5. สิ่งหรือวัตถุที่ไม่ควรและไมมีไว้ในรถ เสริมความศิริมงคล

วันนี้แอดมินนำสิ่งของวัถุมลคลที่ไม่ควรมีติดรถไว้ เพื่อความเป็นศิริมงคล เสริมดวง เสริมการเงิน และความสำเร็จ และต้องบอกก่อนนะ ว่าเรื่องนี้่เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับวิจารณญานของแต่ละคนนะจ๊ะ


1. ไม่ควรนำวัตถุที่มีรอยร้าวหรือแตกหักไว้ในรถ เพราะมันคือสัญลักษณ์ของรักร้าวหรือการแตกหัก ไม่ลงตัว อาจจะทำให้คุณมีปัญหากับคนรอบข้าง เพื่อนฝูงหรือครอบครัวนั่นเอง

2. นาฬิกาตายหรือนาฬิกาที่ไม่ตรงเวลา ก็ถือว่าเป็นอีก หนึ่งวัตถุที่ไม่ควรมีไว้ในรถ เพราะเวลาเป็นสิ่งสำคัญกับทุกสิ่ง และเป็นสัญลักษณ์ในเรื่องของการเงินที่หยุดนิ่ง ความสัมพันธ์ที่หยุดนิ่ง ไม่มีการเติบโตหรือเดินต่อ ฉะนั้น ไม่ควรมีนาฬิกาตายในรถนะจ๊ะ

3. เหรียญหรือธนบัตร ที่ร่วงหล่นบนรถ เหรียญหรือธนบัตรนั้นถือว่าเป็นเงินตราของสูงที่คนไทยนับถือ เป็นของมงคลที่ไม่ควรทำร่วงหล่นเพราะมันหมายถึงเงินที่รั่วไหล ฉะนั้น ไม่ควรทำเงินร่วงหลุ่นในรถนะจ๊ะ

4. พวงมาลัย หรือดอกไม้ไม่ควรปล่อยให้แห้งเหี่ยว ดอกไม้หรือพวงมาลัยนั้นถึงแม้จะเป็นการบ่งบอกถึงการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การเคารพนับถือครูบาอาจารย์ ไม่ควรปล่อยให้แห้งเหี่ยวเพราะจะหมายถึง สุขภาพ ภูมิแพ้ ระบบทางเดิน สุขภาพมีปัญหา หายใจ ลำบาก และจะเกิดความสกปรกของอากาศหมุนเวียนภายในรถได้

5. ความสะอาด ความสะอาดนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรมี เพราะถ้าหากเราดูแลรถให้สะอาดแล้ว ก็ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดี เพราะไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพเท่านั้น รวมไปถึงบุคลิกที่ดีของคุณอีกด้วยนะครับ

และนี่ก็เป็นก็เป็น 5 สิ่งที่เสริมความเป็นศิริมงคล ที่จะเสริมทั้งการเงิน ความรักและสุขภาพให้กับคุณ ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลด้วยนะครับ

กฤษฎากู๊ดคาร์ โชว์รูมรถมือสอง เรามีรถให้เลือกมากมายมากกว่า 500 คัน มีรถหลากหลายรุ่น หลากหลายสีมากมายให้เป็นตัวเลือกในการซื้อรถมือสองสักคัน ให้เราบริการท่านนะครับ

กลิ่นอับชื้นในรถปัญหาปวดหัว ที่มาในช่วงฝนตก น้ำท่วม

กลิ่นอับชื้นในรถปัญหาปวดหัว ที่มาในช่วงฝนตก น้ำท่วม

เรียกว่าเป็นปัญหาสำหรับคนมีรถไปแล้วครับ สำหรับฤปัญหากลิ่นอับที่เกิดจากความชื้นในสภาวะอากาศหรือความชื้นจากปัญหาน้ำท่วมขัง ยิ่งสภาวะช่วงนี้ เสี่ยงที่จะมีน้ำจากทางเหนือไหลลงมาสู่ ภาคกลาง ก็ทำให้ท่วมขังในหลายๆพื้นที่เต็มภูมิภาค เป็นระยะเวลานานเลยทีเดียว ทำให้เกิดความขิ้นสะสมถึงแม้จะไม่ได้เปิดระบายรถก็ตาม ฉะนั้น การดูแลภายในรถยนต์์นั้นก็สำคัญ ไม่ได้หมายถึงแค่ รักษาสภาพรถเท่านั้น รวมถึงการรักษาสุขภาพของผู้ใช้อีกด้วย บทความนี้เราลองมาดูกันครับ ว่า หากคุณเจอเหตุการณ์เหล่านี้น จะทำอย่างไรให้รถของคุณนั้นกลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิม

น้ำเน่าที่ติดรองเท้า

ดังนั้นการขับรถในช่วงหน้าฝนจะต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น น้ำเน่าที่ติดรองเท้าหลังจากที่เหยียบน้ำสกปรกขึ้นมาบนรถก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ รวมไปถึงความชื้นที่เกิดจากความเฉอะแฉะ วิธีแก้ง่ายๆสำหรับน้ำติดเท่านั้นคือ กระดาษหนังสือพิมพ์นั้นเอง เพราะกระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดซับความชื้นแล้ว ยังจะช่วยในเรื่องของการดูดซับกลิ่นอีกด้วย

ใส้กรองอากาศแอร์ตัน

แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่ กลิ่นอาหารเท่านั้นที่จะทำให้ ภายในรถนั้นไม่พึงประสงค์ ฝุ่นภายในรถที่สะสมเป็นจำนวนมากๆ ก็ส่งกลิ่นได้เหมือนกัน โดยเฉพาะ ฝุ่นที่เกิดจากการแห้งจากความชื้น มันจะไม่หายไปง่ายๆ ฉะนั้น หากทำตามข้อแรกแล้ว ก็ควรเปลี่ยนกรองแอร์ทุกๆ 6 เดือนนะครับ ไม่ควรนำมาล้างหรือฉีดพ่นน้ำแล้วตากแห้งไปใช้ใหม่ เพราะเมื่อกรองอากาศแห้งก็จะทำให้ไวรัสลอยในอากาศได้ดีกว่าเดิม

กลิ่นอับชื้นที่เกิดจากเสื้อผ้า กรณีที่รถเป็นเบาะผ้า

หากคุณอ่านแล้วรู้สึกว่า เสื้อผ้าเกี่ยวอย่างไรก็เท่ากับว่า หลายๆคนอาจจะมองข้ามจุดเล็กๆ ไป เพราะการลุยฝนแล้วมาขึ้นรถก็เป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้เบาะผ้าของรถคุณนั้นมีกลิ่นอับชื้นเพราะผ่านการเก็บฝุ่นมาเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้เกิดกลิ่นได้เช่นกัน การที่เสื้อผ้าเปียกจากที่ได้ลุยฝนมาทำให้เริ่มมีกลิ่นเหม็น ฉะนั้นวิธีอย่างง่าย คือการใช้น้ำยาพ่นเบาะ หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียพ่นเบาะก็จะพอช่วยได้ครับ

น้ำเข้าใต้พรม

เชื่อว่าเป็นปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดแล้วกับน้ำเข้าใตพรม เพราะเมื่อคุณขับรถลุยน้ำท่วมก็อาจจะทำให้มีการซึมจากด้านน้อกเข้าห้องโดยสารบาง วิธีแก้ปัญหาง่ายๆคือ นำไดรเป่าผมมาเป่าให้แห้งหรือจอดรถตากแดด ระบายความชื้นนั่นเอง

และนี่ก็เป็น เกร็ดเล็กๆน้อยๆ ในช่วงฝนตกน้ำท่วมที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้ ฉะนั้นเมื่อเราไม่สามารถเลี่ยงได้ก็รับมือจัดการกับปัญหาตามวิธีต่างๆที่ผมได้นำมาฝากไว้นะครับ

กฤษฎากู๊ดคาร์ โชว์รูมรถมือสอง เรามีรถให้เลือกมากมายมากกว่า 500 คัน มีรถหลากหลายรุ่น หลากหลายสีมากมายให้เป็นตัวเลือกในการซื้อรถมือสองสักคัน ให้เราบริการท่านนะครับ

Hyundai Staria – Load 2022 เวอร์ชั้นตู้ทึบเพื่อพาณิชย์

Hyundai Staria – Load 2022 ใหม่ เวอร์ชั่นตู้ทึบไร้เบาะหลังเตรียมวางจำหน่ายแล้วที่อเมริกา สามารถเลือกได้ทั้งรุ่นแบบ 5 ที่นั่ง หรือ 2 ที่นั่ง เริ่มต้นเคาะราคาจำหน่ายที่ 45740 ดอลลาร์ ออสเตรเลียหรือราวๆ ประมาณ 1,110,000 บาท

Hyundai Staria – Load 2022 ใหม่ ได้เริ่มการทำตลาดแทนที่ Hyundai iLoad ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น การพาณิชย์ของ Hyundai H-1 ที่จำหน่ายมาเปนระยะเวลานานซึ่งเป็นการนำเอา Hyunndai Staria มาปรับโฉมใหม่ให้กลายมาเป็นรถตู้ทึบ และปรับเปลี่ยนเป็นช่วงล่างที่เหมาะสมกับการขนของหนักๆ ด้วยแหนบซ้อน ส่งผลทำให้สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุด ถึง 1.09 ตัน และสามารถลากจูงได้ สูงสุดถึง 2,500 กิโลกรัม

สัดส่วนพื้นที่ของ Hyunda Staria-Load ตัวนี้จะมาขนาดใหญ่และสูงขึ้นกว่าตัว iLoad เดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยมีความยาวที่ 2,607 มม. กว้าง 1640 มม. และมีคววามสูงถึง 1436 มม.อีกทั้งยังลดความสูงจากพื้นเพื่อถ่ายเทสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และประตูท้าย เปิด-ปิด ก็สามารถเลือกได้ ถึง 2แบบ คือเปิดยกขึ้นทั้งบาน และแบบ คล้ายตู้กับข้าวเพื่อความสะดวกในการใช้งานในที่แคบๆ

ในส่วนของภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือก 2 แบบ ทั้ง 2 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง ตามลักษณะการใช้งาน พร้อมด้วย อุปกรณ์มาตราฐานแทบจะไม่ได้ต่างจากรถยนต์รุ่นแบบนั่ง ติดตั้งระบบ จออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay/Andriod Auto ที่สามารถชาร์จโททรศัพท์ไร้สาย เบรคมือไฟฟ้ามีฟังค์์ชั่น Auto Hold พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง กล้องมองภาพเป็นแบบรอบคันแบบ Surrounnd View Monitor และถุงลมนิรภัย 7 ชิ้น

นอกจากนี้ ยังเพิ่มความปลอดภัย Hyundai SmartSense เป็นมาตราฐานประกอบด้วย ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCA-JT) ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Smart Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go ระบบ เตือนจุดอับสายตา (BCA-R) ระบบบประคองรถ ให้อยู่ในเลนส์ (LKA) ระบบเตรืือนรถออกนอกเลนส์แบบม่ได้ตั้งใจ (LVDA) เซนเซอร์กะระยะหน้า-หลัง (PDW) และระบบเตือนรถเครื่องผ่านขณะกำลังออกจากรถ Safe Exit Warning

ในส่วนของขุมพลังเครื่องยนต์์ได้ติดตั้งเครื่องยนต์ ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร CRDi กำลัง สูงสุด 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

ราคาวางจำหน่าย Hyundai Staria-Load 2022 รุ่นนี้จะมีการวางจำหน่ายถึง 2 รุ่น ทั้งแบบ 2 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง ประตูฝาท้าย มี 2 แบบ เริ่มต้นวางจำหน่ายที่ 45,750 ดอลลาร์ออกเตรเลีย หรือประมาณ 1,110,000 บาท และรุ่น 5 ที่นั่ง เริ่มต้นที่ 48,240 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ประมาณ 1,700,000 บาท

หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/

Rolls-royce เตรียมเปิดตัวในวันพรุ่งนี้รถยนต์ เป็นไฟฟ้าแบบ 100%

เรียกว่านับถอยหลังได้เลยสำหรับ Rolls-Royce ที่กำลังจะเปิดตัวรถ EV ไฟฟ้า 100% ในวันพุธที่ 29 กันายายน เวลา 08.00 น. ในฝั่งของ ยุโรป แม้ว่า ทาง Rolls-Royce ได้ให้ขอมูลอย่างไม่เป็นทางการ เรื่องการปรับแผนการตลาดในอนาคต แต่ดูๆแล้ว ในอนาคตอันใกล้ทาง Rolls-Royce ก็พร้อมที่จะนำเสนอรถรุ่นนี้เข้าสู่ตลาดรถไฟฟ้าสุดหรู

รถหรูหลายๆ ค่ายทั่วโลก เลือกที่จะวางตลาดรถไฮบริด หรือรถ พลังงานไฟฟ้า EV 100% อย่างเต็มตัว และเชื่อว่าเราอาจจะได้เห็นรถพลังงานไฟฟ้า ในรุ่น Wraith และ Dawn ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปล่อย Rolls-Royce 102EX Concept

ในงาน Geneva Motor Show เมื่อปี 2011 ในร่างของ Rolls-Royce Phantom ที่เป้นรถไฟฟ้าล้วนๆ ที่สามารถ วิ่งไกลได้สามารถวิ่งไกลได้ 200 กิโลเมตร มีแรงม้าถึง 389 แรงม้า และแรงบิดที่ 800 นิวตันเมตรอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ต่ำกว่า 8 วินาที โดยตอนนั้นยังมีขีดจำกัดในเรื่องของแบตเตอรี่นั่นเอง


หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/

ลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัย อ่านไว้ปลอดภัยแน่

ลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัย อ่านไว้ปลอดภัยแน่

สภาพอากาศที่แปรปวน อาจจะทำให้น้ำท่วมหรือขังในหลายๆพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพายุฝน หรือ ภัยธรรมชาติ และแน่นอนว่า สถานการณ์เหล่านี้ไม่เคยมีใครคาดคิดว่า จะเกิดในพื้นที่ใดบ้าง และมีความร้ายแรงระดับไหน ฉะนั้นเมื่อคุณจำเป็นต้องผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมขังเหล่านี้เราควรจะมีความรู้เพื่อเตรียมรับมือ ในการดูแลรถที่เรารักได้ใช้ไปนานๆ

1.สังเกตระดับน้ำ

การสังเกตระดับน้ำเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะมันคือการตัดสินใจของคุณ เมื่อทางข้างหน้าหากเห็นว่า ระดับน้ำนั้นสูงกว่า 30 เซนติเมตร ไม่ควรลุย เป็นทางต่ำหากไม่จำเป็นต้องผ่านเส้นทางนั้นเราควรหลีกเลี่ยงเพราะเมื่อเราลุยน้ำที่มีระดับสูงกว่าฝากระโปรงอาจจะทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์ทางช่องดูดอากาศหรือสวนเข้าทางท่อไอเสียอาจจะทำให้เกิดความเสียหายถึงภายในเครืองยนต์ได้

2.ดับแอร์เมื่อต้องขับรถลุยน้ำท่วมขัง

สิ่งต่อมาที่ควรทำหลังจากคุณสังเกตระดับน้ำแล้วนั้น เมื่อคุณตัดสินใจที่จะลุยฝ่าเส้นทางน้ำขังหรือท่วมขัง ควรรีบปิดแอร์เป็นสิ่งแรกก่อนที่จะเริ่มลุยน้ำท่วม เพราะถ้าหากคอมเพลสเซอร์แอร์ เพราะถ้าหากระดับน้ำสูง จะทำให้คอมแอร์นั้นเสียหาย ถึงกับต้องเปลี่ยนคอมเพลสเซอร์ใหม่หลายบาทกันเลยทีเดียว

3.เมื่อเครื่องดับ ไม่ควรสตาร์ท

ในกรณีที่เครื่องยนต์ดับขณะอยู่ในน้ำท่วมขังสูง ไม่ควรสตาร์ทรถโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้น้ำถูกดูดกับเข้าเครื่องโดยทันที ฉะนั้น ควรจะขอความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายรถไปในจุดที่ปลอดภัยแล้วค่อยสตาร์ทรถครับ

4.ควรรักษาระดับความเร็วให้คงที่

เมื่อลุยน้ำท่วม ควรชลอความเร็ว และการรักษาระดับความเร็วของรถเมื่อต้องลุยน้ำอาจจะทำได้ไม่ง่ายทุกครั้งไป เพราะเมื่อรถข้างหน้าเบรค คุณก็ต้องเบรคฉะนั้นมันก็มีเทคนิกง่ายๆคือการรักษาระยะห่างของรถให้มากพอสมควร หรือหากเมื่อต้องหยุดรถจริงๆ ก็จะต้องคอยเร่งเครื่อง ประมาณ 1,500-2,000 รอบต่อนาที เอาไว้ให้มีแรงดันที่ท่อไอเสียเพื่อไม่ให้น้ำสวนเข้าไปจนเกิดความเสียหาย รถเกียร์ออโต้ควรใช้เกียร์ ต่ำ หรือ เกียร L ส่วนเกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 2

5.เมื่อขับสวนกับรถคันอื่นควรลดความเร็ว

เมื่อขับสวนทาง ความเร็วนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะคลื่นน้ำที่ซัดส่วนทางกันเป็นปัจจัยที่ทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์จนเกิดความเสียหายหนักได้

6.เมื่อถึงจุดหมายแล้ว ไม่ควรดับเครื่องในทันที

ความชื้นที่เกิดจากการลุยน้ำอาจจะค้างอยู่ในส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ เซนเซอร์ต่างๆ จนเกิดความเสียหาย หรือการทำงานผิดเพี้ยนในอนาคต และควรเหยียบเบรคย้ำๆ เพื่อไลความชื้นและน้ำออกจากระบบเบรค

และนี้ก็เป็นอีก 1 เทคนิกในการดูแลรถยนต์ในช่วงน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงเครื่องยนต์เสียจนเกิดความเสียหาย ฉะนั้น ขอให้ขับรถโดยมีสติ และปลอดภายทุกท่านครับ

กฤษฎากู๊ดคาร์ โชว์รูมรถมือสอง เรามีรถให้เลือกมากมายมากกว่า 500 คัน มีรถหลากหลายรุ่น หลากหลายสีมากมายให้เป็นตัวเลือกในการซื้อรถมือสองสักคัน ให้เราบริการท่านนะครับ

หาก Porsche 911 EV เป็นรถโมเดลสุดท้าย ที่จะกลายเป็นรถไฟฟ้า

หาก Porsche 911 EV เป็นรถโมเดลสุดท้าย ที่จะกลายเป็นรถไฟฟ้า

หากพูกถึง Porsche 911 คุณก็จะนึกถึง เจ้าชายกบทที่เป็นของเล่นของเศรษฐีในยุกคเก่าๆ ที่เป็นเครื่องยนต์ 6 สูบ วางกลางและยังระบายความร้อนด้วยอากาศ เสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ด้วยในยุคปัจจุบันบทบาดของระบบไฟฟ้านั้นกำลังเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์สันดาปแบบเก่าๆ ซึ่งแน่นอนว่าในบรรดาคนรักรถพอร์ชก็รู้สึกเป็นกังวลว่า Porsche 911 จะกลายเป็นรถยนต์ลูกผสมแบบ Hybrid ในช่วงเวลาต่อจากนี้หรือไม่ คำตอบคือ คงจะใช่แต่ คงใช้เวลากว่า 10 ปี เจ้าสปอร์ทรุ่นนี้จึงจะกลายเป็นรถไฟฟ้าอย่างเต็มตัว

โปรเจกต์การออกแบบนี้ได้ออกแบบใหม่นี้ได้เริ่มขึ้นที่ สถาบันวิทยาลัยศิลป์ ARTcenter แห่ง Pasadena Boldog ซึ่งได้ออกแบบตามจินตนาการอนาคต 911 ที่ยังคงเอาความคลาสสิกทั้งรูปลักษณ์และสัดส่วน

เครื่องยนต์วางกลาง และรูปลักษณ์ ผสมผสานกับความสมัยใหม่ ช่วงท้ายได้ออกแบบใหม่ทั้งหมด ผสมผสานหลักอากาศพลศาสตร์ที่ลื่นไหล ดักอากาศด้วยช่องระบายอากาศด้านข้างระบายออกทางด้านหลังแบบโดยตรง

บางคนอาจจะขัดหูขัดตากับการออกแบบครั้งนี้ไปบ้างแต่เชื่อว่า เมื่อถึงจุดที่จะต้องเปลี่ยนแปลง รถยนต์สปอร์ทหรู 911-E พลังงานไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า นั้นก็น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด ฉะนั้นต้องคอยติดตามกันต่อไปครับ


หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/

อ่านข่าวรถใหม่ << คลิ๊ก

4 วิธีดูปีผลิตรถยนต์แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องดูเล่ม

เทคนิกการดูปีผลิตรถยนต์แบบไม่ใช่แค่เล่มหรือคู่มือเอกสารเท่านั้นที่จะบอกปีรถคันนั้นๆ เราสามารถดูได้ 4 ส่วนหลักคือ เลขปีผลิตกระจกรถ ปีผลิตล้อยาง และเข็มขัดนิรภัย และ รหัสลับที่ซ่อนอยู่ภายในเพลทรถยนต์ หรือเลขตัวถังก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถบอกปีรถยนต์ได้เช่นกัน

1.ปีผลิตกระจกรถยนต์

คุณอาจจะมองข้ามทุกครั้ง อันที่จริงแล้วมันมีความลับในการดูปีผลิตของกระจกรถก็สามารถบอกปีของรถยนต์ได้เพราะการผลิตรถยนต์แต่ละครั้งทางผู้ผลิตรถยนต์ จะมีการตีระบุล๊อตและปีที่ผลิตไว้ที่มุมกระจกเสมอ คุณสามารถสังเกตุปีผลิตได้จากส่วนนี้

การดูตัวเลขที่กระจะ จะสังเกตุได้ว่า หากลงท้ายด้วยเลข 0 จะเท่ากับว่า วัสดุชิ้นนี้นั้นผลิตในปี 2010

แต่อย่างไรก็ตาม การดูปี ที่กระจกนั้นอาจจะไม่ตรงเสมอไป เพราะความจริงแล้ว เมื่อลงท้ายด้วยเลข 0 ก็อาจจะเป็น ปี 1090, 2000 หรือ 2010 ก็เป็นได้ ฉะนั้น คุณควรจะรู้ข้อมูลเบื้องต้นของรถยนต์คันนั้นบ้างว่าเป็นรถ ที่ถูกวางจำหน่ายในช่วงปีไหน

อีกหนึ่งความลับของสายการผลิตกระจกรถยนต์ คือระบุถึงเดือนที่ผลิตกระจกจะมีการใช้รหัสลับด้วยการใช้ จุด (.) เป็นสัญลักษณ์ ตัวอย่างคือ

0 – มกราคม 2553
… … … … … 0 – กุมภาพันธ์ 2553
… … … … 0 – มีนาคม 2553
… … … 0 – เมษายน 2553
… … 0 – พฤษภาคม 2553
… 0 – มิถุนายน 2553
0. – กรกฎาคม 2553
0. … – สิงหาคม 2553
0. … … – กันยายน 2553
0. … … … – ตุลาคม 2553
0. … … … … – พฤศจิกายน 2553
0. … … … … … – ธันวาคม 2553

การดูวันเดือนปีของกระจกรถ ก็สามารถบอกสภาพและความสมบูรณ์ของรถยนต์ คันนั้นๆ ได้เหมือนกัน หากมีการชนหนักแน่นอนว่ากระจกรถยนต์จะต้องถูกการเปลี่ยน ฉะนั้น หากเห็นว่ากระจกแต่ละบานปีผลิตไม่เหมือนกันก็สามารถสันนิษฐานได้ว่า อาจจะเกิดจากการถูกเปลี่ยนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2. ป้ายปีผลิตเข็มขัดนิรภัย

ปีผลิตเข็มขัดนิรภัยเป็นส่วนที่ชัดเจนและค่อนข้างแม่นยำมากที่สุด เพราะปีการผลิตเข็มขัดนิรภัยจะผลิตใกล้เคียงกับตัวรถ เมื่อผลิตสารรัดแล้วก็จะถูกในมาประขอบเข้ากับตัวรถทันที ฉะนั้น เป็นส่วนที่สามารถแม่นยำที่สุด

3.ปียาง

การดูปีผลิตยางนั้นก็เป็นอีก หนึ่งจุดที่สามารถสังเกตุและบอกเราได้ว่ารถนั้นได้ถูกผลิตขึ้นเมื่อปีไหน โดยมากแล้ว รถที่ผลิตออกมาจากฐานผลิตจะถูกใช้ยางที่เป็นมาตรฐานของรถรุ่นนั้นๆ โดยทั้งยี่ห้อยางที่ใช้ก็จะเป็นยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสมที่สุดฉะนั้นการสังเกตปียางก็สามารถบอกเราได้เช่นกันครับว่า คันนี้ได้ผลิตขึ้นเมื่อปีอะไร แต่การดูแบบนี้ จะไม่สามารถใช้ได้กับรถยนต์ที่มีปีลึกเพราะอาจจะถูกเปลี่ยนยางมาหลายครั้งแล้วนั่นเองครับ

4.เพลทรถยนต์

เพลทรถยนต์นั้นเป็นหัวใจหลักหรือเปรียบได้กับบัตรประชาชนของรถยนต์คันนั้นๆ ในเพลทนั้นอันที่จริงแล้วสามารถบอกอะไรได้หลายๆอย่าง เช่น ขนาดของเครื่องยนต์ ลักษณะของตัวถัง โซนฐานการผลิต หรือ โรงงานที่ผลิต ในส่วนของปีผลิตนั้นจะถูกใช้เป็นตัวอักษรแทนปี ดังนี้

ตัวอย่างการดูปีนั้นคืออักษรหรือเลขตัวที่ 10 ในแถว จากเลขเพลท หรือ เลขตัวถัง 17 หลัก
1FT LP62W4 [G] H128703 โดยในแถวนี้จะเป็นตัวอักษร G ก็เท่ากับว่า เป็นปี 2016 นั่นเอง

CODEYEAR
32003
42004
52005
62006
72007
82008
92009
A2010
B2011
C2012
D2013
E2014
F2015
G2016
H2017
J2018
K2019
L2020
M2021

สุดท้ายนี้

หวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ทุกท่านเพื่อที่จะได้ทราบว่า รถที่อยู่รอบๆตัวคุณนั้นเป็นรถปีอะไร หรือใช้ประโยชน์ในการจัดซื้อรถยนต์นะครับ

กฤษฎากู๊ดคาร์ โชว์รูมรถมือสอง เรามีรถให้เลือกมากมายมากกว่า 500 คัน มีรถหลากหลายรุ่น หลากหลายสีมากมายให้เป็นตัวเลือกในการซื้อรถมือสองสักคัน ให้เราบริการท่านนะครับ

คันจริง!! Mercedes-Benz EQE 2022 รถไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 2 ของค่าย

คันจริง!! Mercedes-Benz EQE 2022 รถไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 2 ของค่าย

Mercedes-Benz EQE 2022 ถูกจัดวางอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับรถเบนซ์ E-Class แต่เป็นรถ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกในงาน IAA Mobility 2021 (Internationale Automobil Ausstellung หรือ International Motor Show Germany) ในเมือง มิวนิค ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานที่โชว์เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าหลากลายรุ่น ทั้งในรูปแบบ รถเตรียมวางตลาดจริงและรถคอนเซพท์คาร์

เรียกว่ามาคราวนี้ ดีไซน์ปรับเปลี่ยนหมดจนดูแปลกตา ทันสมัยมากยิ่งขึ้น มีสัดส่วนที่ดูคล่องตัว ไม่เทอะทะมากนัก กระจังหน้าสีดำติดโลโก้ดาว 3 แฉกภายใน และมีเซลเซอร์ต่างๆอยู่ภายใน มีดีไซน์ทันสมัยมากยิ่งขึ้น และดูคล้ายกับ Mercedes EQS รถหรูหราพลังงานไฟฟ้ารุ่นพี่ใหญ่

Mercedes EQE ใหม่มีขนาดตัวถัง ใกล้เคียงกับ CLS โฉมปัจจุบัน เป็นฝากระโปรงท้าย แบบ Rift Back สามารถเปิดได้ทั้งบานกระจก ซึ่งเป็นท้ายที่ดูสั้นเป็นพิเศษ ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ Full-Width LED ลากยาวเต็ม 2 ฝั่งแม๊กซ์ล้ออัลลอยขนาด 19-21 นิ้ว ลาย 5 แฉก

โครงสร้างสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อรถยนนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยมาคราวนี้ถูกเรียกว่า Electric Vehicle Architecture (EVA-2 ) ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบเดียวกับรถรุ่นพี่ใหญ่อย่าง EQS ซึ่งเป็นช่วงล่างแบบ บอร์ดสามารถบรรจุชุดแบตเตอรี่ไว้ใต้พื้นห้องโดยสาร ทำให้พื้นที่ห้องโดยสารมีขนาดที่เล็กและกว้างขวาง

ในส่วนของระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,120 มม. สั้นกว่า รุ่นพี่ถึง 90 มม. แต่กลับความกว้างส่วนของภายในมากกว่า EQS ถึง 80 มม. และยังมีฟังค์ชั่นต่างๆ ที่เทียบเคียงกับรุ่นพี่ โดยจะเห็นได้ชัดว่า มี จอ MBUX Hyperscreen ประตูคู่หน้าแบบอัตโนมัติ (Automatic Comfort Doors) และระบบเลี้ยวล้อหลัง (Rear-axle Steering) จากการปรับปรุงช่วงล่าง และเปลี่ยนเครื่องยนต์สันดาปกลายมาเป็น มอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีความเงียบ แบบสุด และแรงสั่นสะเทือน ที่ต่ำสุด เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน

ภายในจุดที่เด่นที่สุด จะเป็นจอกลาง ที่เป็นแผงแดชบอร์ด บริเวณคอนโซลหน้า จะเป็นแบบกระจกโค้ง หน้าจอ BMUX Hyperscreen 56 นิ้ว แบ่งเป็น 3 ส่วน คือหน้าจอแสดงผลการขับขี่ เครื่องเสียงและจอ OLED ฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า ที่สามารถชมความบันเทิงได้ตามต้องการ

Mercedes EQE เปิดตัวด้วยรุ่น EQE ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลัง 929 แรงม้า ให้กำลังแรงบิดสูงสุด ที่ 530 นิวตันเมตร และมาพร้อมด้วยประจุแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนขนาด 90 กิโลวัตต์ต้อชั่วโมง สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางยาว 545-660 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มๆ 1 ครั้ง

สามารถชาร์จไฟฟ้าได้จากพลังงานที่ 10% จนไปถึง 80% ในเวลา เพียงแค่ 30 นาที แบบ DC และสามารถ ชาร์ตแบบเร่งรีบเพื่อให้ได้ระยะทาง 250 กิโลเมตร จะใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น

นอกจากนี้ ทาง เบนซ์ยังมีแฟนวางจำหน่ายรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 MATIC ที่เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนของเพลาขับหน้า และรุ่นที่มีสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes- AMG ซึ่งเพิ่มพละกำลังสูงสุดถึง 680 แรงม้าเลยทีเดียว

ในส่วนของกำหนดการวางจำหน่ายจะมีขึ้นในช่วงกลางปี 2022 และจะส่งจำหน่ายในโซนยุโรปเป็นที่แระ และต่อมาเป็นโซนสหรัฐอเมริกาเป็นที่ถัดไป ส่วนประเทศจีนนั้นมีฐานผลิตอยู่แล้ว ก็สามารถประกอบและวางจำหน่ายได้ทันทีในเวลาถัดมา

หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/

อ่านข่าวรถใหม่ << คลิ๊ก

หลักการดูเลขทะเบียนมงคล ตามวันเกิด เสริมดวงหนุนชะตา

ในเรื่องของผู้ที่มีความเชื่อทางด้านตัวเลข มักมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของชาวไทยมาอย่างยาวนาน เรียกว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมักจะถูกเชื่อโยงในหลายๆเรื่องไม่ใช่เพียงแค่เลขประจำยานพาหนะเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเลขเบอร์มือถือ หรือ เลขที่บ้าน

หลักการเลือกเลขทะเบียนมงคล

  1. เลขทะเบียนนั้นไม่ควรเป็นเลข 1 ทั้งคู่เพราะศาสตร์เลขโบราณเชื่อว่า เป็นเลขของการศูนย์เสีย เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของ โลงศพ เช่น 1122 8811 หรือ 2811
  2. เกณฑ์ทะเบียนรถดี ตัวเลขตัวแรกบวกกับตัวสุดท้าย ได้ผลลัพท์ 5 ตัวอย่างเช่น 4221 คือ [4] 22 [1] 4+1=5 นั่นเอง
  3. ตัวเลขแถวไม่ควรถูกคร่อมด้วยเลข 1 เพราะทางศาสตร์แห่งตัวเลขเชื่อว่าเป็นเป็นตัวเลขของโลงศพ เช่น 1551, 1991, 1331 เป็นต้น
  4. ตัวเลขทุกตัวควรรวมกันแล้วไม่ได้ผลลัพท์ที่ 13 เพราะเป็นเลขความเชื่อ เลขแห่งวิญญาณ เพราะเมื่อกลับตะแคงข้าง 13 จะกลายเป็นคำว่า ผี
  5. เกณฑ์ เลขคู่หน้า หรือเลขคู่หลัง ควรบวกกันแล้ว ผลลัพธ์ไม่ควรได้ 13 เพราะความเชื่อนั้นจะเหมือนกับข้อ 4
  6. เกณฑ์ทะเบียนรถที่ดีจะต้องบวกกันแล้วได้ผลลัพธ์มากกว่า 5 ขึ้นไป
  7. ตัวเลขคู่หน้าและคู่หลัง บวกกันแล้วควรจะได้ตัวเลขรวมกันตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ก็จะถือว่าเป็นเลขเสริมมงคลเสริมดวงครับ

สุดท้ายนี้

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธรการดูเลขมงคลเสริมดวง ที่นำมาฝาก เพื่อนๆลองคำนวนเลขทะเบียนของเพื่อนๆแล้วหรือยังครับ แอดมินต้องออกตัวก่อนนะครับ ว่า การดูเลขมงคลแบบนี้นั้น ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลทั้งนี้ เพื่อเสริมความมั่นใจ ความสบายใจ หากเพื่อนๆ ใช้รถใช้ถนนก็ใช้อย่างระมัดระวัง มีสติ และรู้ให้อภัยกับเพื่อนร่วมทางไม่ว่าเลขไหนก็ปลอดภัยครับ


กฤษฎากู๊ดคาร์ โชว์รูมรถมือสอง เรามีรถให้เลือกมากมายมากกว่า 500 คัน มีรถหลากหลายรุ่น หลากหลายสีมากมายให้เป็นตัวเลือกในการซื้อรถมือสองสักคัน ให้เราบริการท่านนะครับ

Sony ยังเดินหน้าต่อกับ อุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยแนวคิด Vision-S

Sony ยังเดินหน้าต่อกับ อุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยแนวคิด Vision-S

อุตสาหกรรมยานยนต์ของ Sony ยังคงดำเนินต่อไปถึงแม้ว่าจะไม่มีแผนกำหนดการเปิดตัวว่าจะได้เห็นโฉมเต็มเมื่อไหร่ หลังจากที่เปิดตัวในงาน Consumer Electronics Show เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา ในงานเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นภายใต้แนวคิด Version-S แต่ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับปรุงครั้งล่าสุด ก็เมื่อเดือน พฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา

ในปัจจุบันแนวคิด Vision-S นั้นเป็นอย่างไร นาย Kawanishi กล่าวว่า Sony ยังไม่มีแผนที่เป็นรูปธรรมในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงวิจัยและพัฒนา “เรามีการตรวจสอบสิ่งที่ที่เป็นวัตถุประสงค์หลักของการบริการต่างๆที่ใช้ร่วมกับการเดินทาง ฉะนั้นจะต้องมีการวิจัยและพัฒนาอย่างละเอียดรอบคอบ” Kawanishi ได้ตอบกับสื่อต่างๆ

ซึ่งแน่นอนว่า Sony Vision-S เป็นห้องทดสอบแนวคิด ว่าชาวญี่ปุ่นนั้นมีศักยภาพอย่างไร ในด้านยานยนต์ มีระบบ 360 Reality Audio ที่สร้างบรรยากาศของเสียงสำหรับผู้โดยสารแต่ลฃะคนรวมถึงการเชื่อต่อผ่านระบบ 5G ที่สามารถเชื่อต่อผ่านระบบ PlayStation เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทาง Sony เองก็ไม่สามารถแยกสิ่งเหล่านี้ออกจากกันได้ ไม่ว่าจะเป็น เกม เพลง ภาพยนต์ ก็จะถูกเอามาใส่ไว้ในเทคโนโลยียานยนต์ที่จะถือกำเนิดขึ้นใหม่ภายใต้บริษัท Sony อีกด้วย

Kawanishi ได้กล่าวว่า Vision-S ไม่ได้ถือกำเนิดมาเพื่อการเดินทางเพียงเท่านั้นแต่จะต้องมีความบันเทิงภายในรถที่เหมาะสมอีกด้วยและในอนาคตเราอาจเห็นเทคโนโลยีของทาง Sony เข้าไปอยู่ในรุแบรนด์หลักๆชั้นนำก็เป็นไปได้ครับ

หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/

อ่านข่าวรถใหม่ << คลิ๊ก