สาระน่ารู้ » เจาะลึก! เคลมสด เคลมแห้ง คืออะไร ต่างกันตรงไหน เลือกแบบไหนดี

เจาะลึก! เคลมสด เคลมแห้ง คืออะไร ต่างกันตรงไหน เลือกแบบไหนดี

25 สิงหาคม 2025
42   0

เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนน คำว่า “เคลมสด” และ “เคลมแห้ง” มักถูกพูดถึงอยู่เสมอ แต่เจ้าของรถหลายคนอาจยังสับสนว่ามันหมายถึงอะไร แตกต่างกันตรงไหน และแบบไหนเหมาะสมกับสถานการณ์ของเรา การเข้าใจเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าเลือกวิธีการเคลมไม่ถูกต้อง อาจทำให้เสียเวลา เสียเงิน หรือไม่ได้สิทธิ์ตามกรมธรรม์ที่ควรได้รับ บทความนี้จะพาคุณมาเจาะลึกว่า เคลมสด เคลมแห้ง คืออะไร ต่างกันยังไง และควรเลือกแบบไหนดีให้คุ้มค่าที่สุด

เคลมสด คืออะไร?

เคลมสด หมายถึง การแจ้งเคลมกับบริษัทประกันทันที ณ จุดเกิดเหตุ โดยจะมีเจ้าหน้าที่หรือ “Surveyor” มาที่หน้างานเพื่อตรวจสอบและทำเอกสารประกอบการเคลมให้ครบถ้วน

ลักษณะของเคลมสด

  • ต้องมีเจ้าหน้าที่ประกันมาตรวจสอบ ณ จุดเกิดเหตุ
  • เหมาะกับกรณีที่มีคู่กรณี หรือมีความเสียหายชัดเจน
  • มีการถ่ายภาพ ลงบันทึก และทำเอกสารครบถ้วนก่อนนำรถเข้าซ่อม
  • เจ้าของรถไม่ต้องเสียเวลาไปแจ้งที่อู่เอง เพราะบริษัทประกันจัดการให้

เคลมแห้ง คืออะไร?

เคลมแห้ง หมายถึง การแจ้งเคลมภายหลังจากเกิดเหตุ โดยเจ้าของรถสามารถนำรถเข้าที่อู่หรือศูนย์ซ่อมที่อยู่ในเครือบริษัทประกัน แล้วแจ้งเหตุย้อนหลัง โดยไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปที่จุดเกิดเหตุในทันที

ลักษณะของเคลมแห้ง

  • ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ณ จุดเกิดเหตุ
  • เหมาะกับกรณีที่รถเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยขีดข่วน รอยบุบเล็กน้อย
  • เจ้าของรถสามารถนำรถเข้าซ่อมเมื่อสะดวก

เคลมสด เคลมแห้ง ต่างกันยังไง?

เพื่อให้เข้าใจง่าย ลองดูการเปรียบเทียบระหว่าง เคลมสด เคลมแห้ง

จุดแตกต่างหลัก

  • การมีเจ้าหน้าที่ : เคลมสดมีเจ้าหน้าที่หน้างาน ส่วนเคลมแห้งไม่มี
  • ความเหมาะสม : เคลมสดเหมาะกับอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีหรือรุนแรง ส่วนเคลมแห้งเหมาะกับความเสียหายเล็กน้อย
  • เอกสารหลักฐาน : เคลมสดบริษัทเก็บให้ครบ เคลมแห้งเจ้าของรถต้องเตรียมเอง
  • ระยะเวลา : เคลมสดอาจต้องรอ แต่เคลมแห้งทำได้สะดวกกว่า

สรุปส่งท้าย

การเข้าใจความแตกต่างของ เคลมสด เคลมแห้ง จะช่วยให้เจ้าของรถตัดสินใจได้ถูกต้องและไม่เสียสิทธิ์ตามกรมธรรม์ หากมองให้เข้าใจง่าย เคลมสดคือการจัดการทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนเคลมแห้งคือการแจ้งภายหลังที่ความเสียหายไม่รุนแรง สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเก็บหลักฐาน เช่น รูปถ่ายและข้อมูลคู่กรณี รวมถึงการรีบแจ้งบริษัทประกันโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นและได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่