สาระน่ารู้ » เช็กยางหน้าฝนให้เกาะถนนไม่ลื่นไถล: 5 วิธีดูแลยางรถในฤดูฝน

เช็กยางหน้าฝนให้เกาะถนนไม่ลื่นไถล: 5 วิธีดูแลยางรถในฤดูฝน

18 มิถุนายน 2025
42   0

เช็กยางหน้าฝน ให้เกาะถนนไม่ลื่นไถล

เช็กยางหน้าฝน ให้เกาะถนนไม่ลื่นไถล

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ท้องถนนที่เปียกและคราบโคลนทำให้รถเสี่ยง เหินน้ำ (Hydroplaning) และระยะเบรกยาวขึ้น หากคุณ เช็กยางหน้าฝน อย่างถูกวิธี รถจะยึดเกาะถนนได้ดี ประหยัดงบซ่อม และขับขี่ปลอดภัยตลอดซีซันนี้ค่ะ 🚗💦

  1. เช็กยางหน้าฝน สำคัญอย่างไร?
  2. ตรวจดอกยางอย่างไรให้แม่น
  3. เติมลมยางเท่าไหร่ดีหน้าฝน
  4. เลือกลายดอกยางสำหรับถนนเปียก
  5. เทคนิคเสริมยืดอายุยางในหน้าฝน
  6. สรุป

เช็กยางหน้าฝน สำคัญอย่างไร?

  • ลดการเหินน้ำ (Hydroplaning): ดอกยางลึกและลายรีดน้ำดีช่วยระบายฟิล์มน้ำออกจากหน้ายาง ทำให้หน้ายางสัมผัสถนนได้เต็มที่
  • ระยะเบรกสั้นลง: ยางสภาพดีเกาะถนนเปียกได้ดีกว่า ย่นระยะเบรกได้สูงสุด 15–25 % เมื่อเทียบกับยางสึก
  • ยืดอายุอุปกรณ์ช่วงล่าง: ยางสมดุลช่วยกระจายแรงกระแทก ลดภาระต่อโช้กและบูชปีกนก

สัญญาณเตือน – หากได้ยิน “เสียงหวีด” ขณะวิ่งผ่านแอ่งน้ำ หรือรู้สึกพวงมาลัยเบาเกินปกติ รีบตรวจยางทันที!

ตรวจดอกยางอย่างไรให้แม่น

วิธีใช้เหรียญ 10 บาทเช็กดอกยาง

  1. เสียบเหรียญ 10 ลงในร่องดอกยางให้ตัวเลข “10” คว่ำหัวลง
  2. หากยังเห็นขอบวงกลมรอบเลข 10 ชัด → ดอกยางต่ำกว่า 3 มม. ควรเปลี่ยน
  3. ทดสอบทุกเส้นอย่างน้อย 3 จุด (นอก‑กลาง‑ใน) เพื่อดูการสึกไม่สม่ำเสมอ

เช็ก Treadwear Indicator (TWI)

มองหาปุ่มยางเล็ก ๆ ในร่องดอกยาง เมื่อพื้นวิ่งเสมอกับ TWI แสดงว่าดอกยางเหลือต่ำกว่า 1.6 มม. — ต่ำกว่ามาตรฐานความปลอดภัยหน้าฝน
หากสึกด้านในเร็วกว่าด้านนอก อาจบ่งบอกถึง ศูนย์ล้อไม่ตรง (Wheel Alignment) ควรตั้งศูนย์ใหม่

เติมลมยางเท่าไหร่ดีหน้าฝน

การเติมลมยางให้เหมาะสมช่วยให้ดอกยางสัมผัสถนนได้เต็มแผ่น ลดโอกาสลื่นไถลและประหยัดน้ำมัน

ประเภทรถค่า PSI แนะนำ (หน้าฝน)หมายเหตุ
รถเก๋งขนาดเล็ก (City Car)30–32 PSIควรเช็กทุก 2 สัปดาห์
รถเก๋งขนาดกลาง (Sedan)32–34 PSIเพิ่ม 2 PSI เมื่อบรรทุกเต็ม
SUV / MPV34–36 PSIเพิ่ม 1–2 PSI หากเดินทางไกล
รถกระบะ35–38 PSIลด 2 PSI เมื่อบรรทุกเบา

Tip: เติมลมยางขณะ “เย็น” (จอด > 3 ชั่วโมง) เพื่อค่าที่แม่นยำที่สุด

เลือกลายดอกยางสำหรับถนนเปียก

  1. Directional Tread (ลูกศร): รีดน้ำเร็ว เหมาะทางตรงความเร็วสูง
  2. Asymmetric Tread (ไม่สมมาตร): ด้านในรีดน้ำ ด้านนอกเกาะโค้ง — เหมาะถนนไทยหลากสภาพ
  3. Multi Groove Design: ร่องรีดน้ำขวาง + ตามยาว ลดการเหินน้ำได้ดี

เลือกยางที่มี ค่า Traction “A” ตามมาตรฐาน UTQG จะเกาะถนนเปียกดีกว่ายางระดับ “B” หรือ “C”

เทคนิคเสริมยืดอายุยางในหน้าฝน

  • สลับยางทุก 10,000 กม. เพื่อให้สึกเท่ากัน (Cross‑Pattern สำหรับรถขับหน้าหรือหลัง)
  • ตั้งศูนย์และถ่วงล้อทุก 20,000 กม. ลดแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้ดอกยางสึกเร็ว
  • หลีกเลี่ยงบาดแผลฉับพลัน: ขับหลบหลุม และขึ้นลูกระนาดช้า ๆ
  • ใช้สเปรย์เคลือบยางสูตรซิลิโคน ช่วยไล่น้ำและป้องกัน UV ระหว่างแดด‑ฝนสลับ

สรุป

การ เช็กยางหน้าฝน อย่างสม่ำเสมอด้วย “ตรวจดอกยางอย่างไรให้แม่น” + “เติมลมยางเท่าไหร่ดีหน้าฝน” และเลือกลายดอกยางเหมาะสม จะช่วยให้รถเกาะถนน ลดระยะเบรก และปลอดภัยทุกการเดินทางในฤดูฝน 2025 นี้ค่ะ 🌧️🚘

อ่านต่อ: ดูแลรถหน้าฝน — เคล็ดไม่ลับให้รถพร้อมลุยฝนทุกเส้นทาง