รถดับกลางถนนทำยังไงดี? เรียกประกันได้ไหม
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอหรืออย่างน้อยก็กลัวจะเจอกับสถานการณ์ “รถดับกลางถนน” อยู่ดี ๆ เครื่องยนต์หยุดทำงาน ขยับไม่ได้ รถข้างหลังก็บีบแตรไล่ ทำให้เจ้าของรถมือใหม่หลายคนตกใจจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดี ซึ่งจริง ๆ แล้วหากรู้วิธีรับมืออย่างถูกต้อง สถานการณ์นี้จะไม่อันตรายอย่างที่คิด และที่สำคัญ “ประกันรถยนต์” ก็สามารถเข้ามาช่วยได้ในหลายกรณีด้วย
สาเหตุหลักที่ทำให้รถดับกลางถนน
ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการแก้ไข ลองมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้รถดับกลางทาง ซึ่งมักเกิดได้จาก 4 ปัจจัยหลักคือ
1. ระบบไฟฟ้ามีปัญหา
เช่น แบตเตอรี่เสื่อม ขั้วหลวม หรือสายไฟขาด ทำให้ระบบจ่ายไฟไปยังเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ รถจึงสตาร์ตไม่ติดหรือดับกลางอากาศ
2. ระบบเชื้อเพลิงขัดข้อง
อาจเกิดจากน้ำมันหมดโดยไม่รู้ตัว ปั๊มติ๊กเสีย หรือหัวฉีดอุดตัน ส่งผลให้เครื่องยนต์ขาดเชื้อเพลิงในการเผาไหม้
3. ระบบระบายความร้อนล้มเหลว
หากหม้อน้ำแห้งหรือพัดลมไม่ทำงาน ความร้อนจะสะสมจนเครื่องยนต์ดับอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหาย
4. ปัญหาจากเครื่องยนต์โดยตรง
เช่น สายพานขาด หรือมีปัญหาภายในเครื่องยนต์ ทำให้ระบบขับเคลื่อนหยุดทำงานทันที
รถดับกลางถนนทำยังไงดี? ขั้นตอนที่ควรทำทันที
เมื่อเจอสถานการณ์นี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ตั้งสติ” แล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้อย่างปลอดภัย
- เปิดไฟฉุกเฉิน (ไฟกระพริบ)
ทันทีที่รู้ว่ารถเริ่มมีปัญหา ให้เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแจ้งเตือนรถคันอื่น ลดความเสี่ยงจากการถูกชนท้าย - ค่อย ๆ ชะลอรถเข้าข้างทาง
หากเครื่องยังพอขยับได้ ให้พยายามนำรถไปจอดในจุดที่ปลอดภัย เช่น ไหล่ทางหรือพื้นที่ว่างริมถนน ห้ามจอดกลางเลนเด็ดขาด - ตั้งป้ายสามเหลี่ยมหรือสิ่งเตือน
วางป้ายสามเหลี่ยมหรือสิ่งสะท้อนแสงไว้ด้านหลังรถห่างประมาณ 30–50 เมตร เพื่อให้รถคันอื่นเห็นชัดในระยะไกล - อย่ารีบเปิดฝากระโปรงทันที
หากรถมีควันหรือกลิ่นไหม้ ควรรอให้เครื่องเย็นก่อนค่อยเปิดฝากระโปรง เพราะอาจเกิดอันตรายจากความร้อนหรือไอน้ำ - โทรขอความช่วยเหลือ
หากตรวจเช็กเบื้องต้นแล้วยังไม่ทราบสาเหตุ ให้โทรหาบริษัทประกันภัย หรือสายด่วนฉุกเฉิน เช่น- 1644 ศูนย์ช่วยเหลือทางหลวง
- 1554 กรมทางหลวงชนบท
- เบอร์ Call Center ของบริษัทประกัน
เรียกประกันได้ไหม
คำตอบคือ ได้ แต่ต้องดูประเภทของประกันที่ถืออยู่
ประกันชั้น 1
ครอบคลุมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน (Roadside Assistance) เช่น
- บริการลากรถ (Tow Truck) ไปอู่หรือศูนย์ใกล้เคียง
- บริการช่วยสตาร์ตรถเมื่อแบตหมด
- เติมน้ำมันฉุกเฉิน (ในระยะจำกัด)
- ช่วยเปลี่ยนยางอะไหล่
ประกันชั้น 2+, 3+, และชั้น 3
อาจไม่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินโดยตรง ต้องดูเงื่อนไขของแต่ละบริษัท บางแห่งอาจมี “บริการเสริม” ที่สามารถซื้อเพิ่มได้ในราคาย่อมเยา
คำแนะนำ : ก่อนเดินทางไกล ควรเช็กเบอร์โทร Call Center ของประกันไว้ล่วงหน้า รวมถึงสอบถามว่าคุณมีสิทธิ์รับบริการอะไรบ้าง เพื่อไม่เสียเวลาเมื่อเกิดเหตุจริง
เช็กเบื้องต้นได้อย่างไร ก่อนเรียกรถลาก
หากยังปลอดภัยพอที่จะตรวจดูด้วยตัวเอง คุณสามารถลองเช็กเบื้องต้นก่อนเรียกประกันได้ เช่น
- ตรวจสอบเกียร์อยู่ที่ “N” หรือ “P” แล้วหรือยัง
- ลองหมุนกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ตใหม่ ฟังเสียงสตาร์ตว่าแบตอ่อนหรือไม่
- เปิดฝากระโปรงดูระดับน้ำในหม้อน้ำ (แต่ห้ามเปิดฝาขณะร้อน)
- ดมกลิ่นน้ำมันหรือควันไฟ หากมีกลิ่นไหม้ให้หยุดทันที
- เช็กน้ำมันเชื้อเพลิงว่ามีเพียงพอหรือไม่
หากทำตามทั้งหมดแล้วยังไม่ติด อย่าฝืนสตาร์ตซ้ำบ่อย ๆ เพราะอาจทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหายมากขึ้น
เตรียมตัวก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันรถดับกลางถนน
การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข นี่คือสิ่งที่ควรตรวจเช็กก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะหากต้องขับทางไกล
- ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง น้ำในหม้อน้ำ
- ตรวจสอบแบตเตอรี่และสายไฟต่าง ๆ
- เติมน้ำมันให้เพียงพอ อย่ารอจนขึ้นไฟเตือน
- พกอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ป้ายสามเหลี่ยม ถุงมือไฟฉาย
- ตรวจเช็คลมยางและยางอะไหล่ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- โหลดแอปของบริษัทประกันไว้ในมือถือ เพื่อเรียกบริการได้รวดเร็ว
เบอร์โทรฉุกเฉินที่ควรบันทึกไว้
| หน่วยงาน / บริษัท | เบอร์โทร | หมายเหตุ |
|---|---|---|
| ศูนย์บริการประกันภัย | ตามบริษัทของคุณ | บริการ 24 ชม. |
| กรมทางหลวง | 1586 | เหตุบนถนนสายหลัก |
| กรมทางหลวงชนบท | 1146 | เหตุบนถนนชนบท |
| ตำรวจทางหลวง | 1193 | เหตุฉุกเฉินทั่วไป |
| กู้ภัย / แจ้งเหตุฉุกเฉิน | 1669 | เหตุฉุกเฉินด้านการแพทย์ |
สรุป รถดับกลางถนนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้ารู้วิธีรับมือ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ “รถดับกลางถนน” สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน เข้าข้างทาง และโทรขอความช่วยเหลือ
อย่าลืมว่า “ประกันรถยนต์” โดยเฉพาะประกันชั้น 1 มักมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี ที่พร้อมช่วยคุณตลอด 24 ชั่วโมง
ดังนั้น ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรเช็กความพร้อมของรถ และเก็บเบอร์ประกันไว้ให้พร้อมเสมอ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเหตุไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้ารู้วิธีรับมืออย่างถูกต้อง คุณก็จะผ่านมันไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

