สาระน่ารู้ » รับมือ!! ลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัย และน้ำสูงระดับไหนที่ไม่ควรลุย

รับมือ!! ลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัย และน้ำสูงระดับไหนที่ไม่ควรลุย

10 มิถุนายน 2020
913   0

รับมือ!! ลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัย และน้ำสูงระดับไหนที่ไม่ควรลุย
เข้าสู่ช่วงกลางปีโดยปกติแล้วเป็นฤดูมรสุมของประเทศไทยเราแล้ว และแน่นอนว่าเมื่อฝนตกหนักๆจนน้ำระบายไม่ทัน ก็ต้องเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันตามมาเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น สำหรับคนที่ใช้รถใช้ถนนก็จะต้องระมัดระวังในเรื่องของสถานการณ์น้ำท่วมให้มาก

ก่อนอื่นเราต้องรู้ระดับความสูงของรถคุณก่อนว่า รถของคุณนั้นเป็นรถประเภทไหน มีความสูงจากพื้นเท่าไหร่เพราะรถแต่ประเภทถูกสร้างขึ้นมาให้มีความสูงและโครงสร้างที่ต่างกันรวมไปถึงการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ในรถแต่ละประเภทมีปัจจัยหลักอื่นๆ ที่ควรคำนึงและต้องระวังให้มากๆ เช่น ระบบเซนเซอร์ต่างๆ รวมไปถึง ระบบดูดอากาศของเครื่องยนต์ ทั้ง SUV กระบะ และ รถเก๋ง ถ้าระบบเหล่านี้เสียอาจจะทำให้รถของคุณรวนไปทั้งระบบเลยก็เป็นได้

ในกรณีที่รถของคุณนั้นเป็นรถโหลดให้เตี้ยเพื่อความสวยงามแล้วหละก็ คุณอาจจะต้องระมัดระวังระดับน้ำให้ต่ำลงไปอีก

น้ำท่วมระดับ 5-10 เซนติเมตร

เป็นระดับน้ำที่ยังไม่มีผลกระทบกับเครื่องยนต์ในรถทุกประเภท แต่ไม่ควรขับเร็วเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะการขับรถเร็วในเหตุการณ์น้ำท่วมระดับนี้อาจจะก่อให้เกิดอาการเหินน้ำของหน้ายางทำให้เสียการควบคุมจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายร้ายแรงทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทางได้

น้ำท่วมระดับ 10-20 เซนติเมตร

เป็นระดับที่ยังไม่มีผลกระทบกับรถยนต์ทุกประเภท ควรขับรถด้วยความระมัดระวังอย่าใช้ความเร็วเกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ฝนตกหนักควรเปิดไฟหน้าหรือไฟตัดหมอกเพื่อทัศนวิสัยเช็ดเจนมากยิ่งขึ้น และ ลดความเร็วลงเพื่อระวังไม่ให้น้ำกระเด็นใส่กระจกรถคันอื่นจนทำให้เกิดอันตรายจากการบดบังทัศนวิสัยชั่วขณะ

น้ำท่วมระดับ 20-40 เซนติเมตร

เป็นระดับที่เริ่มมีผลกระทบกับรถเก๋งเล็กบางประเภท ควรขับให้ช้าลงและลดความเร็วลงเมื่อมีรถสวนมาเพื่อความปลอดภัยในเรื่องของบดบังทัศนวิสัยจากน้ำที่อาจจะถูกกระเด็นมาจากรถคันอื่นๆ

น้ำท่วมระดับ 40-60เซนติเมตร

เป็นระดับน้ำที่มีผลกับรถเก๋ง รวมไปถึงรถกระบะบางประเภทและรถ SUV รถเก๋งควรปิดแอร์รถยนต์เพื่อลดความเสียหายของคอมเพลสเซอร์แอร์ ควรเคลื่อนตัวอย่างช้าๆให้อยู่ในระดับที่คงที่ ระวังในเรื่องของน้ำเข้าท่อไอเสีย ใช้ความระมัดระวังให้มากและลดความเร็วในขณะที่ขับสวนทางกับรถคันอื่นที่สวนมาอาจจะถูกบดบังจากน้ำกระเด็นของรถที่สวนทางได้

น้ำท่วมระดับ 40-80 เซนติเมตร

เป็นระดับน้ำที่อันตรายกับรถเก๋งไม่ควรผ่าน และอันตรายกับระกระบะและรถ SUV มาตราฐานโรงงาน ควรปิดแอร์รถยนต์เพื่อลดความเสียหายของคอมเพลสเซอร์แอร์ ควรเคลื่อนตัวอย่างช้าๆให้อยู่ในระดับที่คงที่ ระวังในเรื่องของน้ำเข้าท่อไอเสีย ใช้ความระมัดระวังให้มากและลดความเร็วในขณะที่ขับสวนทางกับรถคันอื่นที่สวนมาอาจจะถูกบดบังจากน้ำกระเด็นของรถที่สวนทางได้

น้ำท่วมระดับ 80 เซนติเมตร ขึ้นไป

รถมาตรฐานโรงงานทุกประเภทไม่ควรผ่าน ยกเว้น SUV ดัดแปลงบางประเภท เพราะเนื่องจากความสูงระดับนี้เป็นความสูงที่เกินระดับของเครื่องยนต์ ระดับน้ำที่ท่วมระดับนี้อาจจะสวนท่อไอเสียหรือเข้าไปทำความเสียหายกับระบบเซนเซอร์ต่างๆของรถยนต์ได้

เรียกว่าสถานการณ์ฝนตกหนักจนน้ำท่วมฉับพลัน เป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นอกจากเราจะปรับตัวกับมันอย่างไรและควรมีน้ำใจบนท้องถนนและระวังผู้อื่นให้มากยิ่งขึ้น ควรขับรถอย่างระมัดระวังมีสติให้มากขึ้นนะครับ เพราะบางครั้งอาจจะไม่ใช่แค่คุณเท่านั้นที่อันตรายถึงชีวิต คุณเองก็อาจจะทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายจากคุณไปด้วย

อ่านสาระเพิ่มเติมได้ที่ : เติมน้ำมันเครื่องเกินขีดบน มีผลเสียอย่างไร