เปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอป DLT Vehicle หลังซื้อรถมือสอง

การซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนไทย เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการออกรถใหม่ แต่สิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามคือ การเปลี่ยนชื่อเจ้าของในระบบของกรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะในแอป DLT Vehicle ที่ใช้ตรวจสอบข้อมูลรถได้สะดวกผ่านมือถือ ขั้นตอนการเปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอป DLT Vehicle อย่างละเอียด เข้าใจง่าย ทำได้ด้วยตัวเอง ใช้เวลาไม่นาน และที่สำคัญไม่มีค่าใช้จ่าย

แอป DLT Vehicle คืออะไร

แอป DLT Vehicle คือแอปพลิเคชันจากกรมการขนส่งทางบก (DLT) สำหรับเจ้าของรถทุกประเภท สามารถใช้เพื่อตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถ ประวัติภาษี ประกันภัย พ.ร.บ. และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ได้แบบเรียลไทม์ผ่านมือถือ

ประโยชน์หลักของ DLT Vehicle ได้แก่

• ตรวจสอบข้อมูลรถของตนเองแบบละเอียด
• รับการแจ้งเตือนการต่อภาษี พ.ร.บ.
• เช็กข้อมูลประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
• แสดงทะเบียนรถในรูปแบบดิจิทัลแทนบัตรจริง
• ดูข้อมูลย้อนหลังของการจดทะเบียน เปลี่ยนชื่อเจ้าของ ฯลฯ

ซื้อรถมือสองแล้ว ทำไมต้องเปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอป DLT Vehicle

หลังจากซื้อรถมือสองและโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เจ้าของใหม่ควร เปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอป DLT Vehicle เพื่อให้ข้อมูลในระบบตรงกับความเป็นจริง และยังช่วยให้คุณ

• ตรวจสอบข้อมูลรถผ่านแอปได้ครบถ้วน
• ได้รับการแจ้งเตือนต่อ ภาษี/พ.ร.บ. ของรถคันที่เป็นเจ้าของจริง
• ใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของในกรณีถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่
• ลดโอกาสการสวมทะเบียนหรือปัญหาทางกฎหมายในอนาคต

วิธีเปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอป DLT Vehicle (อัปเดต 2568)

การเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถในแอป DLT Vehicle ต้องอาศัยการ “เพิ่มรถ” เข้าไปในบัญชีของเจ้าของใหม่ ซึ่งไม่ใช่การเปลี่ยนชื่อผ่านแอปโดยตรง แต่เป็นการผูกข้อมูลทะเบียนกับผู้ใช้งานแอป ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป

• ดาวน์โหลดแอป DLT Vehicle ได้ฟรีทั้ง iOS และ Android
• ค้นหาคำว่า “DLT Vehicle” บน App Store หรือ Play Store

ขั้นตอนที่ 2 ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ

• สมัครสมาชิกด้วยหมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และตั้งรหัสผ่าน
• ยืนยันตัวตนผ่าน OTP

ขั้นตอนที่ 3 เพิ่มรถของคุณ

หลังจากเข้าสู่ระบบ

1. กดเมนู “รถของฉัน”
2. เลือก “เพิ่มรถ”
3. กรอกข้อมูล:
   • เลขทะเบียนรถ
   • จังหวัดที่จดทะเบียน
   • เลขตัวถังรถ (อยู่ในคู่มือจดทะเบียน)
4. ระบบจะตรวจสอบว่าคุณเป็นเจ้าของรถจากฐานข้อมูล DLT หรือไม่
5. หากโอนกรรมสิทธิ์ถูกต้องแล้ว ระบบจะผูกข้อมูลรถเข้ากับบัญชีของคุณโดยอัตโนมัติ

หมายเหตุ: ต้องโอนรถที่กรมขนส่งเรียบร้อยแล้วก่อน หากยังไม่ได้โอนชื่อที่สำนักงานขนส่ง การเพิ่มรถจะไม่สำเร็จ

เอกสารที่ต้องใช้ในการโอนกรรมสิทธิ์ก่อนเพิ่มรถในแอป

ก่อนจะ “เปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอป DLT Vehicle” คุณต้องโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานขนส่งให้เรียบร้อย โดยใช้เอกสารดังนี้

• สำเนาบัตรประชาชนของผู้ซื้อและผู้ขาย
• หนังสือสัญญาซื้อขาย
• เล่มทะเบียนรถตัวจริง
• ใบตรวจสภาพรถ (ถ้าเกิน 7 ปี)
• แบบฟอร์มคำขอโอนกรรมสิทธิ์ (กรอกที่สำนักงานขนส่ง)

เมื่อดำเนินการเสร็จ ข้อมูลจะถูกอัปเดตในระบบกลางของกรมการขนส่งภายใน 1-3 วัน จากนั้นจึงสามารถเข้าแอป DLT Vehicle เพื่อเพิ่มรถเข้าบัญชีของเจ้าของใหม่ได้

หากเปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอปไม่ได้ ต้องทำอย่างไร

หากคุณลองเพิ่มรถในแอปแล้วระบบแจ้งว่า “ไม่สามารถผูกข้อมูลได้” อาจเกิดจาก

• ระบบยังไม่อัปเดตข้อมูลเจ้าของใหม่
• เลขตัวถังที่กรอกไม่ตรงกับทะเบียนจริง
• ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ขนส่ง

แนวทางแก้ไข

• รอ 2-3 วันหลังจากโอนรถแล้วลองใหม่อีกครั้ง
• ตรวจสอบเลขตัวถังรถอีกครั้งจากเล่มทะเบียน
• ติดต่อ DLT Call Center โทร. 1584 เพื่อขอคำแนะนำ

เคล็ดลับใช้งานแอป DLT Vehicle ให้มีประสิทธิภาพ

• เปิดแจ้งเตือน เพื่อไม่ลืมต่อ ภาษี หรือ พ.ร.บ.
• ผูกรถทุกคันที่คุณเป็นเจ้าของไว้ในบัญชีเดียวกัน
• ตรวจสอบข้อมูลรถได้แม้อยู่ต่างจังหวัด
• ใช้แทนเอกสารทะเบียนในกรณีฉุกเฉิน

สรุป เปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอป DLT Vehicle ง่ายนิดเดียว

แม้แอป DLT Vehicle จะไม่ได้ให้คุณ “เปลี่ยนชื่อเจ้าของ” โดยตรง แต่คุณสามารถเพิ่มรถคันที่คุณโอนกรรมสิทธิ์มาแล้ว เพื่อผูกข้อมูลกับบัญชีของตนเองได้ง่าย ๆ ภายในไม่กี่นาทีผ่านมือถือ

แค่ทำตามขั้นตอนให้ครบ

• โอนกรรมสิทธิ์ให้ถูกต้องที่ขนส่ง
• ดาวน์โหลดแอปและเพิ่มรถใหม่
• ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนอย่างละเอียด

เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถใช้งานแอป DLT Vehicle ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สบายใจทุกครั้งที่ขับรถ ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารหรือปัญหากฎหมายในอนาคต

หากคุณกำลังวางแผนซื้อรถมือสอง อย่าลืมว่า “เปลี่ยนชื่อเจ้าของในแอป DLT Vehicle” เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณควบคุมรถคันใหม่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมาย 100 เปอร์เซ็นต์