สาระน่ารู้ » 10 สัญญาณที่บอกอาการเบรกกำลังมีปัญหา

10 สัญญาณที่บอกอาการเบรกกำลังมีปัญหา

20 สิงหาคม 2023
294   0

ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ระบบที่มักจะเกิดปัญหาในช่วงหน้าฝนมากที่สุดคือระบบเบรกซึ่งระบบเบรกจะสามารถบอกอาการเบื้องต้นว่ากำลังมีปัญหาในส่วนไหน และต้องทำอะไรบ้างในบทความนี้ หากเพื่อนๆเจออาการเหล่านี้ลองเทียบดูครับ ว่าใช่หรือไม่

1. เบรกดัง

เบรกดัง อาการคือมีเสียงดังในขณะที่กดเบรกจะต้องสังเกตว่ามาจากจุดใด มีเสียงจากทุกล้อหรือแค่ล้อใดล้อหนึ่ง แต่ถ้าหากเสียงมาจากล้อคู่ใดคู่หนึ่ง ตั่วอย่างเช่นมาจากล้อคู่หน้า ก็แสดงว่า ผ้าเบรกกำลังจะหมดลงทำให้เหล็กเกิดการเสียดกับจานนั่นเอง

แต่ถ้าหากเกิดเสียงแหลมดังจากเบรคล้อใดล้อหนึ่งตามความเร็วของล้อหมุนก็อาจจะเกิดจากเศษหิน หรือ วัตถุอะไรบางอย่างเข้าไปเสียดสีระหว่างผ้าเบรกควรตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็วเพื่อไม่ให้หน้าจานเบรกเกิดรอยและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

2. เบรกสั่น

อาการเบรกสั่นมักจะเกิดในช่วงหน้าฝน ซึ่งสามารถทดสอบได้จากการเหยียบเบรกเบาๆ ที่แป้นเบรกสะเทือนไปถึงพวงมาลัย หากปล่อยไว้อาจจะสั่นไปทั้งคัน โดยสาเหตุจะเกิดจากจานเบรกคดบิดตัว สึกหรอ หน้าจานมีลักษณะไม่สม่ำเสมอซึ่งสาเหตุก็เกิดจากการเบรกที่รุนแรง จะเกิดความร้อนสูงแล้วลุยน้ำ และจานเบรกไม่ได้มาตรฐานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งอาการนี้สามารถเกิดได้ทั้งระบบดิกส์เบรกและดรัมเบรกควรทำการแก้ไขโดยการเจียรหน้าจานเบรกนั่นเอง

3.เบรกปัด


เบรกปัดคืออาการเบรคแล้วรถมีอาการปัดเป๋เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เช่นถ้าหากเบรกแล้วรถมีอาการเอียงไปทางด้านซ้าย แสดงว่าจุดที่กำลังจะต้องตรวจสอบนั้นอยู่ด้านขวา ซึ่งอาจจะต้องตรวจสอบน้ำมันและสารหล่อลื่นต่างๆภายในระบบเบรก หรืออาจจะมีสารลื่นมาติดอยู่ที่หน้าเบรกทำให้ประสิทธิภาพในการจับของคาลิปเปอร์เบรก ทั้ง 2 ข้าง แตกต่างกัน


4.เบรกติด


เบรกติด อาการเบรกติดจะเหมือนว่าเบรกทำงานอยู่ตลอดเวลา หรือเหมือนกับใส่เบรกมืออยู่ตลอดเวลา สังเกตได้ว่าเมื่อรถออกตัวจะมีอาการตื้อ รถหยุดสั้นกว่าปกติ เบรกร้อน และมีกลิ่นไหม้ หรือจอดแล้วเข็นรถยาก หรือไม่สามารถเข็นได้เลย อาการเบรกติดมักจะเกิดจากลูกยางของกันฝุ่น


5.เบรกลื่น


เบรกลื่น อาการเบรกลื่นเป็นอาการที่อันเกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานเบรกถี่ๆซ้ำๆบ่อยๆจนทำให้ระบบหม้อลมเบรกผิดปกติ หรือ อาการที่บ่งบอกว่า ท่อลมเบรกนั้นอาจจะมีรอยรั่วซึมทำให้เบรกไม่สามารถปั้มลมไปยังระบบคาลิปเปอร์ได้ หรือแม่ปั้มเบรควงจรหน้าและหลังไม่ทำงาน ในส่วนของอาการเหล่านี้จะต้องเข้าศูนย์เพื่อไล่ระบบลมว่ามีจุดไหนรั่ว และไม่ควรใช้งานเป็นอย่างยิ่งเพราะอาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงจากการเบรกไม่อยู่ได้นั่นเอง


6.เบรกหมด


เบรกหมด อาการที่เบรกหมด จะสังเกตได้จากเสียงที่เกิดจากการเสียดสีของเหล็กกับหน้าจาน และประสิทธิภาพของเบรกก็จะลดลง ระยะเบรกยาวขึ้น และไม่ควรปล่อยเอาไว้ ควรรีบเปลี่ยนใหม่เพราะเหล็กของแป้าคาลิเปอร์ จะทำให้หน้าดิกส์เบรกนั้นเป็นรอย


7.เบรกกระพือ


เบรกกระพือ จะมีอาการสั่นสู้เท้าจนสามารถรู้สึกได้เมื่อเวลาแตะเบรก และ อาจจะมีอาการสั่นถึงพวงมาลัยเมื่อแตะเบรก ซึ่งเกิดจากปัญหาของหน้าจานเบรกที่มีร่องรอยของความเสียหายจากการใช้งานและขาดการดูแล จนเกิดการชำรุดเกิดร่องรอยทิ้งไว้ที่หน้าจาน ถ้าหากมีร่องรอยไม่ลึกก็สามารถแก้ไขโดยการเจียรจานถ้าหากลึกมากก็แนะนำให้เปลี่ยนจานเบรกไปเลยดีกว่า


8.เบรกแตก


เบรกแตก คืออาการที่เมื่อเหยียบเบรกไปแล้วกลับไม่มีอาการตอบสนองหรือชะลอรถลงแม้ว่าจะเหยียบลงจนสุด ซึ่งอาการเบรกแตกจะเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุเช่น

  • ความร้อนอันเนื่องมากจากการเบรกกระทัน หรือเบรกย้ำบ่อยๆ จนทำให้ระบบเบรกและน้ำมันเกิดความร้อนสูงน้ำมันเบรกก็จะเกิดการระเหยจนกลายเป็นไอจึงทำให้มีช่องวางภายในสายเบรกทำระบบเบรกไม่ทำงานในช่วงจังหวะนั้น จึงจะต้องทำการเปลี่ยนน้ำมันเบรกเพื่อไล่ละบบปีละครั้ง
  • เกิดจากรอยรั่วในระบบ เช่น เกิดการรั่วจาก ซิลต่างๆ หรืออุปกรณ์ต่างๆภายในระบบเบรกมีการรั่วซึม ทำให้เกิดช่องว่างในอากาศและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเบรกแตกได้เช่นกัน


9.เบรกจม


เบรกจม จะมีอาการคือเหยียบเบรกลึกกว่าปกติ ซึ่งถ้าหากขับรถทุกๆวันจะสามารถรู้สึกได้ ซึ่งเกิดจากระบะของผ้าเบรกมีความห่างมากขึ้น จึงทำให้ระยะของการกดเบรกต้องมากขึ้นตามไปด้วย และอาจจะถึงขั้นกดสุดแล้วยังจับได้ไม่เต็มแรง วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น ให้ช่างตรวจสอบว่าผ้าเบรกหมดหรือไม่ ถ้ายังไม่หมดก็สามารถตั้งระยะความห่างของงผ้าเบรก แต่ถ้าหากหมดก็ควรเปลี่ยนนั่นเองครับ

10. เบรกทื่อ

เบรกทื่อ คืออาการที่ต้องเหยียบแรงกว่าปกติ ระบบเบรกถึงจะทำงานซึ่งความสามารถในการควบคุมน้ำหนักเบรกในแต่ละครั้งเป็นไปได้ยาก อาการเบรกทื่อเกิดจากความผิดปกติของระบบหม้อลมเบรกที่มีอากาศมากเกินไปโดยมี น้ำมันเบรก ซิลยางหม้อลมเบรก ลูกยางแม่ปั๊มเบรก เสื่อมสภาพเสียหาย

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม