สาระน่ารู้ » 7 สิ่งหลังขับรถลุยน้ำท่วม ต้องเช็คสิ่งเหล่านี้ สำคัญ!!

7 สิ่งหลังขับรถลุยน้ำท่วม ต้องเช็คสิ่งเหล่านี้ สำคัญ!!

10 ตุลาคม 2021
880   0

ในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน ฝนตกหนัก น้ำขังน้ำท่วม และในบางพื้นที่ น้ำท่วมสูงจึงเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับรถของคุณตามมาอีกมากมาย

การที่คุณขับลุยน้ำท่วมทำให้น้ำนั้นสามารถซึมเข้าไปในส่วนต่างๆ ของระบบรถของคุณ โดยเฉพาะความสกปรกนั้นก็อาจจะทำให้ อุปกรณ์เล็กๆ เกิดความเสียหาย หรือทำงานได้ไม่เต็มที่ วันนี้เรามาดูกันครับ ว่าควรตรวจสอบในส่วนไหนบ้าง

1.ระบบเซนเซอร์ต่างๆ

การลุยน้ำท่วมมักจะเกิดปัญหาเรื่องระบบเซนเซอร์อยู่บ่อยครั้งแต่อันที่จริงแล้วเราไม่สามารถจะทราบได้ว่าเซนเซอร์ตัวไหนกำลังเกิดปัญหาจากสิ่งสกปรกเหล่านี้ อาจจะไม่ถึงกับทำความเสียหายในทันทีแต่ก็ทำให้ระบบต่างๆ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทิ้งไว้นานๆก็อาจจะพังจริงๆได้ เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อมีการโชว์ของไฟหน้าปัดก็จะต้องตรวจเช็คด้วย OBD แล้วถอดรหัสถึงจะทราบได้ว่าเกิดจากเซนเซอร์จุดไหน ฉะนั้น เมื่อคุณขับรถลุยน้ำแล้ว ควรทำความสะอาดหรืออัดฉีดช่วงล่างบ้างและปล่อยให้แห้ง การทำงานของระบบจะกลับมาเหมือนเดิม และไฟที่โชว์ก็จะหายไปเอง แนะนำว่าอย่าทิ้งไว้นาน

2.ลูกปืนล้อ

โดยปกติแล้ว ลูกปืนล้อจะมีการชโลมน้ำมันหรือจารบี เพื่อรักษาความลื่นและสึกหรอของสภาพ แต่ถ้าลูกปืนล้อหากถูกการแช่น้ำเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้ลูกปืนนั้นเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น โดยสังเกตุได้จาก เสียงที่จะเกิดขึ้นในเวลาที่คุณทำความเร็วสูงๆ เพราะจารบีที่หล่อลื่นภายในลูกปืนได้ละลายไปกับน้ำ หรืออาจจะเสื่อมสภาพจากคราบสกปรกภายในลูกปืน แต่หากขับผ่านน้ำอาจจะยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่นัก แต่อย่างไรก็ตามต้องหมั่นคอยเช็คอาการกันไว้ก่อนนะครับ

3.ระบบเบรค

สำหรับระบบเบรครถยนต์นั้น จะมีอยู่ 2 แบบ ทั้งแบบ ดิกส์เบรค กับ ดรัมเบรค และไม่ว่าจะเป็นระบบเบรคแบบไหน ก็ไม่ถูกกับน้ำท่วมน้ำขัง หรือบางครั้งเอง แค่ลุยน้ำก็ทำให้เกิดปัญหาเล็กๆน้อยๆได้ เพราะโดยปกติแล้วเหล็กก็จะไม่ถูกกับน้ำอยู่แล้วเพราะนอกจากจะทำให้เกิดสนิมแล้ว ความร้อนจากการเบรคเมื่อโดนน้ำก็ทำให้เหล็กเปลี่ยนรูปอีกด้วย ปัญหาที่ตามมาคือเบรคติดขัด และถ้าหากน้ำมันเบรคเกิดความชื้นก็จะทำให้เกิดปัญหาเบรคลื่น เบรกไม่อยู่และทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดบ่อยกับระบบเบรคก็คือเศษหิน หรือเศษฝุ่นที่มากับน้ำก็อาจจะทำให้เข้าไปติดในผ้าเบรคจนให้เกิดรอยขึ้นที่จานเบรคอีกด้วย

4.วิธีไล่ความชื้นออกจากเบรค

หลังจากลุยน้ำท่วมขังมาแล้ว สิ่งที่ควรทำทุกครั้งก่อนถึงจุดหมาย ก็คือการไล่ความชื้นออกจากเบรคสามารถทำได้ด้วยการเหยียบเบรคเบาๆ ค้างไว้ซักระยะเพื่อให้เบรคเสียดสีจนเกิดความร้อนขึ้นเล็กน้อยช่วนเร่งความชื้นออกจากผ้าเบรคและระบบเบรคได้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อให้ผ้าเบรคกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

5.เพลาขับและเฟืองท้าย

การที่รถถูกแช่น้ำนานๆ ไม่ใช่แค่ อุปกรณ์ภายนอกที่จะเสียหายเท่านั้น รวมไปถึงอุปกรณ์ภายใน อย่างเพลาขับเพราะน้ำเข้า ก็จะทำให้มีโอกาสฉีกขาดและน้ำเข้าไปชะล้างละลายจารบี ส่วนเฟืองท้ายน้ำสามารถซึมเข้าไปในส่วนของท่อหายใจน้ำมันเฟืองท้ายได้ วิธีการเช็คง่ายๆ คือหากมีเสียงดังออกมาวิธีแก้คือการอัดจารบีเข้าไปใหม่เปลี่ยนยางหุ้มเพลาใหม่และถ่ายของเหลว

6.ระบบปรับอากาศ

การขับรถลุยน้ำขังบ่อยอาจจะทำให้น้ำซึมเข้ามาในรถไม่รู้ตัว จนเกิดเป็นความชื้น ส่งกลิ่นเหม็นอับภายในรถยนต์ ฉะนั้นเมื่อหลังจากจอดน้ำท่วมขังแล้ว ควรทำความสะอาดปรับระบบอากาศภายในรถยนต์ หรือ สปาโอโซน เพื่อกำจัดกลิ่นเหล่านี้ออกไปดีกว่านะครับ

7.น้ำมันเครื่อง

อีกหนึ่ง จุดสุดสำคัญมากๆ ที่ควรต้องเช็คคือ น้ำมันเครื่อง ว่ามีน้ำผสมอยู่หรือไม่ โดยสามารถตรวจเช็คได้จากสายวัดน้ำมัน ดึงออกมาเพื่อตรวจว่า เนื้อของน้ำมันนั้นมีส่วนผสมของน้ำเปล่าอยู่หรือไม่แต่ถ้าหากมีส่วนผสมของน้ำมันปะปนกับน้ำใสๆ ก็แสดงว่า น้ำนั้นได้เข้าไปผสมอปะปนกับน้ำมันแล้ว ควรจะต้องนำรถไปเปลี่ยนใส้กรองและน้ำมันเครื่องใหม่ทันที

เรียกว่าความชื้นกับรถยนต์นั้น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะครับ เพราะถ้าหากคุณไม่ดูแลสิ่งเหล่านี้ อาจจะทำให้่เสียหายไปถึงส่วนต่างๆ ได้ ฉะนั้นควรดูแลหมั่นเอาใจใส่เพื่อรักษาสภาพของรถ และ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงตามมาครับ

กฤษฎากู๊ดคาร์ โชว์รูมรถมือสอง เรามีรถให้เลือกมากมายมากกว่า 500 คัน มีรถหลากหลายรุ่น หลากหลายสีมากมายให้เป็นตัวเลือกในการซื้อรถมือสองสักคัน ให้เราบริการท่านนะครับ