Blind Spot Monitor คืออะไร? ทำไมไม่ใช่รถทุกคันที่มี
ในปัจจุบัน รถยนต์สมัยใหม่มีการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยมากมายเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หนึ่งในนั้นคือ ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยผู้ขับตรวจสอบพื้นที่ที่มองไม่เห็นจากกระจกมองข้างหรือกระจกมองหลัง ระบบนี้อาจไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นรถ แต่จะพบได้บ่อยในรถระดับกลางขึ้นไป หรือในรุ่นท็อปของบางยี่ห้อ ทำให้หลายคนสงสัยว่า “ทำไมรถบางคันถึงมี แต่บางคันไม่มี” บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักระบบนี้ให้ลึกขึ้น พร้อมเหตุผลที่ทำไมผู้ผลิตจึงเลือกติดตั้งในบางรุ่นเท่านั้น สารบัญ
- ระบบเตือนมุมอับสายตา คืออะไร
- หลักการทำงานของ Blind Spot Monitor
- ทำไมรถบางคันถึงมีระบบนี้ แต่บางคันไม่มี
- ประโยชน์ของระบบเตือนมุมอับสายตา
- ข้อจำกัดของระบบเตือนมุมอับสายตา
- ควรเลือกรถที่มีระบบนี้หรือไม่?
- เคล็ดลับการใช้งานให้ปลอดภัย
- สรุป
ระบบเตือนมุมอับสายตา คืออะไร
ระบบเตือนมุมอับสายตา คือเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่ใช้เซนเซอร์หรือเรดาร์เพื่อตรวจจับยานพาหนะในพื้นที่มุมอับ ซึ่งผู้ขับไม่สามารถมองเห็นได้จากกระจกมองข้าง เมื่อมีรถอยู่ในจุดนี้ ระบบจะส่งสัญญาณเตือน เช่น ไฟกระพริบที่กระจกมองข้าง หรือเสียงแจ้งเตือน เพื่อให้ผู้ขับระมัดระวังก่อนเปลี่ยนเลน
หลักการทำงานของ Blind Spot Monitor
ระบบนี้มักทำงานโดยใช้เรดาร์หรือกล้องตรวจจับ ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหลังหรือด้านข้างรถ หลักการคือ
- ตรวจจับวัตถุในระยะที่กำหนด (โดยมากประมาณ 3–5 เมตร)
- หากพบรถหรือมอเตอร์ไซค์ในมุมอับ จะมีสัญลักษณ์ไฟเตือนที่กระจกมองข้าง
- บางรุ่นอาจมีเสียงเตือนหรือการสั่นของพวงมาลัยเมื่อผู้ขับเปิดไฟเลี้ยวในขณะที่มีรถอยู่ในมุมอับ
การตรวจจับด้วยเรดาร์หรือกล้อง
ชุดเรดาร์/อัลตร้าโซนิกหรือกล้องจะสแกนพื้นที่ด้านข้างและด้านหลังของรถอย่างต่อเนื่อง
การแจ้งเตือนผู้ขับ
แสดงไฟเตือนบนกระจกมองข้าง และอาจมีเสียงเตือน/สั่นพวงมาลัยเมื่อเปิดไฟเลี้ยว
ทำไมรถบางคันถึงมีระบบนี้ แต่บางคันไม่มี
ระดับและเกรดของรุ่นรถ
- รุ่นสูง/รุ่นท็อปมักติดตั้งเป็นมาตรฐาน
- รุ่นเริ่มต้น (Entry Level) มักตัดออปชันนี้เพื่อลดต้นทุน
ต้นทุนการผลิตและราคา
- ต้องใช้เซนเซอร์ กล้อง และซอฟต์แวร์เฉพาะ ทำให้ราคาสูงขึ้น
- หลายยี่ห้อเสนอเป็นแพ็กเกจเสริม (Optional Package)
ตลาดและความต้องการของผู้บริโภค
- ตลาดที่เน้นความปลอดภัยสูง มักติดตั้งเป็นมาตรฐาน
- ตลาดที่แข่งขันด้านราคา มักตัดออกเพื่อให้ราคาขายต่ำ
กฎระเบียบและมาตรฐานความปลอดภัย
- บางประเทศบังคับให้ติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับบางประเภท
- ในประเทศไทยยังไม่มีข้อบังคับ ขึ้นกับนโยบายผู้ผลิต
ประโยชน์ของระบบเตือนมุมอับสายตา
เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลน
- ลดโอกาสการชนกับรถ/มอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในจุดอับสายตา
ลดความเครียดของผู้ขับ
- ไม่ต้องหันคอมองบ่อย ๆ เพื่อเช็กมุมอับ
- ขับในเมืองหรือทางด่วนมั่นใจมากขึ้น
เหมาะกับสภาพถนนแออัด
- ช่วยให้ตัดสินใจเปลี่ยนเลนได้เร็วและแม่นยำขึ้น
ข้อจำกัดของระบบเตือนมุมอับสายตา
- อาจทำงานได้ไม่ดีในฝนตกหนัก หมอกหนา หรือเลนส์สกปรก
- ไม่สามารถแทนที่การใช้สายตาและความระมัดระวังของผู้ขับ
- มีโอกาสแจ้งเตือนผิดพลาดจากสิ่งกีดขวางเล็ก ๆ ข้างถนน
ควรเลือกรถที่มีระบบนี้หรือไม่?
เลือก หากคุณ:
- ขับรถบ่อยบนทางด่วนหรือถนนหลายเลน
- ต้องการลดความเสี่ยงจากการชนด้านข้างให้ต่ำที่สุด
- ขับในเมืองที่จราจรหนาแน่นและมีมอเตอร์ไซค์เยอะ
อาจไม่จำเป็นมาก หากคุณ:
- ขับในพื้นที่ชนบทที่การจราจรไม่หนาแน่น
- มีวินัยการมองกระจกและตรวจเช็กหัวไหล่เป็นประจำ
เคล็ดลับการใช้ระบบเตือนมุมอับสายตาให้ปลอดภัย
- อย่าพึ่งพาระบบ 100% ใช้ควบคู่กับการมองกระจกและหันศีรษะตรวจสอบ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบเปิดใช้งานก่อนออกเดินทาง
- ทำความสะอาดเซนเซอร์/กล้องอย่างสม่ำเสมอ
สรุป
ระบบเตือนมุมอับสายตา เป็นเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่หนาแน่น แม้จะไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นรถ แต่ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่
อ่านต่อ: