สาระน่ารู้ » จดทะเบียนรถตู้บรรทุก ต้องรู้อะไรบ้าง? | คู่มือปี 2025

จดทะเบียนรถตู้บรรทุก ต้องรู้อะไรบ้าง? | คู่มือปี 2025

16 กรกฎาคม 2025
491   0

การ จดทะเบียนรถตู้บรรทุก เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้รถตู้เพื่อขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ ร้านค้าออนไลน์ หรือกิจการขนาดเล็ก การทำความเข้าใจขั้นตอน เอกสาร และข้อกำหนดต่างๆ จะช่วยให้ดำเนินการได้รวดเร็ว ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่เสียเวลาแก้ไขภายหลัง

ทำไมต้องจดทะเบียนรถตู้บรรทุก?

การจดทะเบียนรถให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ไม่เพียงแค่ทำให้ถูกกฎหมาย แต่ยังช่วยในเรื่องต่อไปนี้:

  • สามารถใช้ในกิจกรรมขนส่งได้อย่างถูกต้องตามประเภทการใช้งาน
  • เลี่ยงค่าปรับและปัญหาทางกฎหมายหากมีการตรวจสอบ
  • ช่วยให้สามารถทำประกันภัยประเภทพาณิชย์หรือธุรกิจได้
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับกิจการของคุณ

ประเภทของรถตู้บรรทุกที่สามารถจดทะเบียนได้

ก่อนจดทะเบียน ควรเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่รถตู้ทุกคันจะสามารถจดเป็น “รถบรรทุก” ได้ทันที ต้องพิจารณาโครงสร้างและวัตถุประสงค์การใช้งาน ดังนี้

ประเภทตามกรมการขนส่งทางบก

  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (ป้ายขาว) : ใช้ในกิจการส่วนตัว เช่น ส่งของในชื่อบริษัท ไม่รับจ้างคนอื่น
  • รถยนต์บรรทุกเพื่อการพาณิชย์ (ป้ายเหลือง) : ใช้ในลักษณะรับจ้าง ขนส่งสินค้าให้ผู้อื่น

ลักษณะตัวถัง

  • ต้องไม่มีเบาะนั่งผู้โดยสาร หรือมีเฉพาะตอนหน้า
  • มีพื้นที่วางสินค้า
  • โครงสร้างต้องผ่านมาตรฐานของกรมการขนส่ง

ขั้นตอนการจดทะเบียนรถตู้บรรทุก

การ จดทะเบียนรถตู้บรรทุก สามารถทำได้โดยดำเนินการผ่านกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

1. ตรวจสอบลักษณะรถ

  • รถต้องอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถแปลงเป็นรถบรรทุกได้
  • หากเป็นรถใหม่ ควรสอบถามจากดีลเลอร์หรือตัวแทนจำหน่ายว่ารุ่นที่ซื้อสามารถจดทะเบียนเป็นรถบรรทุกได้หรือไม่

2. จัดเตรียมเอกสาร

เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ ได้แก่

  • บัตรประชาชน/หนังสือรับรองบริษัท
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • หลักฐานการเป็นเจ้าของรถ (ใบเสร็จ/อินวอยซ์)
  • หนังสือยินยอม (กรณีผู้ครอบครองไม่ใช่เจ้าของรถ)
  • ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (จากสถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือ ตรอ.)

3. ยื่นคำขอที่กรมการขนส่งทางบก

  • เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ทะเบียนรถ
  • กรอกแบบฟอร์มคำขอ
  • ชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน

ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนรถตู้บรรทุก

โดยประมาณ ค่าธรรมเนียมจะอยู่ในช่วง

  • ค่าธรรมเนียมจดทะเบียน : 500 – 1,000 บาท
  • ค่าแผ่นป้ายทะเบียน : 200 บาท
  • ค่าเล่มทะเบียน : 100 บาท
  • ค่าเปลี่ยนประเภทการใช้งาน (ถ้ามี) : 100 – 500 บาท
  • ค่าตรวจสภาพรถ (กรณีรถเก่า) : 200 – 300 บาท

หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามระเบียบของกรมการขนส่งในแต่ละปี

ข้อควรระวังในการจดทะเบียนรถตู้บรรทุก

  • หากรถดัดแปลงหรือแปลงสภาพ ต้องได้รับการตรวจและอนุมัติจากกรมการขนส่งก่อน
  • ห้ามใช้รถตู้บรรทุกบรรทุกคนเกินจำนวนที่ระบุ
  • ต้องตรวจสภาพรถตามรอบกำหนด เช่น ปีละ 1 ครั้ง
  • การใช้รถผิดวัตถุประสงค์ (เช่น ใช้ป้ายขาวรับจ้างขนส่ง) อาจถูกปรับหรือระงับทะเบียน

สิ่งที่ควรมีเพิ่มเติมหลังจดทะเบียนเสร็จ

หลังจากที่ จดทะเบียนรถตู้บรรทุก เรียบร้อยแล้ว ควรดำเนินการในส่วนเสริมเพื่อความปลอดภัยและถูกต้อง

  • ทำประกันภัยรถประเภท 1 หรือประเภท 3 ที่ครอบคลุมการบรรทุก
  • ติดป้ายชื่อผู้ประกอบการหรือบริษัท (กรณีใช้เพื่อการพาณิชย์)
  • ตรวจสอบน้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่อนุญาต (GVW) และไม่ควรบรรทุกเกินกำหนด

สรุป จดทะเบียนรถตู้บรรทุกไม่ยาก ถ้ารู้ขั้นตอน

การ จดทะเบียนรถตู้บรรทุก อาจดูยุ่งยากในตอนแรก แต่หากคุณเตรียมตัวล่วงหน้า ศึกษาเอกสารและขั้นตอนอย่างละเอียด ก็สามารถดำเนินการได้รวดเร็วและถูกต้อง การจดทะเบียนที่ถูกประเภทจะช่วยให้คุณใช้รถในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย พร้อมหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต