เจ้าของรถต้องอ่าน! เคลมประกันยังไงให้ไว ไม่เสียสิทธิ์
เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดฝันกับรถของคุณ หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำคือ การเคลมประกันรถยนต์ ให้ถูกต้องและรวดเร็ว เพราะหากดำเนินการผิดขั้นตอนหรือช้าเกินไป อาจทำให้ เสียสิทธิ์การเคลม หรือถูกบริษัทประกันปฏิเสธความรับผิดชอบได้
ทำไมต้องรู้วิธีเคลมประกันรถยนต์ให้ถูกต้อง?
หลายคนเข้าใจว่าแค่มีประกันก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงคือ “มีประกันแต่ไม่รู้วิธีเคลม = เหมือนไม่มีประกัน”
ความเสี่ยงหากเคลมผิดพลาด:
- เสียเวลาโดยไม่จำเป็น
- เสียสิทธิ์การเคลม
- ถูกเรียกเก็บค่าเสียหายเอง
- เบี้ยประกันปีต่อไปแพงขึ้น
เพราะฉะนั้น การเข้าใจวิธี เคลมประกันรถยนต์ อย่างถูกต้องตั้งแต่ต้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของรถทุกคนควรรู้
ประเภทของการเคลมประกันรถยนต์
1. เคลมสด (แจ้งเคลมทันที)
เป็นการแจ้งเคลมกับบริษัทประกันทันทีที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่เคลมเดินทางมายังที่เกิดเหตุ
เหมาะกับ:
- อุบัติเหตุรุนแรง
- มีคู่กรณี
- มีผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย
2. เคลมแห้ง (ไม่มีคู่กรณี)
กรณีที่รถได้รับความเสียหายจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต เช่น รอยขีดข่วน หินกระเด็น หรือชนสิ่งของ
เหมาะกับ:
- ไม่มีคู่กรณี
- ผู้ขับรู้ว่าความเสียหายเกิดจากอะไร
- รถยังขับได้ตามปกติ
ขั้นตอนเคลมประกันรถยนต์ให้ไวและไม่เสียสิทธิ์
1. ตั้งสติและดูความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
- ตรวจสอบความปลอดภัยของผู้โดยสาร
- เคลื่อนย้ายรถ (ถ้าจำเป็นและปลอดภัย)
- เปิดไฟฉุกเฉิน แจ้งจุดเกิดเหตุ
2. ติดต่อบริษัทประกันทันที
- โทรหาเบอร์ Call Center ของบริษัทประกัน
- แจ้งชื่อ เลขทะเบียนรถ และหมายเลขกรมธรรม์
- อธิบายเหตุการณ์โดยละเอียด
3. รอเจ้าหน้าที่ประกันมายังที่เกิดเหตุ
- ถ่ายภาพความเสียหายและจุดเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
- เก็บข้อมูลของคู่กรณี (ถ้ามี) เช่น ทะเบียนรถ ใบขับขี่ เบอร์ติดต่อ
4. รับใบเคลม / ใบนัดซ่อม
- หากเป็นเคลมสด จะได้รับใบเคลมจากเจ้าหน้าที่ทันที
- หากเป็นเคลมแห้ง อาจต้องนัดเข้าศูนย์ซ่อมภายหลัง
5. เข้ารับบริการที่อู่ซ่อม
- สามารถเลือกได้ระหว่างอู่ในเครือหรืออู่นอกเครือ
- เตรียมเอกสารให้ครบ เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนรถ ใบเคลม
เอกสารที่ควรเตรียมเมื่อเคลมประกัน
- กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
- สำเนาทะเบียนรถ
- ใบขับขี่ของผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ
- ภาพถ่ายความเสียหาย (ถ้ามี)
- แบบฟอร์มแจ้งเคลม (บางกรณีอู่หรือศูนย์จะเตรียมให้)
เคล็ดลับเคลมประกันรถยนต์ให้ไม่โดนเท
- บันทึกเหตุการณ์อย่างชัดเจน ทันทีหลังเกิดเหตุ เช่น วันเวลา สถานที่ และรูปแบบความเสียหาย
- อย่าเซ็นเอกสารใดๆ ถ้าไม่แน่ใจ โดยเฉพาะกรณีมีคู่กรณี
- อ่านเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้เข้าใจ เช่น ความคุ้มครองเฉพาะพื้นที่หรือเวลา
- ใช้แอปของบริษัทประกัน หลายเจ้ามีระบบเคลมออนไลน์ช่วยลดเวลาและขั้นตอน
- ขอคำปรึกษาจากตัวแทนหรือโบรกเกอร์ หากไม่มั่นใจเรื่องเงื่อนไขการเคลม
ข้อควรระวังในการเคลมประกัน
- ไม่แจ้งเคลมภายในเวลาที่กำหนด (มักไม่เกิน 24 ชั่วโมง)
- ขับรถหนีจากที่เกิดเหตุ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย
- ให้ข้อมูลเท็จกับบริษัทประกัน
- ซ่อมรถโดยไม่ผ่านบริษัทประกันก่อน
สรุป เคลมประกันให้ไว ไม่เสียสิทธิ์ ทำยังไง?
การ เคลมประกันรถยนต์ ไม่ใช่เรื่องยากหากคุณรู้ขั้นตอนที่ถูกต้อง เตรียมเอกสารให้ครบ และติดต่อประกันอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือ อย่าตื่นตระหนก และควรตั้งสติเพื่อจัดการกับสถานการณ์ให้ดีที่สุด