จ่ายในแต่ละเดือนของคุณ

หากคุณต้องการปรึกษาแก้ไขปัญหาการออกรถเพิ่มเติมติดต่อที่

facebook : https://www.facebook.com/Kitsadagoodcarkdg
หรือโทรติดต่อที่เบอร์ : 080-24-11111
Line: @Kitsadagoodcar
เยี่ยมชมรถมือสอง : https://www.kitsadagoodcar.com

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม :

บรรทุกของท้ายกระบะขึ้นทางด่วนผิดหรือไม่ แล้วทำอย่างไร?

หลายๆคนคงใช้เส้นทางด่วนเพื่อประหยัดในเรื่องของเวลาในการเดินทางอีกทั้งยังสะดวกสบายๆรวมไปถึงการหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด แต่การใช้ทางด่วนนั้นมีกฎมากมายที่จำเป็นจะต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัดเพราะด้วยความเร็วที่บังคับบนทางด่วน เมื่อเกิดปัญหาหรืออุบัติเหตุขึ้นมาจะร้ายแรงกว่าเส้นทางอื่นๆ โดยเฉพาะการขนของที่ท้ายกระบะก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจจะกิดความเสียหายร้ายแรงมากๆ ได้

แต่ไม่ใช่ว่าการขนของที่ท้ายกระบะแล้วใช้ทางด้วน ใช่ว่าจะทำไม่ได้ซะทีเดียวนะครับอันที่จริงแล้วสามารถทำได้แต่จะต้องทำตามข้อกดหนดอย่างเคร่งครัด ดังนี้

หากจำเป็นจะต้องใช้ทางด่วนในการขนของที่ท้ายกระบะจะต้องมีการติดธงสีแดงหรือติดสัญญาณของไฟที่ปลายสุดของวัตถุที่ยื่นออกจากตัวรถ โดยธงนั้นจะต้องมีความกว้างประมาณ 30 ซม. และความยาว 45 ซม. หากในช่วงกลางคืนจำเป็นจะต้องติดไฟสัญญาณสีแดงเพื่อการสังเกตุได้อย่างชัดเจนในระยะ 150 เมตร หากผ่าผืนจะมีโทษปรับ 1,000 บาท สำหรับรถกระบะที่มีวัตถุยื่นออกมานอกตัวรถ ทางกฎหมายการจราจรทางบกได้กำหนดไว้ว่า รถบรรทุกสิ่งของจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์นี้ นั่นคือ ด้านหน้าจะต้องไม่ยื่นเกินหม้อหรือกันชน ส่วนด้านหลังยื่นได้ไม่เกิน 2.50 เมตร หากเป็นรถพ่วงด้านหลังต้องยื่นไม่เกิน 2.50 เมตร สำหรับ ความกว้าง บรรทุกได้ไม่เกินความกว้างของรถ ความสูง กรณีที่รถมีความกว้างเกิน 2.30 เมตร บรรทุกสิ่งของสูงไม่เกิน 3.80 เมตร หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 1,000 บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 5 และมาตรา 18

การใช้ทางด่วน ทางกฎหมายห้ามมิให้มีการบรรทุกคนหลังกระบะ แต่ถ้าหากรถกระบะที่บรรทุกสิ่งของต้องใช้ผ้าคลุมให้มิดชิดผูกมัดให้แข็งแรงเพื่อไม่ให้สิ่งที่บรรทุกนั้นตกหล่นจนอาจจะเกิดความเสียหายกับผู้อื่นนั่นเอง

อ่านสาระเพิ่มเติม :

Nissan Rogue/X-Trail 2021 เผยโฉมอย่างเป็นทางการก่อนวางตลาด

Nissan Rogue/X-Trail 2021 เผยโฉมอย่างเป็นทางการก่อนวางตลาด

ก่อนหน้านี้นิสันได้ประกาศถอดรายชื่อ 3 รุ่นที่จะไม่ผลิตต่อและได้พับสื่อต่างๆของ 3 รุ่นนี้อย่าง Nissan X-TrailNissan Teana และ Nissan Sylphy ให้หายไปจากตลาด นิสันในอเมริกาจึงประกาศเดินหน้าเปิดตัว Nissan Rouge เปแ็นที่แรกในโลก หรือที่ในไทยรู้จักกันในนาม X-Trail นั่นแหละ เรียกว่าในตลาดทางยุโรป Nissan Rouge ไม่ได้มียอดขายต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิง เรียกว่าติด 1 ใน 5 SUV ที่ขายดีที่สุดในตลาด มาครั้งนี้ปรับโฉมครั้งใหญ่ และได้พัฒนาบนแพลทฟอร์ม NMF-C/D (Nissan Module Family) แพลทฟอร์มของ SUV และ Sedan ขนาดกลาง ช่วงหน้ารถถูกปรับปรุงในเรื่องของดีไซน์ทั้งหมด โดยใช้ลักษณะที่โดดเด่นของ Kicks e-Power มาผสมผสานด้วย

มาคราวนี้ตัวถังถูกปรับให้ไซด์เล็กลงแต่ภายในห้องโดยสารกลับมาขนาดที่เท่าเดิมเพราะนิสสันปรับในช่วง Legroom ขึ้น 15 มม. และเพิ่มช่องว่างที่ Headroom มากขึ้นถึง 17.7 มม. แต่สิ่งที่หายไปคือเบาะแถว 3 มีระยะฐานล้อที่สั้นลง ที่ 43.2 มม. ถึงฐานล้อจะสั้นลงแต่ภายในกลับกว้างขึ้น

All New Nissan Rogue/X-Trail เน้นดีไซน์ความหรูหราเป็นหลักโดยใช้วัสดุหนังให้มากกว่ารุ่นก่อนๆที่มีมา และมีการตัดสีให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมกับหน้าจอ Infotianment มาตราฐานขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple Carplay และ Android Auto พร้อมระบบเนวิเกเตอร์ที่สามารถเสริมแพคเกจตกแต่ง SL Premium ได้อีกด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องเสียงแบรนด์ Hi End อย่าง Bose ลำโพง 10 จุด

จอหน้าปัดเป็นเรือนไมล์ขนาด 7 นิ้วในรุ่นมาตราฐาน แต่ในรุ่น Platinum ดิจิต้อลขนาด 12.3 นิ้ว และยังเชื่อมต่อซิงค์เครื่องเล่นแสดงผลการตั้งค่าต่างๆอีกด้วย และในสวนของบริเวณคอนโซลกลางมีพอร์ท USB-A และ USB-C มาให้อีกด้วย

ในรุ่น Premium จกเพิ่มความหรูหราน่าสัมผัสด้วย เบาะหนังกึ่งอนิลินควิลท์ ตัดเย็บและเดินด้ายให้เป็นลายหยดน้ำ สีน้ำตาลเข้มทำให้ดูหรูหราเกินราคา ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Pro Pilot Assist และ Navi-Link และยังรองรับ Google CarPlay แบบไร้สาย และยังให้ระบบชาร์จไฟมือถือไร้สายด้วย Qi Wireless Charging Pad

ขุมพลังสำหรับ Rogue/X-Trail คือเครื่องยนต์รหัส PR25DD บล๊อคใหม่ล่าสุดของทาง Nissan ที่มีขนาด 2.5 ลิตร สี่สูบให้กำลัง 181 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดที่ 245 นิวตันเมตร ส่งกำลังลงที่ล้อหน้าผ่านระบบเกียร์แบบ CVT ทำให้ได้อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 12.75 กิโลเมตรต่อลิตร และ แบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 12.32 กิโลเมตรต่อลิตร และจะถูกวางจำหน่ายในช่วงปี หน้าของโซนอเมริกาเหนือ

อ่านข่าวสารรถยนต์เพิ่มเติม :

เทกระจาด เชฟโรเลต โหมลดล้างสต๊อกสุดท้ายเหลือไม่ถึง 100 คัน

ดีลเลอร์ เชฟโรเลต เคลียล้างสต๊อคลดกระหน่ำล๊อตสุดท้ายก่อนสิ้นสุดสัญญา เผยยังมีแค๊ปติว่า ลด 50% อีกหลายคันที่ยังถูกปฎิเสธอสินเชื่อ โคโลราโด หั่นราคาเหลือเพียง 5.39 แสน ยังมีให้ซื้ออยู่

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 63 นายวันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายบริการหลังการขาบและตลาดส่งออก เปิดเผยว่า หลังจากเชฟโรลทจัดแคมเปญพิเศษนำรถยนต์ในสต๊อครุ่นต่างๆออกมาหั่นราคาขายบางรุ่นลดมากกว่า 50% จึงทำให้เกิดปรากฎการณ์โชว์รูมแตกในช่วงที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้รถยนต์ในสต๊อกของเชฟโรเลตประเทศไทย ถูกจองจนหมดเกลี้ยง แต่ยังมีรถยนต์ค้างที่ดิลเลอร์บางรายทั่วประเทศ ประมาณ 100 คันเท่านั้น อย่างรุ่น แคฟติว่า หั่นราคา 50% ยังมีค้างอยู่ที่โชว์รูมจำนวนหนึ่ง แต่เป็นรถที่ลูกค้าจองไว้แล้วแต่ไม่ผ่านในเรื่องของสินเชื่อ

ในส่วนของเทลเบเซอร์นั้น ยังเหลือเพียงแค่ 2-3 คันเท่านั้น ที่เหลือเป็นกระบะปิกอัพโคโลราโด ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 5.39 – 6.55 แสนบาทเท่านั้น ยังพอมีให้เหลือซื้อ

“โชว์รูมเชฟโรเลตทั่วประเทศยังคงเปิดให้ดำเนินการจับจองเป็นเจ้าของรถอยู่และจะไม่ปลดป้ายโลโก้ออกไปจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญา คือวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ในส่วนของการบริการหลังการขายสำหรับลูกค้าให้สบายใจได้ เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายทั้งหมดตกลงต่อสัญญาเพื่อที่จะดูแลลูกค้าในส่วนนนั้นต่อไปอย่างน้อยอีก 1 ปี” นายวันชนะกล่าว

ทั้งนี้ลูกค้าที่ซื้อรถเชฟโรเลตยังคงได้รับบริการหลังการขายและศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์เพื่อคอยดูแล และให้บริการลูกค้าอยู่เช่นเดิม ทั้งรับประกัน 3 ปี 100,000 กิโลเมตร คลอบคุลมค่าแรงช่างซ่อมอะไหล่แท้มาตราฐานเชฟโรเลต พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1734 ตั้งแต่ 07.00-20.00 น.ด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

ลือ Honda ผุดไอเดีย NSX เวอร์ชั่น SUV อยู่ในช่วงเจรจา

เรียกว่าไม่พูดถึงคงไม่ได้แล้วสำหรับข่าวว่า Honda กำลังจะพัฒนา NSX เวอร์ชั่น SUV เพราะในตลาดรถยนต์ปัจจุบันกระแสรถ SUV Cross Over กำลังมาแรง และแบรนด์สปอร์ทหลายๆยี่ห้อก็ออกมาทำรถสปอร์ทเวอร์ชั่น Honda เองก็มีความคิดที่จะสรา้ง Sport SUV เพื่อเจาะกลุ่มตลาด สายสปอร์ทลุยโคลน

ก่อนหน้านี้ เว็บไซด์ดังของทาง ญี่ปุ่นได้รายงานว่าผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นได้เข้าใจถึงกลุ่มตลาดและผู้ใช้รถยนต์กลุ่ม SUV ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้นจึงใช้ NSX จึงผุดไอเดียโครงการนี้ขึ้น เรียกว่าขั้นตอนนี้ยังอยู่ในกระบวนการทางความคิด และจะใช้เครื่องยนต์เบนซินวางหน้าทำงานคู่ขับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดียวกับ NSX แต่ก็อย่าเพิ่งตั้งความหวังมากนะครับเพราะโครงการนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นจริง

NSX เป็นเครื่อง V6 เบนซินขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวกำลังรวม 573 แรงม้า (427 กิโลวัตต์) และแรงบิด 476 ปอนด์ฟุต (645 นิวตัน/เมตร) โดยสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 2.0 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 307 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งหวังไว้ว่าระบบที่จะนำไปใช้ใน SUV จะมีความต่างเพียงเล็กน้อยหรือเทียบเท่ากัน

โครงการสำหรับ SUV ที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับ NSX นี้ น่าจะมีการเปิดตัวในช่วงหลังปี 2025 ไปแล้ว แต่ในช่วงนี้อาจจะต้องติดตามข่าวรถบ้าน SUV Crossover จากทาง Honda ไปพลางๆก่อนนะครับ เพราะคู่แข่งทางตลาดได้เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อ่านข่าวสารรถยนต์เพิ่มเติม:

แนะนำ 10 อุปกรณ์ฉุกเฉินที่น่าซื้อติดไว้ในรถยนต์มีไว้อุ่นใจก่อนเที่ยวทั่วไทย

ช่วงนี้อากาศกลับมาแปรปวนพายุ ก็ลากยาวเป็นเดือนๆหลายพึ่นที่เริ่มน้ำท่วมรวมไปถึงการเดินทางก็มีแต่อุปสรรค์มากสมายจนอาจจะทำให้รถคุณมีปัญหาหลายๆอย่าง วันนี้ผมก็จำแนะนำอุปกรณ์ฉุกเฉินหลายๆชนิดที่ถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย พกพาง่าย และเหมาะที่จะติดไว้ในรถหากคุณจำเป็นต้องเดินทางขึ้นเขาลงห้วย ยังสามารถช่วยเพื่อร่วมทางได้อีกด้วย ขออนุญาติออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ได้มีเจตนาจะโฆษณาสินค้าเพื่อทางการค้าแต่อย่างใด

1 Power Bank ที่สามารถสตาร์ทรถได้เมื่อแบ็ตเตอรี่รถยนต์อ่อน

โดยปกติแล้วในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินจะมีสาพ่วงแบ็ตมาให้จากของแถมศูนย์ แต่เมื่อจะใช้งานจริงก็ต้องขอแรงจากเพื่อนร่วมทางเพื่อพ่วงไฟจากแบ็ตคันอื่นเพื่อสตาร์ท แต่สมัยนี้อุปกรณ์ได้พัฒนาเพื่อให้ใช้งานง่ายพกพาสะดวก ใครจะไปรู้ว่าปัจจุบันพาวเวอร์แบงค์ก็สามารถกลายมาเป็นเครื่องมือจัมป์แบ็ตรุ่นใหม่ที่เน้นในเรื่องของการพกพาและสามารถใช้งานได้ทั้งชาร์ตแบ็ตมือถือและ ความสามารถพิเศษยังสามารถจัมพ์ไฟเพื่อใช้กับอุปกรณ์ต่างๆได้อีกด้วยในปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 900 จนไปถึง 2,000 บาท แล้วแต่คุณภาพและบางรุ่นยังมีไฟฉายหรือไฟฉุกเฉินติดมาให้อีกด้วย

2. อุปกรณ์ตัดสายเข็มขัดนิรภัย

อุปกรณ์เล็กๆที่สามารถช่วยให้หลายๆคนรอดจากการเสียชีวิตมามายมายแล้วนักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบจมน้ำ รถคว่ำ ตะแคง จนคุณไม่สามารถปลดเข็มขัดได้สิ่งที่ควรทำหลังจากตั้งสติได้ นั่นก็คือการตัดสายเข็มขัดนิรภัยเพื่อนำร่างออกมาจากรถให้ไวที่สุดและ ในปัจจุบันชุดอุปกรณ์ยังมีหัวเคาะกระจกติดมาด้วย เพื่อใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

3.เครื่องสูบลมแบบพกพา

ในปัจจุบันเครื่องสูบลมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญน้อยลงเพราะปั้มน้ำมันในหลายๆ แห่งมีจุดบริการเครื่องสูบลมแต่เมื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินมักไม่เลือกสถานที่ ที่เกิดนะครับ หากรถคุณเกิดยางรั่วซึมหรือแบนไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ เครื่องสูบลมนี่แหละครับจะช่วยให้คุณถูไถขับไปยังร้านปะยางหรือที่ปลอดภัยได้

4.สเปรย์ปะยางฉุกเฉิน

สเปรย์ปะยางฉุกเฉินถือว่าเป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินชนิดใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อพกพาและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเกิดเหตุการณ์จากในข้อ 3 ตรวจพบสาเหตุแล้วว่า มีตะปูทิ่มแทงยางของคุณจนรั่วซึมและไม่สามารถไปต่อได้ คุณสามารถใช้สเปรย์ปะยางฉุกเฉินแบบกระป๋อง อัดเพื่ออุดรอยรั่วเพื่อขับไปร้านปะยางหรือที่ปลอดภัยได้ โดยทางผู้จำหน่ายก็ได้เคลมแล้วว่า สามารถวิ่งไปได้ไกลไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตรเลยทีเดียว

5.ชุดประแจบล๊อกและไขควง

บ่อยครั้งที่รถยนต์จะต้องพึ่งพาอุปกรณ์พื้นฐานอย่าง ชุดประแจบล๊อกและไขควง เพราะอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ถูกยึดด้วยน๊อตหนะสิ… ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นมากๆอีกหนึ่งชิ้นและในปัจจุบันลูกบล๊อคอเนคประสงค์ก็เข้ามามีบทบาทเพราะสามารถพกพาชุดบล๊อคแค่กล่องเดียวก็สามารถใช้ได้ถึง 12 ขนาดกันเลยทีเดียว แต่โดยสวยมากแล้วเราจะใช้เบอร์ 10″และเบอร์ 12″ เป็นหลักครับ

6.ผ้าสะอาดและน้ำสะอาด

ผ้าสะอาดและน้ำสะอาดเป็นอุปกรณ์ที่พื้นฐานมากๆ สำหรับผู้ใช้รถยนต์เมื่อคุณเจอแดดร้อนๆให้ใช้ผ้าชุบน้ำโป๊ะที่หัวกันร้อนจากแสงแดด แฮร่… ไม่ใช่ ผ้าและน้ำเปล่าเป็นอุปกรณ์เบสิกที่สามารถใช้ได้อเนคประสงค์มากๆ เช่น เจอสุนัขฉี่ใส่หน้ารถหรือล้อรถแล้วปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ล้างจนเกิดรอยด่าง และบางคนอาจจะเคยเจอเหตุการณ์เด็กปั้มมือใหม่เติมน้ำมันอัดจนล้นออกมานอกถังหากคุณไม่รีบทำความสะอาดจะทำให้สีพุพองได้เพราะเชื้อเพลิงก็เป็นสารระเหยเช่นกัน เมื่อทิ้งไว้หลายวันสีก็อาจจะลอกเป็นแผ่นๆได้ ฉะนั้นอย่าไว้ใจสิ่งรอบๆตัวมีไว้ใช้อุ่นใจนะครับ

7.อุปกรณ์ช่วยลดติดหล่มหรือโคลน

เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่มีไว้ก็ทำให้อุ่นใจมากเลยทีเดียว เมื่อคุณไปเที่ยวตามสถานที่อุทยานรวมไปถึง ไร่นาที่มีน้ำขังมากๆ ในช่วงหน้าฝนดินชื้นเหล่านี้จะผันตัวมาเป็นโคลนดูดทันที บ่อยครั้งที่เกิดเหตุการณ์รถติดหล่มแล้วไปไหนไม่ได้หากคุณอยู่คนเดียว อุปกรณ์ตัวนี้ก็ช่วยทุ่นแรงได้มากเลยทีเดียวครับ

8.ป้ายฉุกเฉิน

สำหรับป้ายฉุกเฉิน ในรถยุโรปทุกคันจะแถมมาให้จากโรงงาน และในรถญี่ปุ่นบางรุ่นก็อาจจะมีมาให้ แต่ถ้าหากคุณไม่มีแนะนำให้หาซื้อมาใช้นะครับ เพราะเป็นสิ่งเล็กๆที่สำคัญมากๆสำหรับชีวิตของคุณเมื่อรถเกิดปัญหาเจ้าสิ่งนี้แหละครับที่จะทำให้รถที่กำลังขับมาทราบล่วงหน้าว่ามีรถคุณกำลังซ่อมแซมหรือมีปัญหาอยู่ข้างทาง ควรตั้งให้ห่างจากท้ายรถประมาณ 5-10 เมตร เพื่อระยะปลอดภัย

9.ฟิวส์รถยนต์

บางคนอาจจะมองว่า ฟิวส์นั้นเป็นสิ่งไกลตัวและไม่ได้เสียกันบ่อยๆ อุปกรณ์เล็กๆตัวนี้เป็นหัวใจหลักของระบบไฟฟ้าต่างๆภายในรถยนต์แต่คุณทราบหรือไม่ว่า บางครั้งการที่ระบบใดระบบหนึ่งนั้นจากใช้งานดีๆปกติ ก็ดับไปดื้อๆนั่นก็เพราะว่าไฟในรถยนต์เกิดการรัดวงจรจนฟิวส์อาจจะขาดได้ ฉะนั้นก็ควรมีติดไว้และ สีของฟิวส์ก็มีขนาดแอมป์ต่างกันแล้วแต่ลักษณะการใช้ของแต่ละอุปกรณ์ ซึ่งสามารถดูได้จากฝากล่องฟิวส์ที่อยู่หลังเกะใส่ของ บางรุ่นอาจจะอยู่ใต้ขาฝั่งคนขับ และฟิวส์เครื่องยนต์ก็จะอยู่ในส่วนของกระโปรงรถยนต์ สามารถดูรหัสต่างๆของระบบได้จากฝากล่องฟิวส์ ซึ่งปัจจุบันฟิวส์มี 3 ขนาด ตามภาพด้านบน และสามารถดูขนาดแอมป์ได้จากสี และตัวเลขบนฟิวส์ได้ตามภาพด้านล่าง

*ปล.คืมหนีบฟิวส์จะอยู่ในกล่องฟิวส์ฝากระโปรงครับ แนะนำให้ใช้แทนเล็บ เล็บจะได้ไม่หัก

10.ถังดับเพลิงขนาดพกพา

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะคอยดูแลทั้งรถและทรัพย์สินของคุณ เพราะรถของเรานั้นใช้พลังงานเชื้อเพลิงเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อน ไม่ใช่เพียงแค่ความร้อนจากหม้อน้ำเท่านั้นที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้ รวมไปถึงระบบไฟฟ้าภายในรถลัดวงจรอีกด้วย ฉะนั้นไม่ว่าเพลิงจะไหมด้วยสาเหตุอะไร อุปกรณ์ตัวนี้แหละสามารถทำให้เพลิงไหม้นั้นหยุดลุกลามรถคุณไปส่วนอื่น

และนี่ก็เป็น 10 อุปกรณ์พื้นฐานที่แนะนำให้พกติดไว้ในรถก่อนเดินทางเพื่อความอุ่นใจและปลอดภัย ควรศึกษาวิธีการใช้ที่ถูกต้องเพิ่มเติม เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาจริงๆ ด้วยความห่วงใยจาก Kitsadagoodcar นะครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติมได้ที่ :

สีแต้มและเส้นสีบนยางใหม่ คืออะไร

สำหรับคนที่ซื้อยางมือหนึ่งตามศูนย์ต่างๆ อาจจะส่งสัยว่า ที่ยางมือหนึ่งนั้นทำไมมีเส้นสีแถวแดงและเหลืองอยู่ทุกๆเส้นของหน้ายางและมีจุดเหลืองแดงที่แก้มของยาง อันที่จริงมันไม่ได้มีความหมายว่ายางไม่ได้ผ่านการใช้งานมาก่อนเท่านั้น แล้วความหมายจริงๆของมันคืออะไร ลองมาหาคำตอบดูครับ

จุดสีเหลือง (Weight Mark) ที่แต้มไว้บนแก้มยาง คือ บริเวณยางที่มีน้ำหนักเบากว่าบริเวณอื่น เพราะการผลิตยางในแต่ละล๊อตนั้นไม่ได้มีน้ำหนักยางคงที่เท่ากันในทุกๆเส้น ผู้ผลิตยางจึงทำเครื่องหมายโดยการแต้มสีเหลืองเอาไว้ในจุดนั้นเพื่อให้ช่างที่ติดตั้งได้ทราบว่าเป็นส่วนที่มีน้ำหนักเบาที่สุดบนยางเส้นนี้ เมื่อนำยางมาประกอบกับล้อแม็กซ์ควรจะต้องให้จุกลมตรงกับจุดเหลืองเพื่อให้ยางสมดุลมากขึ้น ช่วยให้การถ่วงล้อง่ายยิ่งขึ้น

จุดสีแดง (Uniformity Mark) คือบริเวณที่มีแนวโค้งตามแนวรัศมีมากกว่าจุดอื่น เป็นจุดที่มีความนูนที่สุดของยางเส้นนั้นๆ ส่วนใหญ่แล้วจะส่งยางให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ที่ใช้ประโยชน์ของแถบเส้นสีแดงนี้เนื่องจากความโค้งของที่ขอบล้อกระทะจะง่ายต่อการประกอบยางและจะมีจุดค่าความโค้งที่ล้อกระทะด้วยเช่นกันเมื่อประกอบให้ทั้ง 2 จุดตรงกันจะช่วยให้เส้นยางกลมตามรัศมีมากยิ่งขึ้น

แถบเส้นสีที่หน้ายางเรียกว่า (Runout Stripes) จะบอกลักษณะความโค้งมนของยางเราควรเลือกยางที่มีสีเส้นเหล่านี้ให้อยู่ตรงกลางหรือมีเส้นทั้งซ้ายและขวาถ้าสีเส้นยางอยู่ด้านนอกก็ควรให้อยู่ด้านนอกของยางคนละฝั่งกันไม่ควรให้เส้นแถบสีนั้นอยู่ด้านเดียวกันเพราะจะทำให้น้ำหนักของล้อยางถูกรับไปด้านใดด้านหนึ่งที่เส้นสีที่ของล้อยาง

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม :