สาระน่ารู้ » เบาะรถยนต์เปียก ทำยังไงให้แห้งเร็ว ไม่เป็นคราบเหลือง ไม่เกิดเชื้อรา

เบาะรถยนต์เปียก ทำยังไงให้แห้งเร็ว ไม่เป็นคราบเหลือง ไม่เกิดเชื้อรา

31 สิงหาคม 2025
44   0

เบาะรถยนต์ถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ผู้ใช้รถให้ความใส่ใจ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความสบายในการนั่งแล้ว ยังสะท้อนถึงความสะอาดและบุคลิกของเจ้าของรถด้วย แต่ปัญหาที่หลายคนมักเจออยู่บ่อย ๆ ก็คือ เบาะรถยนต์เปียก ไม่ว่าจะจากน้ำหก ฝนสาด การซักพรม หรือความชื้นสะสม หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดคราบเหลือง กลิ่นอับ ไปจนถึงเชื้อราที่สร้างความเสียหายทั้งกับเบาะและสุขภาพผู้ขับขี่ได้

ทำไม “เบาะรถยนต์เปียก” ถึงกลายเป็นปัญหาใหญ่?

หลายคนอาจคิดว่าแค่เช็ดให้แห้งก็เพียงพอ แต่จริง ๆ แล้วความชื้นที่ซึมเข้าสู่เนื้อเบาะ โดยเฉพาะเบาะผ้า หรือโฟมด้านใน อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา ได้แก่

  • คราบเหลืองฝังแน่น เกิดจากการสะสมของความชื้นและสิ่งสกปรก
  • เชื้อราและแบคทีเรีย เติบโตได้ดีในสภาพชื้น ทำให้เกิดกลิ่นอับและเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
  • กลิ่นเหม็นอับติดรถ ถึงจะเช็ดด้านนอกแล้ว แต่ความชื้นด้านในยังคงอยู่
  • ลดอายุการใช้งานของเบาะ ทำให้วัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

วิธีแก้ปัญหาเบาะรถยนต์เปียกเบื้องต้น

  1. ซับน้ำออกทันที หากน้ำหกหรือฝนสาด ควรรีบใช้ผ้าขนหนูหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำออกให้ได้มากที่สุด อย่าปล่อยให้น้ำซึมลงไปในชั้นโฟม
  2. ใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบเปียก–แห้ง เครื่องดูดฝุ่นชนิดนี้สามารถช่วยดูดน้ำและความชื้นออกจากเบาะได้ลึกกว่าเพียงการเช็ดภายนอก
  3. เปิดประตู–หน้าต่าง และตากแดด การให้อากาศถ่ายเทและตากแดดช่วยไล่ความชื้นออกจากตัวเบาะได้เร็วขึ้น แต่ควรระวังการตากแดดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้เบาะหนังแข็งหรือแตกได้
  4. ใช้ไดร์เป่าผม / พัดลม หากไม่สะดวกตากแดด สามารถใช้ไดร์เป่าผม หรือเปิดพัดลมจ่อเพื่อเร่งการระเหยของน้ำ แต่ควรเป่าในอุณหภูมิที่ไม่ร้อนจนเกินไป

เคล็ดลับป้องกันไม่ให้เบาะเกิดคราบเหลืองและเชื้อรา

ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

  • สำหรับเบาะผ้า : ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะผ้าโดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไป
  • สำหรับเบาะหนัง : ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเบาะหนังที่ช่วยเคลือบและป้องกันการดูดซึมน้ำ

ใช้น้ำยาดูดความชื้น

สามารถวางซิลิก้าเจล ถ่านดูดกลิ่น หรือผลิตภัณฑ์ดูดความชื้นไว้ในรถ เพื่อช่วยลดการสะสมของความชื้น

ใช้น้ำส้มสายชู / เบกกิ้งโซดา

  • น้ำส้มสายชูสามารถใช้เช็ดเบาะเพื่อลดการเกิดเชื้อราและกลิ่น
  • เบกกิ้งโซดาใช้โรยบนเบาะ ทิ้งไว้แล้วดูดออกด้วยเครื่องดูดฝุ่น จะช่วยลดกลิ่นอับ

วิธีแก้เบาะรถยนต์เปียกที่มีเชื้อราแล้ว

หากปล่อยจนเกิดเชื้อรา ควรรีบแก้ไขดังนี้

  1. สวมถุงมือและหน้ากาก เพื่อป้องกันการสูดดมสปอร์รา
  2. ใช้แปรงขนอ่อน ขัดเบา ๆ ตรงบริเวณที่มีเชื้อรา
  3. ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อรา (สามารถใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาทำความสะอาดเบาะที่มีสารต้านเชื้อรา)
  4. ทำให้แห้งสนิท ด้วยการตากแดดหรือใช้พัดลมเป่า
  5. ตรวจสอบโฟมด้านใน หากเชื้อราลึกเกินไป ควรนำไปให้ร้านซักเบาะหรือเปลี่ยนวัสดุด้านใน

เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ควรทำประจำเพื่อป้องกันปัญหา

  • หลีกเลี่ยงการนำของเหลวเข้าไปในรถ หากจำเป็นควรใช้แก้วหรือขวดที่ปิดสนิท
  • หากฝนตกและต้องขึ้น – ลงรถ ควรปัดน้ำออกจากตัวก่อนนั่ง
  • ใช้ผ้าคลุมเบาะหรือเบาะเสริมที่ถอดซักได้
  • ตรวจเช็คพรมและพื้นรถ หากชื้นควรทำให้แห้งทันที เพราะความชื้นอาจลามไปถึงเบาะ
  • ใช้เครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยลดกลิ่นและความชื้นสะสม

สรุป

ปัญหา เบาะรถยนต์เปียก อาจดูเล็กน้อย แต่ถ้าละเลยก็สามารถลุกลามจนกลายเป็นคราบเหลือง กลิ่นอับ หรือเชื้อราที่ส่งผลเสียทั้งต่อรถและสุขภาพได้ วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการรีบทำให้แห้งโดยเร็ว พร้อมทั้งใช้วิธีดูแลป้องกันความชื้นไม่ให้สะสม หากเจอเชื้อราแล้วก็ควรจัดการทันที หรือถ้าอาการหนัก ควรส่งให้ผู้เชี่ยวชาญซักเบาะรถยนต์โดยเฉพาะ