Dongfeng เปิดตัวรถกระบะคอนเซ็ปต์ปี 2024ในงาน Beijing Auto show ดึงดูดสายตาลูกค้าและได้กระแสตอบรับเป็นจำนวนไม่น้อย เรียกว่ารถรุ่นนี้ทำออกมาให้ดูคล้ายกับ Tesla Cyber truck แต่มีลักษณะที่มีความกลมมนมากกว่าทำให้ดูมีลักษณะที่ดูแตกต่างกว่าและให้อารมณ์ที่ดูละมุนกว่าเล็กน้อย
การออกแบบด้านท้ายก็ยังมีความน่าสนใจด้วยไฟวิ่งและยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลของไฟและลักษณะของแสง Dongfeng ยังติดตั้งไฟ Projector ที่ด้านหน้า และมีรายงานว่าคันนี้ได้ใช้พื้นฐานแพลททฟอร์ม Dongfeng skateboard EV และมีพละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 1305 แรงม้า ซึ่งเรียกได้เต็มปากว่า แรงกว่า Cybertruck จาก Tesla ซะอีก
และแน่นอนว่าถ้าหากเห็นรูปทรงแล้วก็อดปฎิเสธไม่ได้ว่า Dongfeng จะต้องได้รับแรงบันดาลใจจาก Cybertruck แต่ก็จะแตกต่างในเรื่องของเหลี่ยมและมุมของตัวถังและจุดเด่นคือ Light Bar แบบ LED ที่แสดงผลเป็นรูปภาพหรือโลโก้เรืองแสงแต่มีจุดเก็บของด้านหน้าที่เล็กกว่า
แม่ว่าผู้ผลิตรถยนต์จะอัพเดทเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตทุกสัปดาห์ แต่ในส่วนของความน่าสนใจคือการนำเอาเทคโนโลยีและประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้าน Formula 1 เพื่อทำให้ EV ในรุ่นต่อไปมีน้ำหนักที่เบาลงโดยเป้าหมายคือการลดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปโดยจะเพิ่มแบตเตอรี่เพื่อให้สามารถเดินทางได้ไกลมากยิ่งขึ้น
Honda 0 Series จะควบคุมในเรื่องของโครงสร้างและน้ำหนักที่เบาและมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบาลง ซึ่งพัฒนาขึ้นใหม่โดยใช้ยความชำนาญของวิศวกรรมจากทาง F1 โดยจะติดตั้งมอเตอรืและ แบตเตอรี่ให้อยู่ในช่วงศูนย์ถ่วงต่ำและอยู่ระหว่างกลางของตัวรถเพื่อเสริมในเรื่องของสมรรถนะ โดยเมื่อลดน้ำหนักแล้วจะสามารถเดินทางได้มากขึ้นถึง 300 ไมล์ตามมาตรฐาน EPA
และในปัจจุบัน Tesla เปิดให้แบรนด์อื่นสามารถเข้ามาร่วมใช้ระบบ Supercharger กันได้แล้วไม่ว่าจะเป็น Rivian Ford รวมไปถึงบริษัทอื่นๆอีกกว่า 10 ค่ายและนอกจากนั้นรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาก็ยังใช้ NACS Connector Port ใช้กับรถทุกคันเป็นมาตรฐานในอนาคต
และในอนาคตหลายๆแบรนด์กำลังเปลี่ยนมาผลิตรถ EV ที่ต้องใช้หัวชาร์จแบบ Supercharger Network แทบจะทั้งหมดการขยายที่มีรวดเร็วและครอบคลุมพอมันจะทำให้โอกาสและภาพลักษณ์และโอกาสของ Tesla ต้องเกิดความเสียหาย
หลังจากทาง Ford ได้ตั้งเป้าว่าจะเปลี่ยนมาผลิตเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อเป็นข้อกำหนดในการทางด้านควบคุมการปล่อยมลพิษของสหภาพยุโรปในปี 2030 หรือภายใน 5 ปี (หลังจากวันที่ได้ประกาศ) แต่ตอนนี้ทาง Ford ได้กล่าวว่าเขาจะกลับมาทำตลาดเครื่องยนต์สันดาปควบคู่ไปเช่นเดิมหากว่าโลกเรายังคงต้องการเทคโนโลยีในรูปแบบยนตกรรมอยู่
แม้ว่ายอดขาย EV จะมีการชลอตัวลงบ้าง แต่ทาง Ford กล่าวว่าไม่มีแผนที่จะยื้อเวลาของ Ford Focus Hatchback และทาง Sanders ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในระยะยาวผมก็ยังคงเชื่อว่า รถไฟฟ้านั้นก็คืออนาคต และเราอาจจะได้เห็นรุ่นต่อๆไปมากขึ้นในเวลาอันสมควร”
“หากต้องการยนต์กรรมที่ดีที่สุดก็ขอเสนอเป็นรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด ” Martin Sander หัวหน้าฝ่ายธุรกิจยานยนต์ของ Ford ในยุโรปได้กล่าวในงานประชุมสุดยอด Financial Time Future of the Car เรียกว่าทาง Sander ยอมรับว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันไม่ตรงกับความคาดหวัง Ford และทางบริษัทถือว่าเป็นความล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายของตัวเอง
และนี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่สู้ดีในมุมมอง ผู้บริหารระดับสูงของทาง Ford ที่เตรียมที่จะใช้เงินจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ในการเปลี่ยนแปลงโรงงานในเมือง Cologne ในประเทศ Germany ให้เป็นศูนย์กลางในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เดิมทีเลยเป็นโรงงานการประกอบ Ford Fiesta คาดว่าจะเริ่มสร้าง Ford Expiorer SUV ที่ใช้เทคโนโลยีแพลทฟอร์มจาก VW ID.4 และคาดว่าจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ภายใต้แพลทฟอร์ม VW MEB แบบเดียวกันในเดือนเดียวกัน Puma Crossover ไฟฟ้าขนาดเล็กจะเริ่มผลิตในประเทศ Romania กำหนดช่วงปลายปีนี้