สาระน่ารู้ » กฎหมายใหม่! จำกัดความเร็วรถในกรุงเทพฯ ไม่เกินเท่าไหร่

กฎหมายใหม่! จำกัดความเร็วรถในกรุงเทพฯ ไม่เกินเท่าไหร่

6 พฤศจิกายน 2025
16   0

ผู้ที่ขับรถในกรุงเทพมหานครคงเคยเห็นป้ายจำกัดความเร็วอยู่ทั่วไป ซึ่งล่าสุดได้มีการปรับปรุง กฎหมายจำกัดความเร็วรถในกรุงเทพฯ ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรและความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน โดยกฎหมายใหม่นี้ได้กำหนดความเร็วสูงสุดของรถแต่ละประเภท รวมถึงระบุเส้นทางที่ได้รับการยกเว้นให้ใช้ความเร็วได้สูงกว่าปกติ

บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดของกฎหมายฉบับใหม่ ว่ากำหนดความเร็วเท่าใด มีผลเมื่อใด ใช้กับถนนประเภทใด และบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนเป็นอย่างไร เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎหมาย

สรุปกฎหมายจำกัดความเร็วรถในกรุงเทพฯ ล่าสุดปี 2568

ตามประกาศของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ความเร็วสูงสุดของรถยนต์ส่วนใหญ่ ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยกเว้นถนนบางสายที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ความเร็วได้มากกว่า

ประเภทของถนนและอัตราความเร็วสูงสุด

  • ถนนในเขตเมืองหรือชุมชนทั่วไป
    • รถยนต์และรถกระบะ : ไม่เกิน 60 กม./ชม.
    • รถจักรยานยนต์ : ไม่เกิน 50 กม./ชม.
    • รถโดยสารขนาดใหญ่ : ไม่เกิน 50 กม./ชม.
  • ถนนนอกเขตชุมชนหรือถนนโล่งที่มีเกาะกลางถนน
    • รถยนต์และรถกระบะ : ไม่เกิน 80–90 กม./ชม.
    • รถโดยสาร : ไม่เกิน 70 กม./ชม.
    • รถบรรทุก : ไม่เกิน 60 กม./ชม.
  • ถนนในเขตพระราชฐานหรือพื้นที่พิเศษ
    • ทุกประเภทรถจำกัดความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม.

เส้นทางที่ได้รับการยกเว้น ใช้ความเร็วได้เกิน 60 กม./ชม.

แม้กฎหมายใหม่จะจำกัดความเร็วในหลายพื้นที่ แต่ยังมีถนนสายหลักบางเส้นทางที่ได้รับการยกเว้น เนื่องจากเป็นถนนมาตรฐานสูงและออกแบบเพื่อรองรับความเร็ว

ถนน 13 สายที่สามารถใช้ความเร็วสูงสุด 80–90 กม./ชม.

  • ถนนวิภาวดีรังสิต
  • ถนนพหลโยธิน
  • ถนนรามอินทรา
  • ถนนศรีนครินทร์
  • ถนนรามคำแหง (บางช่วง)
  • ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
  • ถนนบรมราชชนนี
  • ถนนพระราม 2 (นอกเขตชุมชน)
  • ถนนสุวินทวงศ์
  • ถนนรัชดาภิเษก (บางช่วง)
  • ถนนลาดพร้าว (ช่วงออกเมือง)
  • ถนนแจ้งวัฒนะ
  • ถนนงามวงศ์วาน

ถนนเหล่านี้ได้รับการออกแบบให้มีหลายช่องทางและเกาะกลางถนน มีมาตรฐานเพียงพอต่อการใช้ความเร็วสูงภายใต้เงื่อนไขความปลอดภัย

บทลงโทษเมื่อฝ่าฝืนกฎหมายจำกัดความเร็วรถในกรุงเทพฯ

ผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนดมีโทษปรับตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทั้งจากการตรวจจับด้วยกล้องอัตโนมัติหรือการเรียกตรวจโดยตรง

อัตราค่าปรับตามกฎหมายใหม่

  • ขับเกิน 60 กม./ชม. ในเขตเมือง : ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ขับเกิน 80–90 กม./ชม. ในเขตที่อนุญาต : ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
  • ขับเกิน 120 กม./ชม. ขึ้นไป : มีโอกาสถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่

ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีการติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วหลายจุดทั่วเมือง เช่น ถนนวิภาวดีฯ, พระราม 9, แจ้งวัฒนะ, และบรมราชชนนี ทำให้การฝ่าฝืนสามารถตรวจจับได้อัตโนมัติ

เหตุผลที่ต้องออกกฎหมายจำกัดความเร็วรถในกรุงเทพฯ

  1. ลดอุบัติเหตุและการสูญเสียชีวิตบนท้องถนน
  2. เพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินเท้าและผู้ใช้จักรยานยนต์
  3. ลดมลพิษทางอากาศและเสียงรบกวนในเขตเมือง
  4. รองรับการใช้เทคโนโลยีกล้องตรวจจับความเร็ว (Smart Traffic)
  5. ส่งเสริมวินัยการขับขี่และมาตรฐานความปลอดภัยในเมืองใหญ่

เคล็ดลับขับขี่ให้ถูกกฎหมายและปลอดภัย

เพื่อป้องกันการถูกใบสั่งและสร้างนิสัยขับขี่ปลอดภัย ควรปฏิบัติดังนี้

  • ตรวจสอบป้ายจำกัดความเร็วทุกครั้งเมื่อเข้าสู่พื้นที่ชุมชนหรือถนนใหญ่
  • ใช้ระบบนำทางที่แสดงความเร็วจำกัดแบบเรียลไทม์ เช่น Google Maps หรือ Line Maps
  • รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างน้อย 2 วินาที
  • หลีกเลี่ยงการเร่งแซงในเขตโรงเรียน ตลาด หรือพื้นที่ที่มีคนข้ามถนนจำนวนมาก
  • หากได้รับใบสั่งจากกล้องตรวจจับ ควรตรวจสอบและชำระภายใน 15 วัน

สรุป

กฎหมายจำกัดความเร็วรถในกรุงเทพฯ ปี 2568 เป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อยกระดับความปลอดภัยและลดจำนวนอุบัติเหตุในเขตเมือง แม้บางเส้นทางจะได้รับการยกเว้นให้ใช้ความเร็วสูงได้ แต่ผู้ขับขี่ควรตระหนักถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

การขับรถในกรุงเทพฯ อย่างมีวินัย ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันบนท้องถนนอีกด้วย