เครดิต ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนในยุกต์ปัจจุบันเป็นอย่างมากเพราะหากว่าเรานั้นไม่มีเครดิตก็จะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการกู้ยืมเงินเพื่อเช่าซื้อสินค้าที่มีราคาสูงได้เช่นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ และยังเจอกับดอกเบี้ยที่สูงลิ่วจนบางทีคุณอยากจะเบินหน้าหนีเลยทีเดียว
การให้สินเชื่อกู้ยืมเกิดขึ้นได้อย่างไร?
เรียกว่าในอดีต ระบบการกู้ยืมเงินนั้น จะเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มีความสนิทสนมกันระกหว่างผู้ขอกับผู้ให้กู้ ด้วยความสนิทสนมและรู้จักนิสัยใจคอ มีพื้นฐานครอบครัวดี มีอาชีพเป็นหลักเป็นฐานดีก็สามารถขอกู้ได้ง่าย ได้วงเงินสูง แต่ในปัจจุบันการกู้ยืมเงินได้ขยายขอบเขตออกไปมากกว่าแค่คนรู้จักกัน ซึ่งผู้ให้กู้จึงจำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลของผู้ขอกู้ในการพิจารณา
ซึ่งหนึ่งในการพิจารณาของผู้ออกสินเชื่อนั้นนอกเหนือจากข้อมูลทั่วไปอย่างรายได้สุทธิ รายต่าย ภาระหนี้ ก็คือคะแนนเครดิต ซึ่งเป็นคะแนนความน่าเชื่อถือของผู้สมัครของสินเชื่อแต่ละราย โดยรวบรวมประวัติการชำระเงินจากสถาบันรการเงินที่เป็นสมาชิคในเครดิตบูโร หรือบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งสถาบันการเงินเหล่านี้สามารถขอดูข้อมูลผู้กู้เพื่อเป็นเกณฑ์ตัดสินและพิจารณาจากคะแนนเครดิตนี้ โดยคะแนนสูงหมายความว่าเครดิตของผู้กู้ดี และมีวินัยและความสามารถในการผ่อนชำระหนี้
ในขณะที่คนที่ไม่เคยผ่านการกู้เงินใดๆ หรือไม่เคยมีแม้แต่บัตรเครดิต จึงไร้ซึ่งประวัติเกี่ยวกับคะแนนเครดิตในระบบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้คุณจะไม่มีหนี้สิน แถมมีเงินฝากธนาคาร แต่ก็จะไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า คุณนั้นมีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้ดีและตรงแค่ไหน และในขณะเดียวกัน การที่คุณไม่มีบัตรเครดิตจากสถาบันธนาคารใดๆ ก็จะถูกมองว่าคุณไม่มีความน่าเชื่ออถือพอที่จะได้รับการอนุมัติบัตรเครดิตจาสถาบันการเงินที่ใดเลย
แล้วคุณจะทำอย่างไรเพื่อที่จะให้คุณสามารถขออนุมัติได้ง่ายขึ้น
ในอนาคตถ้าหากว่าคุณอยากขอสินเชื่อ ก็จะต้องเริ่มต้นการสร้างคะแนนเครดิตตั้งแต่วันนี้ เรียกว่ามีไว้ก็ไม่เสียหายอะไร แล้วถ้าหากคุณอยากมีเครดิตคุณจะต้องเริ่มต้นอย่างไรเรามีวิธีและคำแนะนำครับ
- เริ่มต้นจากคนที่ไม่เคยมีหนี้ ไม่มีบัตรเครดิตและการผ่อนชำระใดๆมาก่อน คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการสมัครบัตรเครดิตกับสถาบันธนาคารซักแห่งเพื่อที่จะสร้างการจ่ายให้ออกมาในรูปแบบของรูปธรรม สามารถตรวจสอบได้ โดยเปลี่ยนจากการจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เราจำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือนอยู่แล้ว จากรูปแบบเงินสดมาเป็นในรูปแบบบัตรเครดิต ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้สร้างภาระหนี้สินเพิ่มเติมอย่างใด เพียงแค่เปลี่ยนช่องทางการชำระเงิน
- ชำระเครดิตให้ตรงเวลา และชำระให้เต็มจำนวน เพื่อป้องกันในเรื่องของดอกเบี้ย โดยความสำคัญนั้นอยู่ที่การชำระให้ตรงเป็นระยะเวลานานๆ เพื่อแสดงความมีวินัยทางการเงิน
- ควบคุมสัดส่วนของการจ่ายให้ดี ไม่ก่อหนี้ที่ไม่เกิดประโยชน์ในอนาคต ควรแยกแยะระหว่างหนี้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ให้ออก หนี้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เช่น สินเชื่อเพื่อการศึกษา สินเพื่อกู้ซื้อที่อยู่าอาศัย หรือ สินชื่อเพื่อการลงทุน
สำหรับคนที่เคยผิดนัดชำระ ประวัติเสีย หรือมีหนี้ค้างชำระ คุณสามารถแก้ไขได้ด้วยการเริ่มสร้างประวัติใหม่เพราะเครดิตบูโรจะเก็บข้อมูล 3 ปีย้อนหลังเท่านั้น เพราะฉะนั้นพยายามรีบทำประวัติการชำระให้ดียังไม่สายสำหรับคนที่ต้องการสร้างเครดิตเพื่อโอกาสในการขอสินเชื่อต่างๆ ในอนาคตครับ
อ่านสาระความรู้เพิ่มเติม :