สาระน่ารู้ » รถมีเสียงดังตอนสตาร์ทเช้า เกิดจากอะไร? 4 สาเหตุหลักที่ควรรู้

รถมีเสียงดังตอนสตาร์ทเช้า เกิดจากอะไร? 4 สาเหตุหลักที่ควรรู้

20 กรกฎาคม 2025
10   0

เคยไหม? ตอนเช้าคุณเดินไปที่รถ เตรียมสตาร์ทเครื่องเพื่อออกไปทำงาน แต่ทันทีที่บิดกุญแจกลับได้ยินเสียง “แกร็ก!” หรือ “ครืดคราด!” ดังออกมาจากห้องเครื่อง ปัญหา รถมีเสียงดังตอนสตาร์ทเช้า เป็นสิ่งที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะกับรถที่มีอายุการใช้งานมานาน หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ

สาเหตุที่ 1 แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมหรือไฟอ่อน

ทำไมแบตเตอรี่ถึงมีผลต่อเสียงตอนสตาร์ท?

เมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมหรือแรงดันไฟไม่เพียงพอ ระบบสตาร์ทรถจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดเสียง “แกร็ก” หรือเสียงมอเตอร์หมุนช้า เสียงเหล่านี้มักเกิดขึ้น ตอนเช้า เพราะอุณหภูมิต่ำทำให้แบตจ่ายไฟได้น้อยลง

สัญญาณที่ควรสังเกต

  • สตาร์ทยากในตอนเช้า
  • ไฟหน้าสลัวลงเมื่อสตาร์ท
  • ใช้งานแบตเกิน 2 ปี

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

  • ตรวจวัดแรงดันแบตด้วยโวลต์มิเตอร์
  • ลองพ่วงแบตจากรถอีกคัน ถ้าสตาร์ทติดแสดงว่าแบตอ่อน
  • พิจารณาเปลี่ยนแบตเตอรี่หากหมดอายุการใช้งาน

สาเหตุที่ 2 น้ำมันเครื่องแห้งหรือเสื่อมสภาพ

เสียงดัง “ครืดคราด” เกิดจากอะไร?

รถมีเสียงดังตอนสตาร์ทเช้า แล้วเงียบหายไปหลังจากขับได้ไม่นาน อาจมีสาเหตุมาจาก น้ำมันเครื่องไหลกลับอ่างพัก ทำให้ช่วงเวลาที่เครื่องยนต์ทำงานใหม่ๆ ไม่มีน้ำมันหล่อลื่นไปเคลือบชิ้นส่วนโลหะ ส่งผลให้เกิดการเสียดสีกันมากกว่าปกติ

สัญญาณบ่งชี้

  • เสียงดังตอนสตาร์ทแล้วเงียบเมื่ออุ่นเครื่อง
  • เช็คน้ำมันเครื่องแล้วต่ำกว่าระดับปกติ
  • น้ำมันเครื่องสีดำและข้นหนืด

วิธีแก้ไข

  • เติมน้ำมันเครื่องให้เต็มระดับ
  • เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามระยะ
  • ใช้น้ำมันเครื่องเกรดที่เหมาะกับรถและสภาพอากาศ

สาเหตุที่ 3 สายพานหน้าเครื่องหย่อนหรือชำรุด

เสียงหวีดหรือเอี๊ยดดังตอนสตาร์ท

หากคุณได้ยินเสียงหวีดแหลมๆ หรือเสียงเสียดสีกันตอนสตาร์ทรถในตอนเช้า มีโอกาสสูงที่ต้นตอคือ สายพานหน้าเครื่อง ซึ่งอาจเกิดจากการเสื่อมสภาพ ขาดความตึง หรือมีความชื้นเกาะจากน้ำค้าง

สัญญาณที่บ่งบอกปัญหา

  • เสียงดังช่วงสตาร์ทแล้วเงียบไปเมื่อขับไปสักพัก
  • สายพานแตกลายงา หรือมีเศษผงหลุดออกมา
  • สังเกตว่าตอนเปิดแอร์หรือพวงมาลัยหนัก เสียงจะชัดเจนขึ้น

วิธีดูแลและแก้ไข

  • ให้ช่างเช็คความตึงของสายพาน
  • เปลี่ยนสายพานทุก 60,000 – 100,000 กม.
  • หลีกเลี่ยงการจอดในที่เปียกชื้นเป็นประจำ

สาเหตุที่ 4 ระบบไอดี/ไอเสียมีปัญหา

เสียงดังผิดปกติจากท่อไอเสียหรือเครื่องยนต์

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ รถมีเสียงดังตอนสตาร์ทเช้า อาจมาจาก ท่อไอเสียรั่ว, หม้อพักแตก, หรือ ซีลรั่วในระบบไอดี ส่งผลให้เกิดเสียง “ปุ้งๆ” หรือเสียงสั่นแรงในช่วงเครื่องยังเย็น

อาการที่มักพบ

  • เสียงท่อดังผิดปกติ
  • ได้กลิ่นควันหรือกลิ่นน้ำมันรั่ว
  • รอบเครื่องสั่นไม่คงที่ช่วงเช้า

แนวทางการแก้ไข

  • ตรวจสอบท่อไอเสียและหม้อพักว่ามีรอยรั่วหรือไม่
  • เช็คระบบเซ็นเซอร์ไอเสีย (O2 sensor)
  • ให้ช่างตรวจเช็คซีลและข้อต่อของระบบไอดี

วิธีป้องกันปัญหา “รถมีเสียงดังตอนสตาร์ทเช้า”

  • ตรวจเช็กแบตเตอรี่ทุก 6 เดือน
  • เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทุก 5,000 – 10,000 กม.
  • หมั่นฟังเสียงผิดปกติทุกครั้งที่สตาร์ทรถ
  • เช็คสายพานและระบบท่อไอเสียปีละ 1 ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการจอดรถในที่ชื้นหรือมีน้ำขังใต้รถ

สรุป อย่ามองข้ามเสียงผิดปกติช่วงเช้า

แม้ว่าเสียงตอนสตาร์ทรถในตอนเช้าอาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่บ่อยครั้งมันคือสัญญาณเตือนของปัญหาใหญ่ที่กำลังจะตามมา การเข้าใจสาเหตุของ รถมีเสียงดังตอนสตาร์ทเช้า จะช่วยให้คุณสามารถรับมือและแก้ไขได้อย่างถูกจุด ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

การดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้รถของคุณใช้งานได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานไปได้อีกยาวนาน