สาระน่ารู้ » โอนรถข้ามจังหวัด ทำเองได้ไหม? ใช้เอกสารอะไรบ้าง

โอนรถข้ามจังหวัด ทำเองได้ไหม? ใช้เอกสารอะไรบ้าง

2 ตุลาคม 2025
16   0

โอนรถข้ามจังหวัด ทำเองได้หรือไม่? ใช้เอกสารอะไรบ้าง

เมื่อซื้อรถมือสองที่ทะเบียนอยู่คนละจังหวัด หลายคนมักสงสัยว่า “โอนรถข้ามจังหวัดทำได้ไหม?” และ “ถ้าอยากทำเองต้องเตรียมอะไรบ้าง?” เรื่องนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญของเจ้าของรถทุกคน เพราะการโอนรถอย่างถูกต้องจะทำให้ผู้ครอบครองใหม่มีสิทธิ์เต็มในรถคันนั้น และยังช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต บทความนี้จะพาคุณไปดูรายละเอียดทั้งหมด ตั้งแต่ขั้นตอนการดำเนินการ เอกสารที่ต้องใช้ ไปจนถึงข้อควรรู้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการ โอนรถข้ามจังหวัด

โอนรถข้ามจังหวัดคืออะไร?

การโอนรถข้ามจังหวัด หมายถึง การเปลี่ยนเจ้าของรถยนต์ที่มีทะเบียนอยู่จังหวัดหนึ่ง ไปยังผู้ซื้อหรือผู้ครอบครองใหม่ที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งต้องมีการย้ายทะเบียนไปตามภูมิลำเนาของเจ้าของใหม่ ขั้นตอนนี้ต่างจากการโอนรถในจังหวัดเดียวกัน เพราะอาจต้องทำเรื่อง “แจ้งย้ายออก” และ “แจ้งย้ายเข้า” ที่สำนักงานขนส่งในแต่ละพื้นที่

โอนรถข้ามจังหวัด ทำเองได้หรือไม่?

คำตอบคือ ทำเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้บริการนายหน้า หากผู้ซื้อและผู้ขายสะดวกไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งด้วยตนเอง โดยเจ้าของใหม่สามารถจัดการเรื่อง โอนรถข้ามจังหวัด ได้ เพียงแค่เตรียมเอกสารครบถ้วน และไปยื่นที่สำนักงานขนส่งตามภูมิลำเนาที่จะย้ายเข้า

ข้อดีของการทำเองคือ

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียค่านายหน้า
  • รู้ขั้นตอนและเอกสารด้วยตนเอง ลดความเสี่ยงเกิดปัญหา
  • ตรวจสอบสภาพรถและเอกสารได้อย่างโปร่งใส

เอกสารที่ต้องใช้ในการโอนรถข้ามจังหวัด

การโอนรถต้องใช้เอกสารทั้งของผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งสำนักงานขนส่งจะตรวจสอบอย่างละเอียด โดยหลัก ๆ มีดังนี้

เอกสารของผู้ขาย

  • เล่มทะเบียนรถตัวจริง (สมุดคู่มือจดทะเบียน)
  • บัตรประชาชน (สำเนาและตัวจริง)
  • หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน)
  • สัญญาซื้อขายรถ (เพื่อยืนยันการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์)

เอกสารของผู้ซื้อ

  • บัตรประชาชน (สำเนาและตัวจริง)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน (เพื่อใช้ย้ายทะเบียนไปยังภูมิลำเนาใหม่)
  • หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามอบอำนาจให้ผู้อื่นไปแทน)

ขั้นตอนการโอนรถข้ามจังหวัด

ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสภาพรถ (ตรอ.)

นำรถไปตรวจสภาพที่กรมการขนส่ง หรือสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) โดยเฉพาะหากรถมีอายุเกิน 7 ปี

ขั้นตอนที่ 2 ยื่นแจ้งย้ายออก

นำเอกสารและผลการตรวจสภาพ ไปยื่นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถจดทะเบียนอยู่ เพื่อทำการ “แจ้งย้ายออก”

ขั้นตอนที่ 3 ชำระค่าธรรมเนียม

ผู้ซื้อและผู้ขายต้องชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น

  • ค่าโอน
  • ค่าพ.ร.บ. (ถ้ามี)
  • ค่าธรรมเนียมป้ายทะเบียนใหม่ (กรณีต้องเปลี่ยนป้าย)

ขั้นตอนที่ 4 รับเอกสารเพื่อย้ายทะเบียน

หลังจากแจ้งย้ายออกแล้ว เจ้าหน้าที่จะออกเอกสารให้ เพื่อใช้ยื่นต่อที่สำนักงานขนส่งจังหวัดปลายทาง

ขั้นตอนที่ 5 แจ้งย้ายเข้าและโอนกรรมสิทธิ์

นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดใหม่ เพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ และรับเล่มทะเบียนใหม่ที่ระบุชื่อเจ้าของปัจจุบัน

ค่าใช้จ่ายในการโอนรถข้ามจังหวัด

โดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการ โอนรถข้ามจังหวัด มีดังนี้

  • ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ : 100 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการออกใบคู่มือจดทะเบียนใหม่ : 100 บาท
  • ค่าคำขอ : 5 บาท
  • ค่าธรรมเนียมทะเบียนรถ (ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ)
  • ค่าแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ (ถ้าย้ายจังหวัดจะได้ป้ายทะเบียนใหม่) ประมาณ 200 บาท

ข้อควรรู้ก่อนโอนรถข้ามจังหวัด

  • หากผู้ขายและผู้ซื้อไม่สะดวกไปพร้อมกัน สามารถทำหนังสือมอบอำนาจได้
  • ตรวจสอบว่ารถไม่มีภาระผูกพันกับไฟแนนซ์หรือหนี้สินคงค้าง
  • หากเป็นรถติดไฟแนนซ์ ต้องเคลียร์หนี้และโอนจากบริษัทไฟแนนซ์ก่อน
  • เก็บสำเนาเอกสารการซื้อขายและใบเสร็จค่าธรรมเนียมไว้ทุกครั้ง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในอนาคต

สรุป

การ โอนรถข้ามจังหวัด ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิด เจ้าของรถสามารถดำเนินการเองได้ เพียงเตรียมเอกสารให้ครบ และทำตามขั้นตอนที่สำนักงานขนส่งกำหนด ทั้งการตรวจสภาพรถ การแจ้งย้ายออก และการย้ายเข้าจังหวัดใหม่ แม้อาจจะต้องเสียเวลาไปติดต่อหลายขั้นตอน แต่ก็ช่วยให้การครอบครองรถถูกต้องตามกฎหมาย และมั่นใจได้ว่าไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง