โอนรถข้ามจังหวัด ทำเองได้หรือไม่? ใช้เอกสารอะไรบ้าง
เมื่อซื้อรถมือสองที่ทะเบียนอยู่คนละจังหวัด หลายคนมักสงสัยว่า “โอนรถข้ามจังหวัดทำได้ไหม?” และ “ถ้าอยากทำเองต้องเตรียมอะไรบ้าง?” เรื่องนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญของเจ้าของรถทุกคน เพราะการโอนรถอย่างถูกต้องจะทำให้ผู้ครอบครองใหม่มีสิทธิ์เต็มในรถคันนั้น และยังช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต บทความนี้จะพาคุณไปดูรายละเอียดทั้งหมด ตั้งแต่ขั้นตอนการดำเนินการ เอกสารที่ต้องใช้ ไปจนถึงข้อควรรู้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการ โอนรถข้ามจังหวัด
โอนรถข้ามจังหวัดคืออะไร?
การโอนรถข้ามจังหวัด หมายถึง การเปลี่ยนเจ้าของรถยนต์ที่มีทะเบียนอยู่จังหวัดหนึ่ง ไปยังผู้ซื้อหรือผู้ครอบครองใหม่ที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งต้องมีการย้ายทะเบียนไปตามภูมิลำเนาของเจ้าของใหม่ ขั้นตอนนี้ต่างจากการโอนรถในจังหวัดเดียวกัน เพราะอาจต้องทำเรื่อง “แจ้งย้ายออก” และ “แจ้งย้ายเข้า” ที่สำนักงานขนส่งในแต่ละพื้นที่
โอนรถข้ามจังหวัด ทำเองได้หรือไม่?
คำตอบคือ ทำเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้บริการนายหน้า หากผู้ซื้อและผู้ขายสะดวกไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งด้วยตนเอง โดยเจ้าของใหม่สามารถจัดการเรื่อง โอนรถข้ามจังหวัด ได้ เพียงแค่เตรียมเอกสารครบถ้วน และไปยื่นที่สำนักงานขนส่งตามภูมิลำเนาที่จะย้ายเข้า
ข้อดีของการทำเองคือ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียค่านายหน้า
- รู้ขั้นตอนและเอกสารด้วยตนเอง ลดความเสี่ยงเกิดปัญหา
- ตรวจสอบสภาพรถและเอกสารได้อย่างโปร่งใส
เอกสารที่ต้องใช้ในการโอนรถข้ามจังหวัด
การโอนรถต้องใช้เอกสารทั้งของผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งสำนักงานขนส่งจะตรวจสอบอย่างละเอียด โดยหลัก ๆ มีดังนี้
เอกสารของผู้ขาย
- เล่มทะเบียนรถตัวจริง (สมุดคู่มือจดทะเบียน)
- บัตรประชาชน (สำเนาและตัวจริง)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน)
- สัญญาซื้อขายรถ (เพื่อยืนยันการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์)
เอกสารของผู้ซื้อ
- บัตรประชาชน (สำเนาและตัวจริง)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (เพื่อใช้ย้ายทะเบียนไปยังภูมิลำเนาใหม่)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามอบอำนาจให้ผู้อื่นไปแทน)
ขั้นตอนการโอนรถข้ามจังหวัด
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสภาพรถ (ตรอ.)
นำรถไปตรวจสภาพที่กรมการขนส่ง หรือสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) โดยเฉพาะหากรถมีอายุเกิน 7 ปี
ขั้นตอนที่ 2 ยื่นแจ้งย้ายออก
นำเอกสารและผลการตรวจสภาพ ไปยื่นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถจดทะเบียนอยู่ เพื่อทำการ “แจ้งย้ายออก”
ขั้นตอนที่ 3 ชำระค่าธรรมเนียม
ผู้ซื้อและผู้ขายต้องชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น
- ค่าโอน
- ค่าพ.ร.บ. (ถ้ามี)
- ค่าธรรมเนียมป้ายทะเบียนใหม่ (กรณีต้องเปลี่ยนป้าย)
ขั้นตอนที่ 4 รับเอกสารเพื่อย้ายทะเบียน
หลังจากแจ้งย้ายออกแล้ว เจ้าหน้าที่จะออกเอกสารให้ เพื่อใช้ยื่นต่อที่สำนักงานขนส่งจังหวัดปลายทาง
ขั้นตอนที่ 5 แจ้งย้ายเข้าและโอนกรรมสิทธิ์
นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดใหม่ เพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ และรับเล่มทะเบียนใหม่ที่ระบุชื่อเจ้าของปัจจุบัน
ค่าใช้จ่ายในการโอนรถข้ามจังหวัด
โดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการ โอนรถข้ามจังหวัด มีดังนี้
- ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ : 100 บาท
- ค่าธรรมเนียมการออกใบคู่มือจดทะเบียนใหม่ : 100 บาท
- ค่าคำขอ : 5 บาท
- ค่าธรรมเนียมทะเบียนรถ (ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ)
- ค่าแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ (ถ้าย้ายจังหวัดจะได้ป้ายทะเบียนใหม่) ประมาณ 200 บาท
ข้อควรรู้ก่อนโอนรถข้ามจังหวัด
- หากผู้ขายและผู้ซื้อไม่สะดวกไปพร้อมกัน สามารถทำหนังสือมอบอำนาจได้
- ตรวจสอบว่ารถไม่มีภาระผูกพันกับไฟแนนซ์หรือหนี้สินคงค้าง
- หากเป็นรถติดไฟแนนซ์ ต้องเคลียร์หนี้และโอนจากบริษัทไฟแนนซ์ก่อน
- เก็บสำเนาเอกสารการซื้อขายและใบเสร็จค่าธรรมเนียมไว้ทุกครั้ง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในอนาคต
สรุป
การ โอนรถข้ามจังหวัด ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิด เจ้าของรถสามารถดำเนินการเองได้ เพียงเตรียมเอกสารให้ครบ และทำตามขั้นตอนที่สำนักงานขนส่งกำหนด ทั้งการตรวจสภาพรถ การแจ้งย้ายออก และการย้ายเข้าจังหวัดใหม่ แม้อาจจะต้องเสียเวลาไปติดต่อหลายขั้นตอน แต่ก็ช่วยให้การครอบครองรถถูกต้องตามกฎหมาย และมั่นใจได้ว่าไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง