6 รถ SUV ตบกองทัพเตรียมจำหน่ายในไทยจากค่าย GWM

จากก่อนหน้านี้ที่ GWM ได้เปิดตลาดและได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามทั้งแง่ของตลาด แง่ของเทคโนโลยี รวมไปถึงมุมมองต่างๆหลังจากที่ลูกค้าได้สัมผัสการใช้งานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และในปีนี้ก็กำลังจะนำรถที่มีอยู่ในมืออีกหลายๆรุ่นทยอยปล่อยมาสู้ตลาด เราลองมาดูกันครับว่า ตั้งแต่ปี 2022

1. HAVAL H6 เป็นยนต์กรรมรุ่นแรกที่ทาง GMW ได้ส่งลงตลาดประเทศไทย ซิ่งเป็นรถ SUV รุ่นเรือธงของแบรนด์ เน้นความหรูหราแต่ราคาจับต้องได้ ภายในเน้นเทคโนโลยีอัจฉรียะ และลูกเล่นระบบต่างๆ ภายในที่ดีไซน์ล้ำยุค เรียกว่ามีกลิ่นอายของรถยุโรปผสมผสานเข้าไปด้วย ทั้งกล้องแบบ 180องศารอบคัน หัวเกียร์ปรับแบบไฟฟ้า เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรเทอร์โบ และ 2.0 ลิตรเทอร์โบ แต่ในประเทศไทยวางขายเฉพาะเครื่อง 1.5 ลิตรเทอร์โบ+มอเตอร์ไฮบริดเท่านั้น

2. Haval Beast เป็นชื่อที่ถูกแปลมาจากภาษาจีน เป็นรถ SUV ระดับเรือธงอีกหนึ่งรุ่นของ GWM ได้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แพลทฟอร์ม L.E.M.O.N เช่นเดียวกันกับ Haval H6 และ Jolion เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉรียะ ทำงานผ่านชิปที่ให้การประมวลผลถึง ล้านล้านครั้ง ต่อวินาที และยังสามารถวิเคราะห์และจดจำพฤติกรรมการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด

ขุมพลังของ Haval Beast จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตันเมตร รวมไปถึงเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และแบบปลั๊กอินไฮบริด DHT ด้วย

3. Tank 400 รถ SUV ทรงถึกบึกบึนจาก GWM Motor เน้นดีไซน์ทรงเหลี่ยมแข็งแรง โดยลักษณะตัวถังจะเป็น SUV แบบ Body On Frame ซึ่งมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2850 มิลลิเมตร ทางค่ายเปิดตัวด้วยตัวถังสีฟ้าทึบแต่เน้นเส้นสายสีเหลืองสะท้อนแสงตามจุดต่างๆของตัวรถมากกว่า ทางด้านขุมพลัง ยังไม่แน่ชัดเรื่องของเครื่องยนต์ที่จะนำมาใช้ คาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์์ 2.0 ลิตรเทอร์โบจาก รุ่น Tank 300 จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และอาจจะมีรุ่นท๊อปให้เลือกโดยเป็นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เครื่องแบบเดียวกัย Tang 500 โดยคาดว่า

4. Tank 500 รถยนต์ SUV อเนคประสงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งมองผ่านๆจะคล้ายๆกับ TOYOTA Land Cruiser Prado ที่ใช้โครงสร้าง Body On Frame สำหรับดีไซน์ภายนอก มีพร้อมกับกระจังหน้าแบบ โครเมี่ยมขนาดใหญ่ฝากกระโปรงทรงนูน เสริมหล่อด้วยโครเมี่ยมรอบคัน

เครื่องยนต์ขนาด V6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อม Mild-hybrid 48V ให้กำลังสูงถึง 353 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ในอนาคตอาจจะมีเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 เทอร์โบพร้อมระบบ Hybrid มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดถึง 517 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 750 นิวตันเมตร ที่ติดตั้งในรุ่น TANK 700 และ TANK 800

5. TANK 700 อีกหนึ่งรถ SUV ขนานแท้ที่ ได้นำเอาเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง Mecha Tecnology มาปรับปรุงให้ดูดุดันมากยิ่งขึ้น ตัวถังดูแข็งแกร่ง ออกแบบให้ดูเป็นอ๊อฟโรดแบบ Hard Core พร้อมโลโก้ที่ดูเป็นอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ด้านหลังมาพร้อมยางอะไหล่เทียบชั้นกับ Mercedes-Benz G Class ภายในจะเน้นงานประกอบด้วยโลหะและวัสดุหนังกลับเป็นหลัก หน้าจอกลางขนาดใหญ่ พวงมาลัยเป็นมัลติฟังค์ชั่น 3 ก้านแบบคลาสสิกแผงหน้าตัดดิจิต้อล คันเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงแป้นคันเร่งอลูมิเนียม เครื่องยนต์ 3.0T V6 ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid สามารถรีดกำลังออกมาได้ถึง 509 แรงม้า หรือ 380 kW แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร และมาพร้อมกัยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด โดยราคาเปิดจำหน่ายจะอยู่ที่ราวๆ 157,800 – 213,800 หยวน หรือราวๆ ประมาณ 812,000 – 987,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีบ้านเรา)

6. TANK 800 รถยนต์ SUV สุดหรูหราเปิดตัวครั้งแรกในงาน Shanghai Motor Show 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Roll-Roys อย่างชัดเจน ด้วยการออกแบบให้ดูมีความหรูหราคลาสสิกผสมกับเทคโนโลยี ปลั๊กอิน Hybrid ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 ส่งกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อ ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ภายในตกแต่งด้วยวัสดุแบบกำมะหยี่ไมโครไฟเบอร์ Alcantara-esque และตัดเส้นสายด้วยโครเมี่ยมอลูมีเนียมเงา แทบจะทั้งห้องโดยสาร พวงมาลัยก็ถอดแบบมาจาก Roll-Roys

เรียกว่า GWM ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับการตีตลาดในประเทศไทย และกวาดยอดขายไปได้อย่างล้นหลาม ทำให้ GWM พร้อมเดินหน้าต่อ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ชอบรถยนต์ที่คุ้มค่า พร้อมกับการออกแบบผสมผสานกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาบกับนวตกรรมไฟฟ้า ก็ต้องคอยติดตามนะครับ

อ่านข่าวรถ EV ใหม่ๆ

MITSUBISHI XPANDER 2022 ปรับโฉมใหม่ ไมเนอร์เชนจ์

MITSUBISHI Xpander รถยนต์อเนคประสงค์ 7 ที่นั่งรถครอบครัวประกอบที่ประเทศอินโดนิเซีย เตรียมปรับโฉมใหม่ในปี 2022 เพื่อเตรียมกระตุ้นยอดขายแม่ก่อนหน้านี้จะมียอดขายไม่สูงมาก มาคราวนี้เตรียมปรับโฉมดูให้เป็นรถคุณพ่อบ้านได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เตรียมเปิดตัวในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ ช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

MITSUBISHI Xpander 2022 เวอร์ชั่นปรับโฉม เพิ่มความหรูดูเป็นครอบครัวมากยิ่งขึ้น แต่รูปทรงยังเป็นทรงเก่าที่วางขายเมื่อ 4 ปีก่อนโดยส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นคือไฟด้านหน้าและเส้นสายกระจังหน้า Dynamic Shield สอดรับกับไฟด้านหน้าและไฟตัดหมอกด้วยมุมเหลี่ยมที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยชุดกระจังใช้ขอบพลาสติกโครเมี่ยมสีเงินไฟหรี่กลางวันเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นส่วนไฟหน้าเป็นรูปทรงตัว T รวมไปถึงไฟตัดหมอก LED ที่เพิ่มทัศนวิสัยเวลากลางคืนกัน ด้านท้ายปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เส้นสายไฟ้ทายแบบใหม่มีการผสมไฟหลอดและไฟ LED เพื่อเน้นเส้นไฟให้ชัดเจนยิ่งขึ้น กันชนด้านหลัง มิติตัวถัง ของ Expander 2022 ยังคงความยาวที่ 4,475 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร และสูง 1700 มิลลิเมตร เพื่อทำให้ห้องโดยสารนั้นมีความโล่งโปร่งมากยิ่งขึ้น ระยะห่างของฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 205 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมันสามารถบรรจุได้ถึง 45 ลิตร น้ำหนัก 1,290 กิโลกรัม

รุ่นรองยังคงใช้เป็นเบาะผ้าส่วนรุ่นท๊อปสุดจะเป็นเบาะหนังสังเกคราหะ์สีดำ เบาะสามารถพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ เบาะแถวกลางสามารถพับหลบเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเข้าออกของผู้โดยสารเบาะหลัง เนื่องจากพื้นที่วางเท้านั้นมีไม่มากเท่าไหร่นัก เบาะแถวสามยังสามารถพับรายไปกับพื้นได้เพื่อเพิ่มเนื้อที่ในการเก็ยสัมภาระได้มากยิ่งขึ้นส่วนของช่องแอร์หลังคาพร้อมปุ่มปรับความแรงพัดลมแอร์สำหรับเบาะแถวที่ 2 และ 3 กระจกบานหนา 4 มิลลิเมตร หลัง 3.5 มิลลิเมตร

จอภาพมอนิเตอร์กลางของระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว สั่งงานด้วยนะบบสัมผัสที่หน้าจอภาพ รองรับการเชื่อมต่อแบบ Android Auto และ Apple Carplay โดบเปลี่ยนแผงควบคุมปรับอากาศให้เป็นแบบ อัตโนมัติ และหน้าจอแสดงผลต่างๆแบบใหม่ พวงมาลัยใหม่และเบรคมือไฟฟ้าโดยรุ่นนี้ใส่ Auto Brake Hold มาให้ใช้งาน ช่องเสียบชาร์จ โทรศัพท์ ช่องเสียบชาร์จโทรศัพท์มีให้เลือกใช้ทั้ง SUB Type-A และ Type-C

เครื่องยนต์ ในรุ่นนี้ เปลี่ยนชุดส่งกำลังใหม่ จากเกียร์ออโต้คอนเวอร์เตอร์ 4 สเปีด มาเป็นสายพานพูเลย์ CVT เครื่องเดิม เบนซินแถวเรียงเล็กกระทัดรัดแบบ 4 กระบอกสูบ 4 วาล์วต่อ 1 สูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผันแบบ MIVIC เครื่องยนต์รหัส 4A91 4 สูบฝาทวินแคม DOHC 16 วาล์ว ปริมาตรความจุ 1.5 ลิตร 1499 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 77.4 มิลลิเมตร ช่วงชัก 77.5 มิลลิเมตรอัตราส่วนกำลังอัดที่ 10.5: 1 กำลังสูงสุด 104 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้าช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท สปริง โชคอัพและกันโคลง ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบืม โซ่สายพานไทม์มิ่ง และพัฒนาในเรื่องของเครื่องยนต์ให้่มีแรงสั่นสะเทือนน้อยลง

ในส่วนของล้อและยางจากเดิม 16 นิ้ว เปลี่ยนเป็นขนาด 17 นิ้วให้ดูเต็มมากยิ่งขึ้น ลายล้อแบบ ทูโทนสีดำสลับกับสีเงิน 215/50R17

ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นมาใส่ให้ครบๆ ทั้งระบบความปลอดภันและการเฝ้าระวังความปลอดภัย Mitsubishi Advance Safety Technology

  • รถบบคุมความเสถียรภาพและการทรงตัว ASC
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล TCL
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทาลาดชัน HSA
  • ระบบช่วยป้องกันการล๊อกขณะเบรก ABS
  • ระบบการกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรค BA
  • ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกระทันหัน ESS
  • ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
  • กล้องมองภาพด้านหลัง

ในส่วนของราคานั้นยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่ามากน้อยกว่าโฉมก่อนแค่ไหน และถ้าหากมีการอัพเดทเพิ่มเติม ทางศูนย์ข่าว กฤษฎากู๊ดคาร์ จะรีบอัพเดทให้เพื่อนๆได้ทราบก่อนใครเลยครับ
เว็ปไซด์หลัก
https://www.kitsadagoodcar.com

All new Honda Civic Type R 2022 เผยโฉมจริงก่อนเปิดตัวในงาน โตเกียวออโต้ซาลอน

All new Honda Civic Type R 2022 เผยโฉมก่อนถูกจัดมาแสดงในงาน โตเกียวออกโต้ซาลอน (Tokyo Auto Salon 2022) ประเทศญี่ปุ่น มีขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2565 นี้

Honda Civic Type R เจเนอเรชั่นใหม่ที่ถูกนำมาจัดแสดงในงาน แต่ยังคงถูกพลางบอดี้อย่างมิดชิดเพื่อบิดบังเส้นสายของตัวถังอย่างเป็นปริษนา พร้อมปรับปรุงความดุดันในหลายๆจุดไม่ว่าจะเป็นส่วนของกันชนหน้าที่มีช่องดักลมขนาดใหญ่ ดิฟฟิวเซอร์ที่กันชนท้าย สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ โป่งล้อททั้งด้านหน้าและด้านหลัง และปลายท่อไอเสียอันเป็นเอกลักษณ์ตามสูตร 3 ท่อ เป็นต้น

เครื่องยนต์ ขุมพลังของ Honda Civic Type R 2020 คาดว่า ยังใช้เครื่องยนต์บล๊อคเดิมแต่มีการปรับจูนให้แรงยิ่งขึ้นโดย Civic Type R 2020 จะเป็นตัวถังรหัส FK8 ถูกติดตั้งด้วยเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ รหัส K20C1 รีดกำลังสูงสุดได้ถึง 320 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 400 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 272 กม./ชม.

ในส่วนของราคาที่แน่ชัดอาจจะต้องคอยติดตามภายในงาน ว่าจะถูกใจเหล่าสาวกสาย H มากน้อยเพียงใด

หากต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีสามารถได้ไปดูได้ที่ www.kitsadagoodcar.com

ประกันรถยนต์ นับอายุปีผลิตหรือปีจดทะเบียน และมีผลอย่างไรกับราคาประกันภัย

เป็นคำถามที่พบบ่อยๆสำหรับผู้ที่ใช้รถ ว่าการทำประกันในแต่ละครั้งนั้น ทางประกันภัยนั้นประเมินอายุของรถอย่างไร นับจากปีผลิตหรือปีจดทะเบียนกันแน่

ปีจดทะเบียนรถคืออะไร

รถยนต์ทุกคันที่วิ่งบนท้องถนนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสียภาษีรถยนต์ รถทุกคันนั้นจึงจำเป็นจะต้องได้รับการจดทะเบียนรถยนต์เพื่อให้ทราบว่าปีจดทะเบียนรถของรถคันนั้นๆว่าได้จดทะเบียนเพื่อเสียภาษีในปีอะไร เพื่อแสดงถึงการเป็นเจ้าของและได้เสียภาษีได้อย่างถูกต้องถูกกฎหมาย

การจดทะเบียนรถยนต์ใหม่จะได้ตรงเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการเสียภาษีเรียบร้อย โดยเจ้าของรถยนต์จะต้องนำไปติดที่หน้ากระจกในตำแหน่งที่ชัดเจนทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่จราจรสามารถตรวจสอบเห็นได้โดยสะดวกเมื่อมีการใช้รถยนต์์บนท้องถนน โดยหากผู้ที่มีรถยนต์ป้ายแดงก็สามารถยื่นจดทะเบียนรถใหม่และดำเนินการได้ที่กรมขนส่งทางบกทุกสาขา

ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ปี 2522 มาตรา 6 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถโดยมิได้จดทะเบียน บทกำหนดโทษมาตรา 59 ปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ไม่เกิน 10,000 บาท แต่ได้มีการอนุโลมให้ผู้ใช้รถยนต์ใหม่ ป้ายแดง ได้ไม่เกิน 1 เดือน หรือไม่เกิน 3,000 กิโลเมตร หากเกินจะถือว่าจงใจหลีกเลี่ยงการจดทะเบียนให้ดำเนินการจับกุมทันที

ปีจดทะเบียนของรถยนต์นั้นจะมีผลต่อาการคิดเบี้ยประกันภัย โดยทุกครั้งทางผู้เป็นเจ้าของจะต้องแจ้งให้พนักงานประกันภัยทราบก่อนทำประกันทุกครั้ง

ปีจดทะเบียนรถเกี่ยวของกับการคิดอัตราค่าเบี้ยประกันอย่างไร

การคำนวนเบี้ยประกันรถยนต์จะคำนวนอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ตัวกำหนดพิกัดราคาเบี้ยกระกัน จะเป็นผลมาจากการวิเคราะห์สถิติที่เกี่ยวกัยวินาศภัย โดยจะวิเคราหะ์จากความเสี่ยงตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมาจะถึงปัจจุบัน และคาดการณ์ล่วงหน้าในอนาคต

โดยการวิเคราะห์เหล่านี้เป็นการวิเคราะห์จาก พฤติกรรมการใช้รถ โดยเป็นผลมาจากการเคลมประกันของผู้ใช้รถตั้งแต่อดีต ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณอยากไห้อัตราเบี้ยประกันรถยนต์ในอนาคตถูกลง ก็จะอ้างอิงจากผลของการใช้รถของคนรุ่นถัดๆไปนั่นเอง

โดยข้อมูลของ รถยนต์ จะส่งผลต่อเบี้ยประกันดังนี้

รุ่นรถ โดยรถยนต์สปอร์ทจะแพงกว่ารถยนต์ทั่วๆไป

ขนาดของเครื่องยนต์ ยิ่งเครื่องยนต์แรงก็ส่งผลต่อเบี้ยประกันให้สูงขึ้นตามไปด้วย

ประเภทเครื่องยนต์ หากเป็นเครื่องยนต์ที่มีเทอร์โบหรืออุปกรณ์ช่วยในเรื่องของกำลังเครื่องยนต์เบี้ยประกันก็จะสูงตามไปด้วยเช่นกัน

ปีที่ผลิต รถเก่าๆ จะมีเบี้ยประกันสูงแต่ถ้าหากว่ารถเก่ามากเกินไปประกันบางบริษัทก็จะไม่รับพิจารณา

และในบางครั้งบริษัทประกันภัยหรือโบรกเกอร์ประกันอาจจะตรวจสอบข้อมูงของผู้ขับขี่และใช้ประสบการณ์ในการคำนวนค่าเบี้ยประกันตามปัจจัยเสี่ยงของผู้ขับขี่อาจจะแตกต่างงกันออกไป

ข้อมูลของผู้ขับขี่ อายุของผยู่ขับขี่และอายุของการขับขี่จะช่วยให้เบี้ยประกันถูกลง

สถานภาพการสมรส ผู้ที่มีครอบครัวแล้ว จะมีแนวโน้มความเสี่ยงในการขับขี่น้อยกว่าผู้ที่ยังไม่มีครอบครัว

การใช้งานรถยนต์ ผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเส้นทางเดิมๆ จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าผู้ที่นำรถไปใช้ในการพาณิชย์

ประวัติการเคลม ผู้ที่มีประวัติการเคลมอาจจะ ถูกเพิ่มเบี้ยประกันสูงกว่าปกติ

โดยสรุปว่า การนับปีประกันภัยรถยนต์นั้นนับเป็นอายุปีจดทะเบียนนั่นเอง หากคุณกำลังอยากจะทำประกันหรือต้องการจะต่อประกัน ก็จะทราบว่าทีไมเบี้ยประกันในรถแต่ละประเภทถึงแตกต่างกัน

ฤกษ์ออกรถประจำปี 2565 ออกรถวันไหนดี รวมวันมงคล

สำหรับผู้ที่ต้องการออกรถในปี 2565 และต้องการ ฤกษ์งามยามดี วันนี้ Kitsadagoodcar ได้ทำ ฤกษ์ออกรถประจำปี 2565 ทั้งแบบวันและแบบเดือนเพื่อให้ท่านได้เตรียมพร้อมสำรวจหาฤกษ์งามยามดีก่อนซื้อเพื่อเป็นศิริมงคลและหนุนนำพาแต่สิ่งดีๆเข้ามาให้ทั้งคนและทั้งรถเพื่อความราบรื่นตลอดทั้งปี และตลอดไป

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนมกราคม 2564

วันเสาร์ 1 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า เวลา 08.00 -10.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดและ ช่วงบ่าย 14.30-18.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุด บ่าย 13.13-15-36 น.

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06-01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีทืี่สุดคือช่วง 13.13 – 15.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง บ่าย 13.13-15.36 น.

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงบ่าย 15.37-18.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-13.12 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง บ่าย 13.13-15.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25 – 10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงบ่ายคือ 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ทที่ 21 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-13.12 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ที่ 28 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนกุมภาพันธ์

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.30-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-17.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-12.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.12-18.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันอังอารที่ 8 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.30-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-17.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-12.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.12-18.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.10-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.30-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-17.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-12.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.12-18.00 น.

วันอาทิตย์ 20 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.30-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-17.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-12.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.12-18.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนมีนาคม

วันอังคารที่ 1มีนาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันอังคารที่ 8 มีนาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-13.12 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนเมษายน

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.30 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-17.00 น.

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันอังคารที่ 5 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.30 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.30 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.30 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนพฤษภาคม

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-12.39 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-15.36 น.

วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 09.00-12.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.30-18.00 น.

วันอาทิตย์ 8 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.30-12.10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันเสารที่ 14 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 09.00-12.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.30-18.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.30-12.10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-12.39 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-15.36 น.

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 09.00-12.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.30-18.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.30-12.10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-12.39 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-15.36 น.

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 09.00-12.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.30-18.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนมิถุนายน

วันพุธที่ 1 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.30-12.10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันพุธที่ 8 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.30-12.10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-16.00 น.

วันพุธที่ 15 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.30-12.10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-13.12 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-16.00 น.

วันพุธที่ 22 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.30-12.10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 10.49-13.12 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.01-10.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-16.00 น.

วันพุธที่ 29 มิถุนายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือน กรกฎาคม

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันเสาร์ทที่ 9 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันจันทร์ 18 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันศุกร์ 29 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.09 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-15.30 น.


ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือน สิงหาคม

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.35-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.30-18.00 น.

วันพุธที่ 3 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-10.35 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-14.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-14.39 น.

วันจันทร์ 8 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.35-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.30-18.00 น.

วันพุธที่ 10 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันศุกร์ 12 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-10.35 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-14.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-14.39 น.

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.35-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.30-18.00 น.

วันพุธที่ 17 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-10.35 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-14.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-14.39 น.

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.35-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.30-18.00 น.

วันพุธที่ 24 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 07.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-14.39 น.

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.35-10.50 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.30-18.00 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนกันยายน
วันเสาร์ที่ 3 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.30-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.35-10.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.30-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 18.กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.30-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.35-10.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันเสาร์ที่ 24 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.30-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.35-10.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.37-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-11.09 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-15.36 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนตุลาคม

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.59-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.36 น.

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.55-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-14.39 น.

วันพุธที่ 5 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.30-09.30 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.10-14.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.59-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.36 น.

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.55-10.58 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.30-17.00 น.

วันพุธที่ 12 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.30-09.30 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.10-14.36 น.

วันอาททิตย์ที่ 16 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.59-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.36 น.

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.55-10.58 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.30-17.00 น.

วันพพุธที่ 19 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 14.00-18.00 น.

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.30-09.30 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.10-14.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.59-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.59-11.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-17.36 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2565 เดือนพฤศจิกายน

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-14.39 น.

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-14.39 น.

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-14.39 น.

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-17.00 น.

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 06.01-06.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-15.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษจิกายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-10.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-14.39 น.

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.48 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-17.00 น.

ฤกษ์ออกรถปี 2564 เดือนธันวาคม

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-12.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-17.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 09.01-12.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-16.36 น.

วันพุธที่ 7 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-17.00 น.

วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.10-12.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-17.36 น.

วันอาทิตย์ 11 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 09.01-12.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-16.36 น.

วันพุธที่ 14 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-17.00 น.

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.01-12.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.13-17.36 น.

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 09.01-12.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-16.36 น.

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.25-10.59 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-18.00 น.

วันพุธที่ 21 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 08.00-12.00 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 15.00-17.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม ฤกษ์ออกรถช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า 09.01-12.01 น. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 13.00-16.36 น.

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับฤกษ์ออกรถของแต่ละเดือนในปี 2565 สำหรับเพื่อนๆที่กำลังออกรถสามารถดูตามวันและช่วงลเวลาออกรถเพื่อเป็นศิริมงคลนำพาความรำรวยและความสุขมาให้ หากเริ่มต้นดี ทุกอย่างก็จะดีไปด้วยตามความเชื่อของคนไทยนะครับ

Rivian R1T สายแคมป์ถูกใจสิ่งนี้ กระบะไฟฟ้าสายลุย 753 แรงม้า

Rivian R1T เป็นรถกระบะไฟฟ้าหน้าตาแหวกแนวที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง นอกจากมีความสามารถพิเศษทางด้านการลุยทุกสภาพถนนทั้งทางเรียบและทางกันดาล เพราะนอกจากจะใช้งานในเมืองได้อย่างดีแล้ว ก็ยังสามารถใช้งาน ใช้งานนอกเมืองได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าจะมาแทนที่กระบะไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ อย่างแน่นอน

Rivian R1T เป็นรถกระบะไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ทั้งหมด 4 ตัวโดยใช้เป็นล้อหน้า 2 ตัวและล้อหลัง 2 ตัว มีกำลังสูงถึง 753 แรงม้า สามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 643 กิโลเมตร ภายในการชาร์ตเพียงแค่ 1 ครั้ง ที่สำคัญคือแรงฉุดลากสูงสุดถึง 4,990 กิโลกรัม (ราวๆ 11,000 ปอนด์) อัตราเร่ง 0-100 สามารถทำได้ในเวลา 3 วินาที วิ่งขึ้นชันได้ 34 องศา และทางลงได้ 29.3 องศา และยังสามารถลุยน้ำได้ถึง 3 ฟุต หรือราวๆ 1 เมตร และยังมีโหมดขับขี่ให้ได้เลือกถึง 8 โหมด ตามสภาพการขับขี่และลักษณะเส้นทาง ทั้งในเมืองและป่าเขา

ตัวถังใช้เป็นอลูมีเนียมอัลลอยด์ และล้อก็ใช้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ต้องกังวลเรื่องสนิมที่จะขึ้นหลังจากที่ลุยน้ำเข้าป่าเป็นเวลานานๆ

อุปกรณ์ครบครันสุดๆ ด้วยอ๊อฟชั่นเสริมที่ถูกใจสายแคมป์ปิ้งอย่างแน่นอน นอกจากช่องเก็บสัมภาระจะมีที่ด้านกระโปรงหน้ารถและ กระบะท้ายแล้ว มีการซ่อนเค้าท์เตอร์บาร์ได้อย่างหลากหลาย และสามารถดึงออกมาจากข้างรถได้หรือหากคุณต้องการดัดแปลงเพื่อเป็นช่องเก็บของต่างๆได้เรียกว่าเป็นช่องเก็บสัมภาระที่สามารถกันน้ำได้อีกด้วย

ภายในดีไซน์ ได้ลงตัวเอามากๆ ทั้งความครบครันด้วยระบบ อินโฟเทนเมนท์ จอกลางขนาด 14 นิ้ว รองรับการสัมผัสหน้าจอ และการแสดงผลความเร็วหน้าปัดแบบ จอ LCD กระบะไฟฟ้า

โดยสเปคที่จะวางจำหน่ายนั้น จะมีถึง 3 รุ่นด้วยกัน

โดยในทุกรุ่นย่อยนั้นจะมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทุกรุ่นโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 4 ตัว แต่จะต่างที่ความจุของแบตเตอรี่ ดังนี้

รุ่นแบตเตอรี่ 105 kWh

ให้กำลังสูงสุด 300 kW (402 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร สามาถทำระยะทางได้ 370 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง อัตราเร่ง 0-100 ราวๆ 12.5 วินาที

รุ่นแบตเตอรี่ 135 kWh

ให้กำลังสูงสุด 562 kW (753 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 1,120 นิวตันเมตร สามาถทำระยะทางได้ 482 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง อัตราเร่ง 0-100 ราวๆ 7 วินาที

รุ่นแบตเตอรี่ 180 kWh

ให้กำลังสูงสุด 522 kW (700 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 1,120 นิวตันเมตร สามาถทำระยะทางได้ 463 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง อัตราเร่ง 0-100 ราวๆ 8 วินาที

โดยอันที่จริงแล้ว Rivian R1T ได้เปิดตัวออกมาตั้งแต่ ปี 2018 และหลังที่เปิดออเดอร์จองด้วยจำนวนเงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัส (ราวๆ 30,800 บาท) ซึ่งแผนการมอบรถจะเกิดขึ้นภายในปี 2020 นี้ โดยผู้ที่สั่งรุ่นท๊อปสุดจะได้รับรถก่อนในล๊อตแรก

5 สิ่งที่ต้องดูแลสำหรับรถเก่าเกิน 10 ปี

กระแสรถเก่าๆกำลังมา ช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายๆคนอยากจะได้รถเก่าๆไว้สะสมหรือเป็นรถเก่าในฝันที่อยากได้อยากครอบครอง แต่เชื่อว่างบางคนอาจจะยังไม่ รู้มาก่อนว่าการดูแลรถเก่าและรถใหม่นั้น ดูแลต่างกัน ฉะนั้นก่อนที่จะซื้อรถเก่าๆควรจะต้องศึกษาให้ดีว่า ดูแลอย่างไรบ้าง

1.หมั่นตรวจเช็คระบบของเหลวต่างๆ


หากคุณอ่านแล้วรู้สึกว่า การดูแลของเหลวนั้น มันก็ดูแลเหมือนๆกับรถใหม่ๆทั่วๆไปนั้นก็ไม่ผิด แต่การดูแลแค่เฉพาะของเหลวไม่ให้ต่ำกว่าขีดที่กำหนดนั้นอาจจะไม่เพียงพอ เพราะคุณจะต้องคอยดูแลอุปกรณ์ต่างๆของระบบเช่นท่อยางและข้อต่อต่างๆให้อยู่ในสภาพที่ปกติ ไม่รั่ว ไม่เสื่อมหรือเสียหาย และ ตรวจสีของหลวงต่างๆให้อยู่ใน สภาพสีปกติ ไม่มีคราบตะกัน หรือขี้สนิมบ่งบอกถึงสุขภาพของภายในเครื่องยนต์

2.สายพานไทม์มิ่ง

ในรถบางรุ่นอาจจะใช้เป็นโซ่ แต่ถ้าหากรถของคุณใช้เป็นระบบสายพานไทม์มิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจเช็คให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานเสมอ ไม่มีรอยแตก รอยขาด หรือควรเปลี่ยนทุก 100,000 กิโลเมตร เพราะถ้าหากเกิดขาดในขณะใช้งาน อาจจะสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงได้

3.สายคันเร่ง สายครัทช์

เป็นอีกหนึ่งจุดสำหรับคนที่ใช้รถมักจะไม่ให้ความสำคัญ โดยทั่วไปแล้ว การเปลี่ยนสายสลิงครัทช์ และสายสลิงคันเร่งนั้นจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 5 ปี หรือหากเป็นไปได้ก็เปลี่ยนทุก 150,000 กิโลเมตร เพราะสายสลิงเหล่านี้จะมีการยืดเสื่อมสภาพเสี่ยงต่อการขาดเสียหายในช่วงเวลาของการใช้งานอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้นควรตรวจเช็คและเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยของคุณนะครับ

4.หมั่นสังเกตเสียงการทำงานของเครื่องยนต์

เสียงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถบ่งบอกการทำงานและสภาพของเครื่องยนต์ได้ หากคุณเป็นคนที่ช่างสังเกตุจะรู้ได้ทันทีว่า เสียงการทำงานของเครื่องยนต์จะสามารถบอกอาการต่างๆอย่างคร่าวๆได้เป็นอย่างดี

5. ตำแหน่งของเหลวและสีของเหลวที่หยดลงใต้ท้องรถ

ตำแหน่งของเหลวที่หยดภายใต้ท้องรถ ก็สามารถบ่งบอกอาการได้เช่นกัน โดยถ้าหากของเหลวที่หยดลงตำแหน่งใต้เครื่องยนต์ก็สามารถสังเกตสีของของเหลวที่เกิดขึ้นได้
– น้ำใส ก็อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำแอร์โดยไม่ได้มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด
– น้ำสี หรือน้ำที่มีสนิมปน ในส่วนนี้อาจจะเป็นในส่วนของหม้อน้ำ ซึ่งแนะนำให้เช็คระบบท่อพักน้ำต่างๆรวมไปถึงฝาหม้อน้ำอาจจะเสื่อมจากลูกยาง หรือไม่ที่แย่กว่านั้นอาจจะเกิดจากการรั่วซึมของหม้อน้ำ
– น้ำมันสีดำหรือสีเหลืองเข้ม ส่วนนี้เกิดจากน้ำมันหล่อลื่นที่อาจจะซึมจากหลายสาเหตุ เช่น ซึมออกจากน๊อตน้ำมันเครื่อง รั่วซึมจากอ่างน้ำมันเครื่อง (แคร้ง) หรือฝาประเก็นเสื่อมน้ำมันเครื่องก็สามารถรั่วซึมได้เช่นกัน

ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสาเหตุที่ให้ของเหลวในเครื่องยนต์ขาดหรือพร่อง เป็นต้นเหตุทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหาใหญ่ตามมา

Ora Ballet Cat รถไฟฟ้า (EV) จากจีน Punk Cat เวอร์ชั่นผู้หญิง

เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา GWM หรือ Grade Wall Motorได้เปิดตัว Ora Punkcat ให้ได้เห็นทั้งภายในและภายนอก แต่ไม่จบเพียงเท่านั้น คราวนี้ก็ได้พาเจ้าน้องแมวสาวหวานมุ้งมิ่งอย่าง Ora Ballet Cat ได้รับความสนใจของหลายๆฝ่ายรวมไปถึง เจ้าของแรงบันดาลใจอย่าง Volkswagen อีกด้วย ล่าสุดรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้น่าจะ ออกมาเจาะกลุ่มตลาดของผู้หญิงๆ ซะมากกว่า และก็มีการกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมเวอร์ชั่นผลิตจริง

ORA Ballet Cat มีการปรับดีไซน์หลายๆส่วนให้ต่างจาก Punk Cat อยู่พอสมควรทั้งไฟหน้าที่เป็นทรงตัดมน และกันชนหลังที่ประดับด้วยโครมเมี่ยม มีกระจกข้างที่ใหญ่ขึ้น แต่ช่องชาร์จไฟต่างๆ ก็คงยังอยู่ในตำแหน่งเดิมและยังเสริมสปอยเลอร์ข้างหลังทำให้ดูน่ารักมากยิ่งขึ้น

ถ้าหากว่าภายนอกว่าสวยหวานแล้ว ภายในนั้นตกแต่งได้สวยหวานกว่ามากด้วยการดีไซน์แบบย้อนยุค โทนสีพาสเทลทูโทนราวคล้ายกับว่าหลุดมาจากยุค 1961 ยังไงอย่างนั้น พวงมาลัยทรงโบราณที่ผสมผสานกับความทันสมัยโดยเน้นเอกลักษณ์ของรูปทรงเป็นหลักทำให้มีกลิ่นอายความคลาสิกได้เป็นอย่างดี และที่น่าสนใจอีกหนึ่งสิ่งคือเรื่องของสมรรถนะ

โดยมีรายงานว่า Ora Ballet Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่มี กำลังที่ทำได้สูงสุดถึง 169 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงถึง 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประกอบด้วยแบตเตอรี่ lithium-iron Phosphate สามารถขับขี่ได้ไกลสุดถึง 400-500 กิโลเมตรเลยทีเดียว ส่วนราคาที่จำาหน่ายในประเทศจีนอยู่ในช่วง 200,000 หยวน หรือราวๆประมาณ 1.05 ล้านบาท

หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/

อ่านข่าวรถใหม่ << คลิ๊ก

OR มอบของขวัญปีใหม่ 2565 ประกาศไม่ขึ้นราคาน้ำมันทุกประเภท 11 วัน

พีทีที สเตชั่นประกาศไม่ปรับขึ้น ราคาน้ำมัน ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2564 – 4 มกราคม 2565 รวมระยะเวลา ทั้งหมด 11 วันเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้คนไทย

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด จำกัด (มหาชน) หรือ OR เทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ OR ได้เตรียมจัดกิจกรรมเพิ่มเติมรอยยิ้มและส่งความสุขให้ผู้บริโภคชาวไทยด้วยกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ

สถานีน้ำมัน พีทีที สเตชั่นและร้านค้าต่างๆในเครือ OR ดังนี้
PTT Station จะไม่มีการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดเป็นระยะเวลา 11 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2565 จนไปถึง 4 มกราคม 2565 ถึงแม้ว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ถ้าหากน้ำมันโลกนั้นปรับตัวลง ทางราคาน้ำมันบ้านเราก็จะปรับตัวลงเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ในการท่องเที่ยวช่วง ปีใหม่ 2565 นี้ และอำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง

และในขณะเดียวกัน OR ยังได้จัดกิจกรรมเติมเต็มรอยยิ้มให้ชุมชน โดยการสร้างรายได้และความภาคภูมิใจในกับชุมชนและผลิตภัณฑ์ จากโครงการไทยเด็ดกว่า2,000,000 ชิ้น เพื่อนำมามอบเป็นของขวัญให้ลูกค้าที่เคติมน้ำมันที่ พีทีที ทั่วประเทศและเมื่อเติมน้ำมันครบ 300 บาทต่อ 1 ใบเสร็จระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จนถึง 1 มกราคม 2565 รับผลิตภัณฑ์จากโครงการไืนเด็ก 1 ชิ้นต่อ 1 ใบเสร็จ

หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/

อ่านข่าวรถใหม่ << คลิ๊ก

ซื้อ EV ได้ส่วนลด รัฐอัดฉีด 4 หมื่นล้านบาท 1 ม.ค.65

มาตราการการจูงใจของรัฐบาลซื้อรถ EV ชง ครม.เคาะ 21 ธันวาคมนี้ เป็นของขวัญมีผลในวันที่ 1 มกราคม 2565 รัฐจัดหนักลดภาษี สรรพสามิตรขอจัดสรรงบประมาณ 4 หมื่น ล้านจ่ายเงินอุดหนุนคันละ 1.5 แสนบาท โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้ทั้ง กลุ่มราคา ต่ำกว่า 2 ล้านบาทและกลุ่มราคามากกว่า 2 ล้านบาทจะได้ส่วนลดถึงง 5.8 แสนบาท โดยค่ายรถยนต์ทั้ง ยุโรป-จีน-ญี่ปุ่น ให้การหนุนสุดตัว

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้บอร์ดอีวีได้จัดทำหลักเงื่อนไขมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะเสนอแพ็คเกจมาตราการดังกล่าวให้คณะรัญมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบให้ทันวันที่ 21 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมานี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

โดยมาตรการนี้จะเป็นการจูงใจให้ทุกคนหันมาใช้พลังงานสะอาดอย่างรถ EV มากขึ้น และเป็นมาตรการระยะยาวประมาณ 4-5 ปี โดยรายละเอียดมาตรการจะมีทั้งการลดภาษีสรรพสามิตร ภาษีศุลกากร และรัฐบาลให้เงินอุดหนุนภายใต้กรอบวิงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถอีวีประมาณ 300000 คันในระยะเวลา 5 ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2565

งบกลาง 4 หมื่นล้านหนุนรถไฟฟ้า

ในการดำเนินการกรมสรรพสามิตรตั้งของบกลาง 40,000 ล้านบาท สำหรับดำนเนินจูงใจประชาชนให้หันมาสนใจรถยนต์แบบ EV โดยในปีหน้าจะเป็นปีเริ่มต้นโครงการนี้ และขอเงินเริ่มต้นก้อนแรก 3,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าปีหน้านี้จะมีการจองรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 4,000 คัน ส่วนยอดทั้งปีจะตั้งเป้าสนับสนุนการใช้รถกว่า 7,500 คัน และจากนั้น จะเริ่มมีการทบทวนงบประมาณอีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ มาตรการนี้จะบรรจุเข้าเป็นวาระการพิจารณาของ ครม. ภายในวันที่ 21 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมานี้ หรืออย่างช้าที่สุดวันที่ 28 ธ.ค. นี้

แหล่งข่าวกล่าวว่า มาตราการนี้จะไม่ได้ให้เงินในการสนับสนุนโดยตรง เหมือนสมัยโครงการรถคันแรก เงินอุดหนุนจะไปถึงมือผู้ประกอบการโดยผู้ประกอบการจะจัดโปรโมชั่นลดราคารถยนต์อีวีต่อไป

ศุลการถยันไม่ได้กระทบกัยรายได้

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ปัจจุบันการนำเข้ารถ อีวีหากมีแหล่งกำเนิดจากประเทศจีน จะได้รับสิทธิประโยชน์ภาษี โดยมีอากรขาเข้าเป็น 0%ตามข้อตกลงการค้าเสรี

ส่วนลดคันละ 5-8 แสน
สำหรับรถยนต์ EV ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เมื่อเข้าร่วมโครงการนี้ สามารถคำนวนได้อย่างง่ายๆ โดยรถที่นำเข้าจาก EV ญี่ปุ่นราคาประมาณคันละ 2 ล้านบาท จะได้ลดราคาจากอัตราอากรขาเข้าหรือลดภาษีศุลกากรจากเดิมที่ต้องเสียภาษี 20% ลดลงเหลือ 0% เท่ากัยราคาลดลงถึง 350,000 บาทได้ลด อัตราภาษีสรรพสามิตรจาก 8% เหลือ 2% คิดเป็นส่วนลดอีก 120,000 บาท บวกกับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอีก 150,000 บาท

รวมทั้ง 3 รายการ แล้วผู้ซื้อจะซื้อรถอีวีจากประเทศญี่ปุ่นได้ในราคาที่ถูกลง กว่า 570,000 บาท อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการสามารถนำโปรโมชั่นส่วนนี้ไปส่งเสริมการขายเพิ่มเติมได้

และกลุ่มรถยนต์ EV ที่มีราคามากกว่า 2 ล้านบาท จะไม่ได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลแต่จะสได้รับการลดอัตรภาษีศุลกากร 40% และลดอัตราสรรพสามิตร 2% เนื่องจากรถระดับราคามากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไปในอีกกลุ่มอีวีราคารถยนต์ราคากระโดดสูงถึงคันละ 5-6 ล้านบาทเลยทีเดียวแต่อย่างไรก็ตามหากรวมการลดอากรขาเข้าและสดภาษีสรรพสามิตรแล้ว ผู้ซื้อจะได้รับการลดราคาคันละไม่ต่ำกว่า 7-8 แสนบาทเลยทีเดียว

หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/

อ่านข่าวรถใหม่ << คลิ๊ก