
ซื้อรถคนละครึ่ง ใส่ชื่อในเล่มทะเบียนร่วมกันได้ไหม? คู่มือที่หลายคนกำลังหาคำตอบ (อัปเดตล่าสุด)
ปัจจุบันการ “ซื้อรถแบบหารกัน” หรือ ซื้อรถคนละครึ่ง ไม่ว่าจะซื้อกับ แฟน สามี–ภรรยา เพื่อน หรือพี่น้อง กลายเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยขึ้นมาก โดยเฉพาะในยุคที่ราคารถสูงขึ้นและภาระค่าใช้จ่ายต้องแบ่งเบา การซื้อร่วมกันจึงเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ผ่อนสบายขึ้น แต่คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “ซื้อรถคนละครึ่ง ใส่ชื่อในเล่มทะเบียนร่วมกันได้ไหม?” อัปเดตคำตอบตามกฎหมายจริง วิธีดำเนินการเอกสาร ข้อดี–ข้อเสีย รวมถึงคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณวางแผนซื้อรถร่วมกันได้อย่างไม่เสี่ยงในอนาคต
ซื้อรถคนละครึ่ง ใส่ชื่อในเล่มทะเบียนร่วมกันได้ไหม?
คำตอบคือ “ปกติแล้ว ไม่สามารถใส่เจ้าของรถมากกว่า 1 คนในเล่มทะเบียนได้” เพราะกรมการขนส่งทางบกระบุให้ “รถ 1 คัน ต้องมีเจ้าของตามกฎหมายเพียง 1 รายชื่อเท่านั้น” ดังนั้น แม้คุณจะ ออกเงินซื้อรถคนละครึ่ง หรือ หารกันซื้อกับแฟน/เพื่อน แต่ในเล่มทะเบียนจะมีชื่อ เจ้าของจริง ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมี วิธีป้องกันความเสี่ยง และวิธีทำสัญญาระบุสิทธิ์ร่วมกันได้ ซึ่งจะอธิบายในหัวข้อด้านล่าง
กรณีที่ยังผ่อนอยู่กับไฟแนนซ์ ทำชื่อร่วมได้ไหม?
กรณีซื้อรถผ่อนกับไฟแนนซ์ จะมี บริษัทไฟแนนซ์เป็นผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ และคุณเป็นเพียง “ผู้เช่าซื้อ” ซึ่งสามารถระบุได้เพียง 1 คนเท่านั้น เช่น
- ระบุชื่อผู้เช่าซื้อเพียงคนเดียว
- ไม่สามารถให้ไฟแนนซ์ลงชื่อ 2 คนในสัญญาได้
ข้อสรุป: เมื่อซื้อรถผ่านไฟแนนซ์ คุณจะใส่ชื่อร่วม ไม่ได้ 100%
แล้วต้องทำอย่างไรหากซื้อรถคนละครึ่งแต่ต้องใส่ชื่อคนเดียว?
แม้ในเล่มทะเบียนจะใส่ชื่อร่วมไม่ได้ แต่คุณสามารถทำเอกสารระบุสิทธิ์ร่วมได้หลายแบบ ซึ่งมีผลตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ช่วยป้องกันปัญหาเวลาเลิกคบ แยกบ้าน หรือขายรถในอนาคต
1) ทำ “สัญญาซื้อรถร่วมกัน”
สัญญานี้จะระบุว่า
- รถคันนี้ซื้อด้วยเงินสองฝ่าย
- แบ่งกันคนละครึ่ง
- หากขาย ต้องแบ่งเงินตามสัดส่วน
- ไม่มีสิทธิ์นำรถไปขายโดยพลการ
ข้อดี: ป้องกันการถูกยึดรถ ขายรถ หรือโอนรถโดยไม่ได้รับความยินยอม
2) ทำ “หนังสือมอบอำนาจ” + “ข้อตกลงการใช้รถร่วมกัน”
เป็นเอกสารกำหนดว่า
- รถต้องใช้ร่วมกัน
- หากมีค่าใช้จ่าย เช่น ประกัน/ซ่อม แบ่งกันยังไง
- ห้ามนำรถไปใช้ผิดประเภท
- ห้ามขายรถโดยลำพัง
เอกสารเหล่านี้ช่วยคุ้มครองฝ่ายที่ไม่ได้เป็นเจ้าของชื่อในเล่มทะเบียน
3) เขียนข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรระบุสิทธิ์
แม้ไม่ถึงขั้นทำสัญญาฉบับใหญ่ แต่แค่เขียนโดยละเอียดว่า
- ใครออกเงินเท่าไหร่
- รถเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม
- ถ้าขายต้องแบ่งกันเท่าไหร่
แล้วเซ็นชื่อทั้งคู่ พร้อมพยานอย่างน้อย 1 คน ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
ใส่ชื่อร่วมไม่ได้ แล้วควรเลือกใส่ชื่อใครในเล่มทะเบียน?
นี่คือคำถามใหญ่ที่ต้องคิดให้ดี เพราะแต่ละแบบมีข้อดี–ข้อเสียต่างกัน
เลือกใส่ชื่อคนที่เครดิตดีที่สุด
เหมาะกับกรณี
- ต้องการผ่อนผ่านไฟแนนซ์
- อยากได้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด
- ลดโอกาสโดนไฟแนนซ์ไม่อนุมัติ
เลือกใส่ชื่อคนที่มีความรับผิดชอบสูงกว่า
เช่น
- พร้อมชำระค่างวดตรงเวลา
- มีวินัยเรื่องภาษีรถประจำปี
- พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายซ่อม/ประกันเบื้องต้น
เลือกใส่ชื่อผู้ที่มีหลักฐานการรับเงิน หรือทรัพย์สินชัดเจน
เหมาะกับคู่รักหรือครอบครัว ที่ต้องการให้รถเป็นทรัพย์สินระหว่างกัน แต่ในเอกสารจำเป็นต้องระบุเพียงคนเดียว
แล้วถ้าต้องการใส่ชื่อร่วมจริง ๆ ต้องทำยังไง?
แม้ชื่อในเล่มจะระบุได้เพียง 1 คน แต่คุณสามารถใช้วิธีนี้แทนได้
- ซื้อเงินสด แล้วทำข้อตกลงร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษร
เหมาะกับคู่รักหรือครอบครัว ที่ต้องการความยุติธรรมและชัดเจน - ทำสัญญาซื้อรถร่วมกันที่มีผลทางกฎหมาย
เอกสารนี้สามารถใช้เป็นหลักฐานในศาล หากมีการฟ้องร้องในอนาคต - เก็บหลักฐานการโอนเงินทุกครั้ง
เช่น สลิปโอนคนละครึ่ง ช่วยยืนยันว่าออกเงินร่วมกันจริง
เคสพิเศษ ซื้อรถคนละครึ่งกับแฟน แต่ยังไม่ได้แต่งงาน
นี่คือกรณีที่ต้องระวังที่สุด เพราะกฎหมายไทยไม่ได้คุ้มครองทรัพย์สินร่วมของคู่รักที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
สิ่งที่ควรทำทันที
- ทำสัญญาระบุสิทธิ์
- เก็บหลักฐานการโอนเงิน
- ห้ามซื้อในชื่ออีกฝ่ายโดยไม่มีข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร
เพื่อป้องกันการเสียสิทธิ์หากเลิกกันในอนาคต
ซื้อรถร่วมกันต้องวางแผน ไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่
การ ซื้อรถคนละครึ่ง ใส่ชื่อในเล่มทะเบียนร่วมกันได้ไหม เป็นคำถามที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่า “ใส่ชื่อสองคนได้” แต่ความจริงคือกฎหมายรถยนต์ไทยอนุญาตให้มีชื่อเจ้าของได้เพียง 1 คนเท่านั้น ดังนั้น การวางแผนล่วงหน้า ทำสัญญา และเก็บหลักฐานทุกขั้นตอน จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะคู่รักที่ยังไม่แต่งงาน หรือเพื่อนที่ร่วมลงทุนกันซื้อรถ หากเลือกทำให้ถูกวิธีตั้งแต่แรก คุณจะใช้งานรถร่วมกันได้อย่างไร้ปัญหา และมั่นใจได้ว่าทั้งสองฝ่ายจะได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียมตามที่ตกลงไว้
