
ในช่วงปีที่ผ่านมา “ราคารถมือสองกำลังปรับลง” กลายเป็นคำที่เจ้าของรถหลายคนได้ยินบ่อยขึ้น ทั้งจากข่าวเศรษฐกิจ ค่ายรถ และบรรดาเต็นท์รถมือสอง การปรับลดของราคาไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึก แต่เป็นสัญญาณจริงของตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน หลายคนจึงตั้งคำถามว่า “ในเมื่อราคาลดลง ทำไมการขายปีนี้ถึงถือว่า คุ้มกว่าเดิม?”
ความจริงคือ แม้ราคาตลาดจะขยับลง แต่จังหวะปีนี้กลับเป็นช่วงที่เหมาะกับการขายอย่างมาก เพราะมีปัจจัยหลายด้านทั้งด้านกำลังซื้อ ปัจจัยเศรษฐกิจ และการแข่งขันในตลาดรถใหม่ที่ส่งผลให้ “รถของคุณขายง่ายกว่าเดิม และได้เงินเร็วกว่าเดิม” อย่างเห็นได้ชัด
ทำไมราคารถมือสองถึงปรับลงในปีนี้?
แม้หลายคนจะรู้สึกว่าราคาปรับลงเร็ว แต่เบื้องหลังมีปัจจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่:
1) รถใหม่ออกโปรแรง กระทบตลาดรถมือสอง
ค่ายรถใหม่หลายแบรนด์ปล่อยโปรโมชันแรง เช่น
- ดอกเบี้ยต่ำ
- ฟรีประกัน
- ฟรีค่าบำรุง
- แคมเปญลดราคาแบบ “เคลียร์สต๊อก”
ทำให้ผู้ซื้อหลายคนตัดสินใจขยับไปซื้อรถใหม่แทนรถมือสอง ส่งผลตรงต่อราคาในตลาดมือสอง
2) อัตราดอกเบี้ยที่เริ่มทรงตัว
แม้อัตราดอกเบี้ยเคยสูงขึ้นช่วงก่อนหน้า แต่ปีนี้เริ่มมีความคงที่มากขึ้น ทำให้ผู้ซื้อพร้อมกู้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันสถาบันการเงินเข้มงวดกับสภาพรถและอายุรถ ส่งผลให้รถบางกลุ่มมีราคาย่อมลงเพื่อให้ขายออกง่ายขึ้น
3) ผู้ขายเพิ่มขึ้นในตลาด
หลายคนมีภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น จึงขายรถเพื่อลดภาระ ส่งผลให้ “จำนวนรถที่ประกาศขายมากขึ้น” และเมื่อตลาดมีซัพพลายมากขึ้น ราคาจึงถูกปรับให้สมดุล
แล้วทำไมการขายรถปีนี้ถึงคุ้มกว่าเดิม?
แม้จะเป็นช่วงที่ ราคารถมือสองกำลังปรับลง แต่ปีนี้กลับเป็นช่วงเวลาที่ดีในการขายด้วยเหตุผลต่อไปนี้:
1) ผู้ซื้อเพิ่มขึ้นเพราะราคาน่าดึงดูด
การที่ราคาปรับลดลง กลายเป็นแรงดึงดูดให้ผู้ซื้อจำนวนมาก “กล้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น” เพราะมองว่าคุ้มค่าและเข้าถึงง่ายกว่าเดิม จึงเห็นยอดค้นหาและยอดจองรถมือสองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างสัญญาณที่บอกว่าผู้ซื้อเพิ่มขึ้น
- ยอดค้นหาใน Marketplace สูงขึ้น
- ยอดจองในโชว์รูมหลายที่เพิ่มขึ้น
- รถราคาไม่เกิน 600,000 บาท มีอัตราขายไวขึ้น
2) ปีนี้เต็นท์รถแข่งขันกันสูง ทำให้ผู้ขายได้ราคาดี
การแข่งขันของผู้ประกอบการคือประโยชน์ของผู้ขาย เพราะแต่ละที่พร้อมเสนอ
- ราคาประเมินที่สูงขึ้น
- บริการปิดการขายเร็ว
- บริการไปรับรถถึงบ้าน
- เงินสดโอนทันที
นี่ทำให้เจ้าของรถมีอำนาจต่อรองมากกว่าเดิม แม้จะอยู่ในช่วงราคาปรับลงก็ตาม
3) โอกาสออกรถใหม่ในราคาดีกว่า
สำหรับใครที่ขายรถเพื่อนำไปออกคันใหม่ ปีนี้ถือว่าเป็นจังหวะทอง เพราะค่ายรถใหม่ออกแคมเปญแบบ “โปรแรงกว่าทุกปี” เช่น
- ดอกเบี้ย 0%
- ส่วนลดเป็นแสน
- ฟรีประกันชั้น 1
- ฟรีค่าบำรุงนานหลายปี
จึงแม้ราคาขายรถเก่าอาจลดลงเล็กน้อย แต่ราคาซื้อรถใหม่ถูกกว่าปีก่อนมาก ทำให้ “กำไรส่วนต่าง” (Cost Gap) คุ้มกว่าเดิม
4) ความต้องการรถใช้งานจริง (Work Car) สูงขึ้น
เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปทำให้หลายคนหันมาประกอบอาชีพอิสระ เช่น
- เดลิเวอรี่
- วิ่งงาน
- รถเชิงพาณิชย์
- รถครอบครัวขนาดใหญ่
รถมือสองจึงเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงง่ายกว่า เปลี่ยนเป็นความต้องการซื้อสูงขึ้นในหลายเซกเมนต์
รถประเภทไหนขายง่ายที่สุดในช่วงราคารถมือสองกำลังปรับลง?
รถบางกลุ่มยังขายง่ายมาก และได้ราคาดี แม้อยู่ในช่วงราคาตลาดลดลง
รถที่ขายไวในปีนี้
- รถเก๋งเล็ก (Eco Car)
- รถครอบครัว 7 ที่นั่ง
- รถกระบะใช้งาน
- รถ Hybrid
- รถราคาไม่เกิน 500,000 – 600,000 บาท
รถที่อาจต้องปรับราคาหน่อย
- รถหรูยุโรปบางรุ่น
- รถที่อายุเกิน 10 ปี
- รถที่เคยเกิดอุบัติเหตุหนัก
- รถที่เลขไมล์สูงมาก
สรุป แม้ราคารถมือสองกำลังปรับลง แต่ปีนี้คือช่วงเวลาที่คุ้มที่สุดในการขาย
แม้ว่า ราคารถมือสองกำลังปรับลง จะเป็นเทรนด์สำคัญของปีนี้ แต่สำหรับผู้ขายแล้วกลับเป็นโอกาสดีอย่างมาก เพราะตลาดมีผู้ซื้อเพิ่มขึ้น ตัวเลือกมากขึ้น และการแข่งขันระหว่างเต็นท์รถทำให้คุณได้ราคาที่เหมาะสมพร้อมบริการที่สะดวกรวดเร็ว ถ้ากำลังลังเลว่าจะขายดีไหม? ปีนี้อาจเป็น “จังหวะทอง” ของคุณก่อนที่ตลาดจะปรับตัวใหม่อีกครั้ง!
