ค่างวดรถเริ่มหนัก! มีวิธีไหนรับมือได้บ้าง?

ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นต่อเนื่อง หลายคนเริ่มรู้สึกถึงภาระที่ถาโถมเข้ามาทุกเดือน โดยเฉพาะ “ค่างวดรถ” ที่เคยรับไหว กลับกลายเป็นภาระใหญ่ หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “ค่างวดรถไม่ไหวแล้ว จะทำยังไงดี?” บทความนี้จะพาคุณไปดูวิธีการรับมืออย่างเป็นระบบ เพื่อให้คุณจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างมีสติ ไม่เสียเครดิต และไม่เสียรถไปอย่างน่าเสียดาย

ทำไมค่างวดรถถึงเริ่มหนัก?

ก่อนจะหาทางออก เราควรมองย้อนกลับมาว่าเหตุใดภาระค่างวดรถถึงเริ่มส่งผลกระทบมากกว่าที่เคย

• รายได้ลดลง เช่น ตกงาน รายได้ไม่แน่นอน หรือค่าจ้างลด
• ค่าใช้จ่ายประจำเดือนเพิ่มขึ้น เช่น ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ค่าเทอม
• อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น ทำให้ค่างวดเพิ่มตาม
• วางแผนการเงินไม่ดี เช่น ซื้อรถเกินกำลัง หรือมีหนี้หลายทาง

วิธีรับมือเมื่อรู้สึกว่า “ค่างวดรถไม่ไหว”

1. ประเมินสถานะการเงินของตัวเองก่อน

• รายได้ประจำและรายได้เสริมมีกี่ทาง?
• รายจ่ายไหนตัดได้ทันทีบ้าง?
• หนี้สินทั้งหมดมีอะไรบ้าง และดอกเบี้ยเท่าไหร่?

2. ติดต่อไฟแนนซ์เพื่อเจรจา

หนึ่งในวิธีที่ได้ผลและควรทำเร็วที่สุดคือ “การติดต่อไฟแนนซ์” ที่คุณผ่อนรถอยู่

• ขอขยายระยะเวลาผ่อน เพื่อลดค่างวดต่อเดือน
• ขอพักชำระหนี้ชั่วคราว (ในบางกรณี)
• ขอปรับโครงสร้างหนี้ เช่น รีไฟแนนซ์ภายในบริษัทเดิม
• ขอเปลี่ยนจากค่างวดแบบต้นเท่ากันทุกงวด เป็นแบบลดต้นลดดอก

ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระโดยไม่แจ้ง เพราะจะทำให้เครดิตเสีย และอาจนำไปสู่การยึดรถ

3. พิจารณารีไฟแนนซ์กับบริษัทอื่น

• ข้อดี: ลดค่างวดต่อเดือน, ได้วงเงินสดเพิ่มเติม, ยืดเวลาผ่อนให้นานขึ้น
• ข้อเสีย: อาจเสียค่าธรรมเนียม และจ่ายรวมมากกว่าเดิม

4. ขายดาวน์หรือเปลี่ยนมือผู้ผ่อน

การขายดาวน์คือการหาคนมาผ่อนต่อ โดยให้เขาจ่ายเงินดาวน์ที่คุณจ่ายไป แล้วโอนสัญญาไฟแนนซ์ให้เขา

• ข้อดี: หลุดจากภาระค่างวด, ไม่กระทบเครดิตบูโร
• ข้อควรระวัง: ต้องเปลี่ยนชื่อในไฟแนนซ์ และระวังมิจฉาชีพ

5. ขายรถทิ้งแล้วเปลี่ยนเป็นรถที่ผ่อนสบายกว่า

หากรถที่ใช้อยู่มีมูลค่าเกินยอดหนี้ การขายรถแล้วซื้อคันใหม่ที่ผ่อนสบายกว่าก็เป็นทางเลือก

• ตัวอย่าง: ขายรถได้ 500,000 บาท แต่ยอดหนี้เหลือ 300,000 บาท → เหลือส่วนต่าง 200,000 บาท

6. เพิ่มรายได้เสริมเพื่อลดภาระ

• ขับรถส่งของหรือขับแอป เช่น Grab, LINEMAN
• ปล่อยเช่ารถรายวัน
• ขายของออนไลน์

ตัวอย่างแผนการจัดการเมื่อ “ค่างวดรถไม่ไหว”

• ประเมินรายจ่าย : ตัดของฟุ่มเฟือย
• ติดต่อไฟแนนซ์ทันที : ขอผ่อนเบาลง
• พิจารณารีไฟแนนซ์ : เปรียบเทียบหลายเจ้า
• ขายดาวน์ : หากไปต่อไม่ไหว
• เสริมรายได้ : ใช้รถสร้างรายได้เสริม

ทางเลือกมีเสมอ แต่อย่าปล่อยให้สถานการณ์แย่ลง

การผ่อนรถอาจเป็นความฝันที่กลายเป็นภาระได้ในบางจังหวะของชีวิต แต่หากคุณเริ่มรู้ตัวว่า “ค่างวดรถไม่ไหว” อย่ารอให้ถึงวันสุดท้ายก่อนจะเคลื่อนไหว เพราะทุกทางเลือกต้องใช้เวลาเตรียมตัว หากลงมือเร็ว มีแผนชัดเจน และเลือกทางที่เหมาะสม คุณจะสามารถก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างมั่นคง