ข่าวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) » 5 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถไฟฟ้ามาใช้งาน (EV)

5 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถไฟฟ้ามาใช้งาน (EV)

17 ธันวาคม 2021
1771   0

เชื่อว่าหลายๆคนเริ่มสนใจและให้ความสำคัญกับรถพลังงานไฟฟ้า (EV) กันมากขึ้น และหลายๆรุ่นหลายๆแบรนด์ ก็เริ่มเปิดตัวและทำตลาดรถไฟฟ้าในประเทศไทย และก็ยังเป็นอีกหนึ่งเทรนที่กำลังร้อนแรงในช่วงนี้อีกด้วย เพราะเชื่อว่าหลายๆคนเริ่มสู้ในเรื่องของราคาน้ำมันไม่ไหว จึงกลายเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีเลยทีเดียว

หากคุณกำลังสนใจว่าจะซื้อรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้งาน คุณจะต้องเตรียมตัวและศึกษาอย่างไรเพราะมันคือสิ่งใหม่ที่อาจจะต้องหาความรู้ควบคู่กับการใช้งานไปด้วย

ก่อนอื่น ต้องทราบเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าพื้นฐานอย่าง AC และ DC ว่าคืออะไร

โดยลักษณะของระบบการชาร์จกระแสไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1.กระแสตรง (DC) – สถานีชาร์จ
ข้อดีของการชาร์จแบบกระแสตรงหรือ DC เป็นการชาร์จผ่านสถานีชาร์จเท่านั้น โดยเราจะเห็นอยู่บ่อยๆ ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ หรือ ตามปั้มน้ำมัน หรือศูนย์ชาร์จรถยนต์ต่างๆ เป็นการชาร์จโดยตรงเข้าแบตเตอรี่ โดยไม่ผ่าน On Board Charger เหมาะสำหรับการชาร์จ ด่วนชาร์จเร็ว ใช้ระยะเวลาในการชาร์จน้อย โดยจุดเด่นของ DC สามารถชาร์จไฟฟ้าเข้าสู่รถยนต์ได้เร็วมากๆ

2. กระแสสลับ หรือ AC – Wall Charger ตามบ้าน

การชาร์จไฟบ้าน และเป็นการชาร์จแบบ AC เท่านั้น เพราะไฟบ้านจะเป็นไฟแบบกระแสสลับ 220V โดยการชาร์จแบบนี้ ไฟไฟ้าจะต้องวิ่งผ่าน On Board Charger ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อจะต้องแปลงไฟกระแสสลับเป็นกระแสตรงแล้วชาร์จเข้าแบตเตอรี่รถยนต์

การชาร์จแบบ AC จะเหมาะกับการชาร์จเป็นระบะเวลานานๆข้ามคืน

ข้อดีคือสามารถชาร์จจากไฟบ้านปกติได้โดยตรง

ข้อจำกัดอยู่ที่ขนาด On Board Charger ที่อยู่ในรถยนต์แต่ละรุ่นจะมีขนาดเท่าไหร่โดยส่วนมาก รถ Plug in Hybrid 16A 3.6kw และบางรุ่นจะให้มาถึง 32A 7.2kw นั่นเอง

3.อัตราระยะทางและค่าหน่วยของพลังงานไฟฟ้า

การคำนวนหน่วยต่อระยะทางแบบง่ายๆ โดยคำนวนตัวอย่างจาก ชาร์จไฟเต็ม 100 kWh วิ่งได้ 500 กม. โดยการเอาค่าไฟตั้งหารด้วยระยะทางที่วิ่งได้ โดยนำเอาค่าไฟ 4.5 หน่วยมาคุณ 100 ได้เท่ากับ 450 หารแล้วด้วย 500 เท่ากับ 0.9 บาท แต่ในกรณีที่บ้านคุณมี TOU ก็จะยิ่งถูกลงไปอีก โดยจะเหลือหน่วยละ 2.63บาท ถ้าคุณ 100 ก็จะได้เท่ากับ 263 บาทจะได้ค่าใช้จ่ายต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง

4.หัวชาร์จนอกสถานที่มีแบบอะไรบ้าง EV Station
การซื้อรถ จะต้องคำนึงถึงการทำความรู้จักหัวชาร์จแต่ละแบบ เพราะรถบางรุ่นบางนี่ห้อจะมีหัวชาร์จไม่เหมือนกัน โดยจะมีแบบหลักๆอยู่ 3 แบบคือ AC ( Type1/ Type2) DC Chademo และ DC CCS โดย ABB EV Charger รุ่น Terra DC Charging Station 53 ซึ่งง่ายๆคือก่อนซื้อรถไฟฟ้าให้ดูด้วยว่าใช้หัวชาร์จแบบไหนบ้าง

5.ระยะเวลาในการชาร์จไฟฟ้า

เรื่องการชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าน่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี การชาร์จไฟฟ้าในอุปกรณ์ที่มีประจุมากก็จะต้องใช้เวลาในการชาร์จมากตามไปด้วยฉะนั้นการเลือกซื้อรถก็จะต้องดูสเปคของขนาดอุปกรณ์เก็บประจุไฟฟ้า ว่าสามารถรับแรงอัดในการชาร์จไฟเข้าได้มากขนาดไหน ถ้าสามารถรับได้สูงก็จะทำให้ลดระยะเวลาการชาร์จลงได้

ดังนั้นการเตรืยมตัวก่อนที่จะเลือกซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นก็จะต้องศึกษาก่อนที่จะตัดสินใจ และควรศึกษาเกี่ยวกับระบบต่างๆอย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้รถยนต์ที่ตรงกับความต้องการที่สุดนั่นเอง