สาระน่ารู้ » 5 สิ่งที่ต้องดูแลสำหรับรถเก่าเกิน 10 ปี

5 สิ่งที่ต้องดูแลสำหรับรถเก่าเกิน 10 ปี

8 มกราคม 2022
1341   0

กระแสรถเก่าๆกำลังมา ช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายๆคนอยากจะได้รถเก่าๆไว้สะสมหรือเป็นรถเก่าในฝันที่อยากได้อยากครอบครอง แต่เชื่อว่างบางคนอาจจะยังไม่ รู้มาก่อนว่าการดูแลรถเก่าและรถใหม่นั้น ดูแลต่างกัน ฉะนั้นก่อนที่จะซื้อรถเก่าๆควรจะต้องศึกษาให้ดีว่า ดูแลอย่างไรบ้าง

1.หมั่นตรวจเช็คระบบของเหลวต่างๆ


หากคุณอ่านแล้วรู้สึกว่า การดูแลของเหลวนั้น มันก็ดูแลเหมือนๆกับรถใหม่ๆทั่วๆไปนั้นก็ไม่ผิด แต่การดูแลแค่เฉพาะของเหลวไม่ให้ต่ำกว่าขีดที่กำหนดนั้นอาจจะไม่เพียงพอ เพราะคุณจะต้องคอยดูแลอุปกรณ์ต่างๆของระบบเช่นท่อยางและข้อต่อต่างๆให้อยู่ในสภาพที่ปกติ ไม่รั่ว ไม่เสื่อมหรือเสียหาย และ ตรวจสีของหลวงต่างๆให้อยู่ใน สภาพสีปกติ ไม่มีคราบตะกัน หรือขี้สนิมบ่งบอกถึงสุขภาพของภายในเครื่องยนต์

2.สายพานไทม์มิ่ง

ในรถบางรุ่นอาจจะใช้เป็นโซ่ แต่ถ้าหากรถของคุณใช้เป็นระบบสายพานไทม์มิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจเช็คให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานเสมอ ไม่มีรอยแตก รอยขาด หรือควรเปลี่ยนทุก 100,000 กิโลเมตร เพราะถ้าหากเกิดขาดในขณะใช้งาน อาจจะสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงได้

3.สายคันเร่ง สายครัทช์

เป็นอีกหนึ่งจุดสำหรับคนที่ใช้รถมักจะไม่ให้ความสำคัญ โดยทั่วไปแล้ว การเปลี่ยนสายสลิงครัทช์ และสายสลิงคันเร่งนั้นจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 5 ปี หรือหากเป็นไปได้ก็เปลี่ยนทุก 150,000 กิโลเมตร เพราะสายสลิงเหล่านี้จะมีการยืดเสื่อมสภาพเสี่ยงต่อการขาดเสียหายในช่วงเวลาของการใช้งานอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้นควรตรวจเช็คและเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยของคุณนะครับ

4.หมั่นสังเกตเสียงการทำงานของเครื่องยนต์

เสียงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถบ่งบอกการทำงานและสภาพของเครื่องยนต์ได้ หากคุณเป็นคนที่ช่างสังเกตุจะรู้ได้ทันทีว่า เสียงการทำงานของเครื่องยนต์จะสามารถบอกอาการต่างๆอย่างคร่าวๆได้เป็นอย่างดี

5. ตำแหน่งของเหลวและสีของเหลวที่หยดลงใต้ท้องรถ

ตำแหน่งของเหลวที่หยดภายใต้ท้องรถ ก็สามารถบ่งบอกอาการได้เช่นกัน โดยถ้าหากของเหลวที่หยดลงตำแหน่งใต้เครื่องยนต์ก็สามารถสังเกตสีของของเหลวที่เกิดขึ้นได้
– น้ำใส ก็อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำแอร์โดยไม่ได้มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด
– น้ำสี หรือน้ำที่มีสนิมปน ในส่วนนี้อาจจะเป็นในส่วนของหม้อน้ำ ซึ่งแนะนำให้เช็คระบบท่อพักน้ำต่างๆรวมไปถึงฝาหม้อน้ำอาจจะเสื่อมจากลูกยาง หรือไม่ที่แย่กว่านั้นอาจจะเกิดจากการรั่วซึมของหม้อน้ำ
– น้ำมันสีดำหรือสีเหลืองเข้ม ส่วนนี้เกิดจากน้ำมันหล่อลื่นที่อาจจะซึมจากหลายสาเหตุ เช่น ซึมออกจากน๊อตน้ำมันเครื่อง รั่วซึมจากอ่างน้ำมันเครื่อง (แคร้ง) หรือฝาประเก็นเสื่อมน้ำมันเครื่องก็สามารถรั่วซึมได้เช่นกัน

ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสาเหตุที่ให้ของเหลวในเครื่องยนต์ขาดหรือพร่อง เป็นต้นเหตุทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหาใหญ่ตามมา