สาระน่ารู้ » 6 ข้อแนะนำ จอดรถในพื้นที่น้ำท่วมต้องทำอย่างไร

6 ข้อแนะนำ จอดรถในพื้นที่น้ำท่วมต้องทำอย่างไร

17 ตุลาคม 2020
2886   0

สภาพอากาศและพายุนั้นเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และบ่อยครั้งที่ในหลายๆพื้นที่ระบายน้ำไม่ทัน จึงเกิดสาเหตุน้ำท่วมขังและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างจนทำให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหายรวมไปถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง

1.โทรแจ้งประกันในทันที

เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมรถสิ่งแรงที่ควรทำคือการโทรแจ้งประกันในทันทีนะครับ เพื่อเช็คกรมธรรม์ที่คุณถืออยู่ว่ามีการคุ้มครองอุบัติเหตุจากธรรมชาติหรือไม่ ในด้านใดบ้าง เพราะประกันในแต่ละที่จะคุ้มครองแตกต่างกันไป ถ้ามีก็รีบแจ้งทันทีเลยนะครับ

2.เมื่อน้ำสูงกว่าพื้นของรถ ห้ามเปิดประตูรถเด็ดขาด

ในกรณีที่น้ำท่วมสูงกว่าระดับของพื้นรถ เล็กน้อยหรืออยู่ในระดับพื้นรถแอดมินแนะนำว่าไม่ควรเปิดประตูโดยเด็ดขาดเพราะระดับน้ำยังไม่มีแรงดันพอที่จะผ่านยางประตูท่วมห้องโดยสารจนท่วมได้อาจจะมีซึมเล็กๆน้อยๆ ตรงนี้ก็ทำใจนะครับ รอน้ำลดลงเมื่อไหร่ค่อยขับไปเข้าสปาและโอโซนภายใน

3.ห้ามสตาร์ทเครื่องเด็ดขาด เมื่อท่อไอเสียอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำท่วม

การสตาร์ทรถในขณะที่ท่อไอเสียอยู่ต่ำกว่าระดับของน้ำ เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เครื่องพังได้เพราะการเริ่มสตาร์ทอาจจะทำให้น้ำถูดดูดย้อนเข้าท่อไอเสียจนทำให้อุปกรณ์ภายในเครื่องยนต์เสียหายได้ ฉะนั้นก่อนสตาร์ทเครื่องทุกครั้งจะต้องตรวจสอบว่าท่อไอเสียจะต้องไม่จมน้ำหากจำเป็นจะต้องสตาร์ท จะต้องเข็นไปจอดในพื้นที่ ที่ระดับน้ำต่ำกว่าท่อจึงจะสตาร์ทได้

4.ใช้แม่แรงเพื่อยกให้เครื่องอยู่ในระดับสูงกว่าน้ำ

หลายๆท่านอาจจะคิดไม่ถึงว่า แม่แรงที่แถมมากับรถนั้น อันที่จริงแล้วมีประโชยน์มากกว่าใช้ยามฉุกเฉิน ทราบหรือไม่ว่า การใช้แม่แรง ยกหน้ารถเพื่อให้เครื่องยนต์อยู่สูงกว่าระดับน้ำเครื่องยนต์อยู่ด้านไหนก็ยกด้านนั้น สามารถทำได้และได้ผลดีอีกด้วย บางท่านอาจจะใช้อิธ ไม้เพื่อหนุนล้อเพิ่มเติมอย่าลืมดึงเบรคมือด้วยนะครับเพื่อความปลอดภัย

5.ใช้ถุงยางครอบท่อไอเสีย

เรียกว่าถุงยางนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลายการใช้ถุงยางครอบท่อเพื่อลดการพัดน้ำเข้าท่อของรถสูงที่วิ่งผ่านไปผ่านมา เมื่อใช้เสร็จแล้ว อย่าลืมแกะออกด้วยนะครับ มิฉะนั้นอาจจะละลายติดต่อได้

6.ถอดขั้วแบตเตอรี่

การถอดขั้วแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่ต้องทำเพราะระบบของรถยนต์ถึงแม้จะดับเครื่องแต่ไฟฟ้าก็ยังวิ่งอยู่ภายในรถตลอดเวลาฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบต่างๆ ช๊อคจนเกิดความเสียหาย ก็ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อนจะดีกว่าครับ

และนี่ก็เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆสำหรับการดูแลรถในขณะน้ำท่วมรอดผ่านในช่วงมรสุมจนทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายๆพื้นที่ หวังว่าในช่วงมรสุมนี้จะทำให้รถของเพื่อนๆทุกคนปลอดภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมนะครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม