กุญแจรถของคุณ อาจเป็นต้นเหตุของอาการป่วยซ้ำๆ!
ในแต่ละวัน คนเราหยิบจับกุญแจรถนับไม่ถ้วนโดยไม่ทันสังเกต ไม่ว่าจะเป็นตอนออกจากบ้าน ขึ้นรถ หรือลงจากรถ กุญแจกลายเป็นของใช้ประจำที่เราแทบไม่เคยทำความสะอาดเลย แต่รู้หรือไม่ว่า กุญแจรถ สะสมเชื้อโรค ได้มากกว่าสมาร์ทโฟนถึง 4 เท่า และอาจกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยซ้ำๆ โดยไม่รู้ตัว
ทำไมกุญแจรถจึงกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค?
- เพราะใช้งานทุกวัน แต่ไม่เคยล้าง
หลายคนให้ความสำคัญกับการล้างมือ หรือเช็ดทำความสะอาดมือถือ แต่กลับมองข้ามกุญแจรถ ทั้งที่หยิบใช้เป็นประจำทุกวัน ซึ่งการสัมผัสจากมือที่ผ่านสิ่งสกปรกตลอดวัน เช่น เงินสด ลูกบิดประตู หรืออุปกรณ์สาธารณะ ทำให้เชื้อโรคสะสมอยู่บนพื้นผิวของกุญแจได้โดยง่าย - พื้นผิวเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
วัสดุที่ใช้ทำกุญแจ เช่น โลหะ พลาสติก หรือหนังในพวงกุญแจ เป็นวัสดุที่สามารถเก็บเชื้อจุลชีพได้นาน และถ้าไม่มีการทำความสะอาดเลย จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่เชื้อเหล่านี้จะติดต่อเข้าสู่ร่างกายผ่านมือของเรา
เชื้อโรคที่พบบ่อยบนกุญแจรถ
มีงานวิจัยทางจุลชีววิทยาจำนวนมากที่พบว่า กุญแจรถสามารถพบเชื้อที่ก่อโรคต่างๆ ได้จริง โดยเฉพาะเชื้อชนิดที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อทางผิวหนัง ระบบทางเดินอาหาร และระบบหายใจ
ตัวอย่างเชื้อโรคที่พบ ได้แก่
- Staphylococcus aureus – อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง แผลพุพอง และรุนแรงถึงการติดเชื้อในกระแสเลือด
- Escherichia coli (E. coli) – เชื้อที่มักพบในสิ่งปฏิกูล อาจทำให้ท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษ
- Pseudomonas aeruginosa – มีโอกาสก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ
พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกาย
แม้เชื้อโรคจะอยู่บนกุญแจรถ แต่การจะเข้าสู่ร่างกายได้นั้นมักเกิดจากพฤติกรรมที่คุ้นเคยโดยไม่รู้ตัว เช่น
- หยิบกุญแจรถแล้วจับใบหน้า ปาก หรือขยี้ตาทันที
- หยิบกุญแจแล้วรับประทานอาหารโดยไม่ล้างมือ
- วางกุญแจรถบนโต๊ะอาหาร หรือตามพื้นสาธารณะ
- ปล่อยให้เด็กเล็กหรือผู้สูงอายุจับกุญแจเล่น
วิธีลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคบนกุญแจรถ
การป้องกันไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ด้วยวิธีการดังนี้
- ทำความสะอาดกุญแจรถเป็นประจำ
- ใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาดกุญแจอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว เพราะอาจไม่เพียงพอในการฆ่าเชื้อ
- หากมีพวงกุญแจที่เป็นผ้า หนัง หรือวัสดุอื่น ควรถอดและทำความสะอาดแยกกัน
- ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสกุญแจ
- โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร
- พกเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อใช้เมื่อล้างมือไม่ได้
- หลีกเลี่ยงการวางกุญแจในพื้นที่ไม่สะอาด
- หลีกเลี่ยงการวางกุญแจบนโต๊ะอาหารหรือบริเวณพื้นผิวสาธารณะ
- พกกระเป๋าหรือถุงแยกสำหรับเก็บกุญแจเพื่อป้องกันการปนเปื้อนกับของใช้ส่วนตัวอื่นๆ
ใครบ้างที่เสี่ยงจากเชื้อโรคบนกุญแจรถมากเป็นพิเศษ?
- เด็กเล็กที่มีระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง
- ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
- บุคคลทั่วไปที่ไม่ล้างมือก่อนกินอาหารหรือจับใบหน้า
กุญแจรถ สะสมเชื้อโรค ภัยใกล้ตัวที่ต้องระวัง
แม้กุญแจรถจะดูเล็กน้อยและไม่น่ากังวล แต่ความจริงคือเป็นหนึ่งในของใช้ที่เราหยิบจับบ่อยที่สุด การละเลยเรื่องความสะอาดของกุญแจรถจึงอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว และอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยซ้ำๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ
เมื่อเทียบกับสิ่งของอื่นๆ ที่เราทำความสะอาดเป็นประจำ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ กุญแจรถมักถูกลืม ทั้งที่มีโอกาสสะสมเชื้อโรคได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
สรุป
กุญแจรถของคุณอาจเป็นต้นเหตุของอาการป่วยซ้ำๆ ได้จริง เนื่องจาก กุญแจรถ สะสมเชื้อโรค จากการหยิบจับในชีวิตประจำวัน หากไม่มีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เชื้อเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายและส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยะยาว